กระทรวงสาธารณสุข ยอมรับ เตียงผู้ป่วยโควิด-19 มีไม่เพียงพอ จึงเกิดการกักตัวเองที่บ้าน แต่ต้องเป็นผู้ป่วยสีเขียว และต้องสมัครใจเองเท่านั้น ซึ่งจะมีแพทย์คอยติดตามอาการทุกวัน ขอประชาชนยกการ์ดให้สูงขึ้นหวัง 14 วัน ยอดผู้ป่วยลด 50% แนะกักตัวที่บ้าน
วันที่ 10 ก.ค. 2564 นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงมาตรการทำ Home Isolation หรือการแยกตัวที่บ้าน เพื่อรักษาอาการ และ Community Isolation หรือการดูแลตนเองในระบบชุมชนเพื่อดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่อาการอยู่ในระดับสีเขียวหรืออาการไม่รุนแรงในชุมชน จึงเกิดขึ้น เพื่อแก้ปัญหาเตียงเต็มและลดความรุนแรงการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งการแยกกักตัวต้องเป็นความสมัครใจของผู้ป่วย ที่ติดเชื้อโควิด-19 ในระดับอาการไม่รุนแรง โดยเจ้าหน้าที่คอยติดตามอาการของผู้ป่วยทุกวัน จะมีช่องทางติดต่อกับผู้ป่วย ผ่านระบบเทเลคอเฟอร์เรนซ์ ที่สามารถคุยกับคนไข้วันละ 2 ครั้ง มีอุปกรณ์วัดไข้ และเครื่องวัดออกซิเจนในกระแสเลือด
ในการทดลองของ รพ.ราชวิถี ที่ให้ผู้ป่วยโควิด-19 การแยกกักตัวที่บ้าน พบว่าสามารถรักษาหายได้เอง 20 ราย และหากผู้ป่วยต้องการ เข้าสู่ระบบ Home Isolation สามารถติดต่อผ่านสถานพยาบาล ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกระทรวงสาธารณสุข หรือ ติดต่อได้ที่สายด่วน สปสช.1330 ซึ่งข้อดีของการแยกกักตัวทั้งที่บ้าน และการดูแลโดยชุมชน นั้น จะช่วยลดอัตราการครองเตียงที่ขณะนี้ ยอมรับว่า มียอดผู้ป่วยที่ครองเตียงกว่า 30,000 เตียง ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ อธิบดีกรมการแพทย์ ยังฝากถึงประชาชนทุกภาคส่วน ให้ช่วยกันยกการ์ดให้สูงขึ้นอีก ให้อดทน ในระยะเวลา 14 วันนี้ หากช่วยกันจะสามารถลดอัตราการติดโควิด-19 ลงร้อยละ 40-50 ประเทศไทยจะผ่านวิกฤตินี้ไปได้
ด้าน นพ.ธเรศ กรัศนัยรวิวงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ระบุว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมร่วมกับสมาคม รพ.เอกชน ได้เน้นย้ำว่า ในสถานการณ์ที่ผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้น อยากให้ รพ.เอกชน เข้าไปมีส่วนดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุข อนุญาตให้ใช้ Rapid Antigen test (ชุดตรวจโควิด-19 แบบเร่งด่วน) แล้ว และให้แนะนำผู้ป่วยโควิด-19 ทำ Home Isolation เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในภาคประชาชนด้วย










