อวสานความเงียบ ปั้น ‘คอมมูนิตี้’ ให้ปัง จนลูกค้ากลับมาเสมอ

บางครั้งที่เรากลับไปนั่งชิลล์ที่ร้านซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ใช่เพราะกาแฟดีที่สุด หรือบรรยากาศสวยที่สุด แต่เป็นเพราะที่นั่นทำให้เรารู้สึก “เป็นของเรา” สำหรับธุรกิจยุคใหม่ การสร้างคอมมูนิตี้ให้ลูกค้ารู้สึกเชื่อมโยง จนอยากกลับมาใช้เวลาซ้ำๆ กลายเป็นหัวใจสำคัญของการตลาดและประสบการณ์ผู้บริโภค

ในงาน The Secret Sauce Summit 2025: Unleash the Business Beast ผู้บริหารและผู้ก่อตั้งคอมมูนิตี้ชื่อดังของไทยอย่าง  พนิตา นุตสถิตย์ Marketing Director แห่ง The Commons แสนสิริ ศิริพรเลิศสกุล และ ภัทราพร อร่ามเสรีวงศ์ สอง Co-Founder ของ Good Hood รวมถึง ธีธัช เยื่องศรีกุล Co-Founder แห่ง Tic Tac Toe มาร่วมเปิดเผยกลยุทธ์ที่ทำให้ลูกค้าภักดีต่อแบรนด์ ตั้งแต่การออกแบบพื้นที่ กิจกรรม ไปจนถึงวิธีสร้างความรู้สึก “เป็นเจ้าของ” ให้ผู้คนกลับมาอีกครั้ง

บทความนี้จะสรุปทุกมุมมอง ตั้งแต่แนวคิด การปฏิบัติจริง จนถึงเคล็ดลับการสร้างคอมมูนิตี้ที่เหนียวแน่นและเติบโตได้อย่างยั่งยืน

เรามารู้จักลักษณะของทั้ง 3 คอมมูนิตี้นี้ก่อน 

• • • • The Commons เป็นพื้นที่กว้างๆ นั่งชิลล์ได้ มีร้านขายทั้งแอลกอฮอลล์และอาหาร-เครื่องดื่มทั่วไปให้ผู้คนได้มาใช้เวลากัน บางคนมานั่งดื่มชิลล์หลังเลิกงาน หรือบางคนก็มานั่งทำงานตั้งแต่บ่าย
      • Good Hood เป็นพื้นที่ที่ต้องซื้อบัตรเข้าไป ในงานจะมีทั้งนิทรรศการ และร้านค้าแบรนด์ไทย มีพื้นที่ให้ถ่ายรูป รวมถึงมีอาหาร มีดนตรี ให้ผู้คนได้มาใช้เวลากัน ตัวงานไม่ได้มีตลอดทั้งปี มีเป็นช่วงๆ ต้องติดตาม 
      • Tic Tac Toe เป็นบาร์ตอนกลางคืนใจกลางเอ็มสเฟียร์ และกลางวันก็ยังมี Coffee Party สำหรับคนไม่ดื่มด้วย ภายในร้านบรรยากาศสนุกสนาน ปาร์ตี้ได้เต็มที่ มีส่วนของดีเจ มีพื้นที่บาร์ และโต๊ะรวมถึงโซฟาให้นั่ง มีมุมทำคอนเทนต์เยอะ 

[ The Commons  เชื่อมคนด้วยกิจกรรมหลากหลาย ] 

เริ่มกันที่แนวคิดธุรกิจของ The Commons ‘พนิตา นุตสถิตย์’ เล่าว่า คนรุ่นใหม่ไม่ได้มองหาที่นั่งชิลล์เพียงเพื่อดื่ม แต่ต้องการ “พื้นที่ของตัวเอง” ที่เชื่อมโยงกับผู้คนที่มีความสนใจเหมือนกัน The Commons จึงสร้างคอมมูนิตี้ที่ไม่หยุดนิ่ง มีทั้ง Run Club, theWHOLESOME Tai Chi Club หรือ Reading Party ให้คนที่ไม่ดื่มก็มาเจอกันได้เสมอ กิจกรรมเหล่านี้ทำให้ลูกค้ารู้สึกสนิทกับสถานที่ และอยากกลับมาเจอกันบ่อยๆ

[ Good Hood  สถานที่ที่โตไปพร้อมกัน ] 

เช่นเดียวกันฝั่ง Good Hood ที่มีการขายสินค้าของแบรนด์ต่างๆ และเป็นพื้นที่ให้ผู้คนและลูกค้าได้มาพบปะเจอกัน ก็มองว่าคอมมูนิตี้คือการสร้างพื้นที่ที่ทุกคนได้เชื่อมโยงกัน แต่ย้ำชัดกว่านั้นว่าอยากให้ทุกคนเติบโตไปด้วยกันไม่ว่าจะเป็นแบรนด์กับลูกค้า หรือการเจอเพื่อนใหม่ หรือแม้กระทั่งคนรัก Good Hood อยากให้ผู้คนที่มารวมตัวกันได้แบ่งปันและเติมเต็มกันและกัน จนกลายเป็นเครือข่ายความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นเกินกว่าการเป็นลูกค้าทั่วไป

[ Tic Tac Toe  จากบาร์สู่พื้นที่ปาร์ตี้ทุกรูปแบบ ] 

ด้าน ‘ธีธัช เยื่องศรีกุล’ Co-Founder Tic Tac Toe เริ่มต้นจากแนวคิดง่ายๆ ว่าเวลาไปบาร์ คนมักอยาก “ย้ายร้าน” ไปเรื่อยๆ จึงปั้นพื้นที่ที่ให้สนุกได้ครบในที่เดียว ไม่ต้องไปต่อ แต่เมื่อร้านได้รับความนิยม ก็ขยายความหมายของคำว่า “ปาร์ตี้” ออกไป ไม่จำกัดแค่การดื่มกลางคืน จนเกิดเป็นกิจกรรม Coffee Party สำหรับคนที่อยากสนุกแต่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ โดยใช้เวลากว่า 2 ปีในการเฟ้นหาพาร์ทเนอร์กาแฟที่เหมาะสม เพื่อให้ Tic Tac Toe เป็นพื้นที่ที่ทุกคนเข้ามาเอ็นจอยได้

[ ความสนุก เป็นตัวเอง และคอนเนคชั่นที่ดี จุดแข็งของ 3 คอมมูนิตี้ ]

สำหรับจุดแข็งหลักที่ทำให้ 3 คอมมูนิตี้นี้มีชื่อเสียงและมีกลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการแตกต่างกัน ‘ธีธัช’ บอกว่า Tic Tac Toe มี Core Value คือ “ความสนุก” ผ่านดนตรีและบรรยากาศ

อีกจุดแข็งสำคัญคือกิจกรรมดี สนุก ทำให้เกิดการสร้างคอนเทนต์จากลูกค้าที่มีพลัง ทำให้เกิดโพสต์มากกว่าหลายพันครั้งและยอดวิวหลายสิบล้าน อีกทั้งยังมีฐานลูกค้าประจำ และมีสิทธิพิเศษเฉพาะกลุ่ม ขณะเดียวกันก็ยังเปิดกว้างรองรับลูกค้าที่หลากหลาย ตั้งแต่ Party Lover จนถึง Ex-Party Lover ที่อยากสนุกแต่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์

ส่วนหัวใจของ The Commons ‘พนิตา’ อธิบายว่าคือ “ความจริงใจ” และ “การเป็นตัวเอง” ทีมงานสร้างคอมมูนิตี้ที่เน้นให้คนมาเชื่อมโยงกันจริงๆ ผ่านกิจกรรมที่จัดอย่างสม่ำเสมอ เช่น Run Club หรือ Reading Party ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้โดยไม่แบ่งแยก ทีมงานให้ความสำคัญกับการรับฟังความคิดเห็นของสมาชิก 

โดยมองตัวเองเป็นแพลตฟอร์มมากกว่าผู้นำ ที่สำคัญ The Commons ลงรายละเอียดกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด (High Touch) ใช้งบโฆษณาน้อย แต่ใช้เวลาและความสัมพันธ์แทน กิจกรรมต่างๆ ทั้งยังช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจ ดึงดูดสปอนเซอร์และผู้เช่ารายใหม่

มาที่ Good Hood ‘ภัทราพร’ เล่าให้ฟังว่า  โดดเด่นในการสร้าง “Connect Platform” ที่รวมผู้คนและแบรนด์ใหม่ๆ เข้าด้วยกัน โดยมีงานประจำปีที่กลายเป็นเอกลักษณ์ ดำเนินมาแล้วกว่า 6 ปี จุดแข็งคือการทำงานร่วมกับเพื่อนและเครือข่ายในวงการ 

ทำให้ทุกคนเติบโตไปด้วยกันบนพื้นฐานของความจริงใจและการเป็นตัวเอง Good Hood ใส่ใจทั้งลูกค้าและผู้ค้า อ่านทุกคอมเมนต์เพื่อปรับปรุงงาน พร้อมลดกำแพงในการเข้าถึงระหว่างกัน งานยังสะท้อนความเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าที่ต้องการความชิลล์และง่ายต่อการเสพคอนเทนต์ และช่วยต่อยอดเป็นโอกาสทางธุรกิจให้ทั้งผู้ค้าและสปอนเซอร์

[ วิธีมัดใจให้ลูกค้ามาคอมมูนิตี้เราได้บ่อยๆ ]

สรุปหัวใจหลักความสำเร็จของ Tic Tac Toe, The Commons และ Good Hood ใช้วิธีคล้ายกัน คือความจริงใจ ฟังลูกค้า สร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของ ทำอย่างสม่ำเสมอ และขยายนิยามความสนุก ทำให้คอมมูนิตี้ของพวกเขาแข็งแรงและดึงดูดผู้คนกลับมาเสมอ