‘ไอคอนสยาม’ สร้างปรากฏการณ์ยิ่งใหญ่อีกครั้งบนเวทีอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกระดับโลก ขึ้นแท่นเป็น 1 ใน 3 สุดยอดโครงการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการค้าปลีกที่ทรงอิทธิพลที่สุดในรอบ 30 ปี หรือ Most Influential Retail Property Project of the Past 30 Years จากเวทีระดับโลก MAPIC Awards 2025
ซึ่งเป็นเวทีที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “รางวัลออสการ์ของวงการ Retail” ตอกย้ำภาพลักษณ์ของไอคอนสยามที่เป็นสัญลักษณ์แห่งนวัตกรรมและการสร้างสรรค์ที่ล้ำเลิศ สร้างแรงบันดาลใจและสามารถดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จอีกครั้งหนึ่งของสยามพิวรรธน์ ซึ่งเป็นเจ้าของคอนเซปต์ในการพัฒนา Global Destination ที่สร้างประสบการณ์เหนือความคาดหมาย เป็น Game Changer ที่แสดงให้โลกเห็นชัดเจนแล้วว่าศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยนั้นไม่แพ้ชาติใดในโลก
[ ไอคอนสยาม กำเนิดสัญลักษณ์ใหม่แห่งความภาคภูมิใจของประเทศไทย ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ]
ไอคอนสยาม คืออภิมหาโครงการเมืองที่เป็นแลนด์มาร์กของประเทศไทยริมแม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นสัญลักษณ์แห่งความภูมิใจของคนไทย โดยเกิดจากการร่วมลงทุนของสามองค์กรชั้นนำ ได้แก่ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด, แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น และ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 60,000 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 55 ไร่ และพื้นที่ใช้สอยรวมกว่า 750,000 ตารางเมตร
ไอคอนสยามถูกออกแบบให้เป็นอภิมหาโครงการเมืองแห่งการใช้ชีวิตสู่โลกอนาคต ซึ่งรวบรวมสิ่งที่ดีที่สุดของโลกกับสิ่งที่ดีที่สุดของไทยเข้าไว้ด้วยกัน ประกอบด้วยอาณาจักรศูนย์การค้าสุดอลังการ คอนโดมิเนียมหรูระดับโลก 2 อาคาร และ “7 สิ่งมหัศจรรย์แห่งไอคอนสยาม” ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ไอคอนสยาม เป็น “World-Class Destination” ที่เป็นต้นแบบการพัฒนาเมืองที่สมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศไทย โดยได้เปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
[ MAPIC เวทีระดับโลกด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีก ]
สำหรับ MAPIC คือเวทีระดับโลกด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีก ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส โดยมีผู้เข้าร่วมงานนิทรรศการและสร้างเครือข่าย กว่า 4,000 คนจากกว่า 75 ประเทศทั่วโลก ทั้งนักลงทุน ผู้พัฒนาโครงการ ผู้บริหารแบรนด์ค้าปลีก และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมค้าปลีกโลก เพื่อแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ นวัตกรรม และแนวโน้มใหม่ๆ ในวงการค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์
[ ไอคอนสยาม’ ขึ้นแท่นเป็น 1 ใน 3 ‘โครงการที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลกในรอบ 30 ปี ]
ไอคอนสยาม สร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญบนเวทีโลก ด้วยการเป็นโครงการหนึ่งเดียวจากประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียที่สามารถผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย (Finalist) ร่วมกับอีกสองโครงการ คือ Puerto Venecia จากประเทศสเปน และ Westfield London จากสหราชอาณาจักร
โดยไอคอนสยามได้รับการยกย่องเป็น 1 ใน 3 สุดยอดโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกที่ทรงอิทธิพลที่สุดในรอบ 30 ปี หรือ Most Influential Retail Property Project of the Past 30 Years จากเวที MAPIC Awards 2025

คุณชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ได้กล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า “ความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์นี้เกิดขึ้นจากพลังแห่งความร่วมมือ ศรัทธาและจิตวิญญาณของบริษัทคนไทยที่ได้ตั้งใจสร้างแลนด์มาร์กใหม่ของประเทศ เพื่อนำเสนออัตลักษณ์ของความเป็นไทย โดยมีแรงบันดาลใจจากการที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นแบบอย่างของการนำเสนอความเป็นไทยที่งดงาม
โดยทั้งสองพระองค์ได้ทรงงานตลอดพระชนม์ชีพ เพื่อพัฒนาความสามารถของคนไทยจากภูมิปัญญาไทยในเรื่องต่างๆ ให้กลายเป็นเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่ทรงคุณค่าและมีมูลค่ามหาศาล ทรงเป็นแรงบันดาลใจให้เรามุ่งมั่นดำเนินรอยตาม และน้อมนําความเป็นไทยมาใช้ในการพัฒนา Global Destination เพื่อแข่งขันในเวทีโลกอย่างภาคภูมิ ในวันนี้ที่ไอคอนสยามได้เป็นโครงการหนึ่งเดียวจากประเทศไทยและเอเชีย ที่ได้รับการยกย่องเป็น 1 ใน 3 โครงการที่ทรงอิทธิพลของโลกนั้น ถือว่าได้บรรลุปณิธานแรกเริ่ม ที่จะให้โครงการนี้สร้างชื่อเสียงและเกียรติภูมิให้แก่ประเทศไทย ให้โลกได้รู้ว่าคนไทยไม่เป็นรองใครในเวทีโลก”
“โอกาสนี้ในนามของผู้ร่วมทุนทั้งสามฝ่าย คือ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด, แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น และ เครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมทั้งผู้บริหารและพนักงานของไอคอนสยาม ขอขอบคุณ The Makers ผู้ร่วมสร้างโครงการนี้ อันได้แก่คนไทยทั้งประเทศ และบรรดาผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาต่างๆ จาก 15 ชาติ ใน 4 ทวีปทั่วโลก ที่รวมพลังกันเนรมิตแลนด์มาร์กแห่งนี้ให้เกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ
รวมถึงชุมชนโดยรอบ และผู้ประกอบการทั้งหมดริมแม่น้ำเจ้าพระยา พันธมิตรทางธุรกิจ ที่ร่วมสร้างและสนับสนุนไอคอนสยามอย่างดียิ่งตลอดมาจนประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดของโลกในวันนี้ พวกเราได้ทำให้ผู้คนทั้งโลกหันกลับมามองที่แม่น้ำเจ้าพระยาสายนี้ และได้เห็นความเจริญรุ่งโรจน์ของประเทศไทย อีกทั้งได้สัมผัสประสบการณ์ที่ตื่นตาตื่นใจและมีคุณค่าอย่างไม่มีที่ใดเสมอเหมือน”
“ตั้งแต่เปิดดำเนินการมาเป็นเวลา 7 ปี ไอคอนสยามได้พิสูจน์ให้เห็นถึงบทบาทสำคัญในการพลิกโฉมเมืองธนบุรี ให้กลายเป็นศูนย์กลางการค้าที่ยิ่งใหญ่ทัดเทียมฝั่งกรุงเทพมหานคร และยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนโดยรอบให้เติบโตไปพร้อมกัน โครงการนี้จึงมีความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะร่วมสร้างคุณค่า (Shared Value) และเป็นแม่เหล็กที่ช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพื่อให้ประเทศไทยยืนหยัดได้อย่างสง่างามตลอดไป”
และอีกหนึ่งในความภาคภูมิใจสูงสุดของสยามพิวรรธน์ คือการมีส่วนร่วมในการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยบนเวทีโลก และการประกาศให้โลกรู้ว่า คนไทยมีความคิดสร้างสรรค์และความสามารถไม่แพ้ชาติใดในโลก รางวัลอันทรงเกียรตินี้จึงไม่ใช่เพียงความสำเร็จขององค์กร หากแต่เป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติยศ ความภาคภูมิใจ และแรงบันดาลใจของคนไทยทุกคน เสมือนการนำธงชาติไทยไปโบกสะบัดอย่างสง่างามบนเวทีโลก
พลังของการพัฒนาเมืองที่สร้างคุณค่าร่วมทุกภาคส่วน สู่ความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ
กว่า 13 ปีนับตั้งแต่การประกาศวิสัยทัศน์อันยิ่งใหญ่ ไอคอนสยามได้พิสูจน์ให้เห็นถึงพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงด้วยการพลิกพื้นที่ฝั่งเมืองธนบุรีให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจ สังคม และสถานการณ์บ้านเมือง โครงการนี้ได้ฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ตั้งแต่การวางผังเมือง การสร้างความเข้าใจในวิสัยทัศน์ ไปจนถึงการเปิดตัวอย่างสง่างามในปี 2561 และการยืนหยัดผ่านวิกฤตโควิด-19 อย่างแข็งแกร่ง
ไอคอนสยามเป็นหัวใจของการขับเคลื่อน “แผนแม่บทวิสัยทัศน์แห่งแม่น้ำเจ้าพระยา” แผนความร่วมมือระดับชาติที่มุ่งยกระดับสองฝั่งแม่น้ำให้เป็นสัญลักษณ์และจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวระดับโลก เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจและการพัฒนาอย่างยั่งยืนแก่ทุกภาคส่วน พร้อมกันนี้ยังมีบทบาทสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจโดยรอบอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งการพัฒนาพื้นที่ริมแม่น้ำและถนนเจริญนคร ส่งผลให้มูลค่าที่ดินเพิ่มขึ้นจาก 250,000 บาท เป็น 700,000 บาทต่อตารางวา ธุรกิจริมแม่น้ำเติบโตกว่า 60% โรงแรมมีอัตราค่าห้องพักและการเข้าพักเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังสร้างงานมากกว่า 400,000 อัตราและเป็นจุดหมายปลายทางดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 115 ล้านคน สู่ประเทศไทย
นอกจากนี้ ไอคอนสยามยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่กว่า 60 โครงการ ภายในรัศมี 1 กิโลเมตร และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม เป็นจุดเชื่อมโยงการสัญจรทั้งระบบรถ ราง เรือ และการเชื่อมต่อรถไฟฟ้า ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศไทย
แบรนด์ระดับโลกแห่เปิดสาขาแรกที่ไอคอนสยาม ฝั่งธนฯ มูลค่าการลงทุนทะลุ 1,500 ล้านบาท
ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 ต่อเนื่องถึงไตรมาสแรกของปี 2569 ไอคอนสยามยังคงได้รับความไว้วางใจจากผู้ประกอบการและแบรนด์ชั้นนำระดับโลกอย่างต่อเนื่อง โดยมีแบรนด์ใหม่กว่า 51 ราย ทั้งลักซ์ชัวรีและแบรนด์ไทยชั้นนำ เลือกเปิดสาขาแรกของประเทศไทย ณ พื้นที่ไอคอนสยาม ฝั่งธนบุรี แทนที่จะเลือกฝั่งกรุงเทพฯ สะท้อนถึงศักยภาพของโครงการที่สามารถพลิกฟื้นพื้นที่ฝั่งธนฯ ให้กลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจและไลฟ์สไตล์ระดับโลกอย่างแท้จริง พร้อมด้วยแบรนด์อีกนับร้อยรายที่อยู่ในรายชื่อ Waiting List รวมมูลค่าการลงทุนกว่า 1,500 ล้านบาท อาทิ
-
-
-
- แฟล็กชิปสโตร์ใหม่: Hermès ที่ตั้งอยู่บริเวณ ICONLUXE โดยมีพื้นที่สองชั้น (Duplex) เป็นแห่งแรกของประเทศไทย ปรับขยายพื้นที่พร้อมนำเสนอคอนเซปต์ใหม่ เช่นเดียวกับ Prada จะเพิ่มพื้นที่เป็น Duplex แห่งแรกในไทย และ Tiffany & Co. ขยายพื้นที่ขนาดใหญ่ด้วยคอนเซปต์ดีไซน์ใหม่
- ร้านขนาดใหญ่ที่สุด: Loro Piana เปิดสาขาที่ไอคอนสยามโดยจะมีขนาดใหญ่ที่สุดในไทย และ GIORGIO ARMANI ยกระดับประสบการณ์ ด้วยห้อง Made-to-Measure เปิดให้บริการให้คำปรึกษาและตัดเย็บสูทส่วนบุคคล ครอบคลุมทุกหมวดหมู่และมีขนาดใหญ่ที่สุด Moncler Flagship Store แบรนด์แฟชั่นเสื้อกันหนาวจากประเทศอิตาลี
- คอนเซ็ปต์ใหม่ในเอเชีย: Fendi เปิดตัว New Concept in Region ซึ่งเป็นคอนเซปต์ใหม่ล่าสุดและเป็นที่แรกในเอเชีย
- แบรนด์ระดับโลกเปิดสาขาแรกในไทย: Brunello Cucinelli แบรนด์แฟชั่นหรูจากอิตาลี, Zimmermann แบรนด์เสื้อผ้าและไลฟ์สไตล์ชื่อดังของออสเตรเลีย first store in Thailand, ON Official Store แห่งแรก และเป็น Flagship ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ทุบสถิติยอดขายเปิดร้านวันแรกสูงที่สุดในโลก
- Global Landmark Store และใหญ่ที่สุดของโลก: POP MART Global Landmark Store ใหญ่ที่สุดในโลกที่ตั้งอยู่นอก POPLAND ประเทศจีน
- เมกะสโตร์ใหญ่ที่สุดในไทย: Gentle Monster และ Tamburins Store แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- คอนเซ็ปต์ใหม่ครั้งแรกในโลก: The North Face กับคอนเซปต์ร้าน ONE BOX PRO Concept Store
- แบรนด์ชั้นนำอื่นๆ ต่างทยอยเปิดสาขาใหม่ที่ไอคอนสยาม อาทิ Burberry, Omega, Club21 Multi Label, Versace, Glintz Jewelry, Carolina Lemke, Orlebar Brown, KAYOU (Art Toy) รวมทั้งร้านอาหาร อาทิ Bianca , Tonkatsu Aoki , Laderach , Beans Coffee Roaster, Easy Buddy, Rolling Pinn, Chagee, Rangoon Tea House ร้านแรกในไทย
-
-
นับตั้งแต่เปิดดำเนินการในปี 2561 ไอคอนสยามได้สร้างชื่อเสียงให้วงการค้าปลีกไทย ด้วยการได้รับรางวัลชนะเลิศระดับโลกในสาขาต่างๆ มากกว่า 53 รางวัลจากเวทีและสถาบันชั้นนำระดับโลก ทั้งการเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก รางวัลศูนย์การค้าที่เป็นสุดยอดนวัตกรรมการออกแบบ รางวัลด้านการตลาด การสร้างสรรค์ประสบการณ์ และการสร้างคุณค่าให้กับประเทศไทย
“รางวัลอันทรงเกียรติในครั้งนี้ จึงไม่ใช่ของสยามพิวรรธน์ แต่เป็นรางวัลของประเทศไทย เป็นเกียรติยศ และความภาคภูมิใจอันยิ่งใหญ่ของคนไทยทุกคน เราจะมุ่งมั่นและทุ่มเททำทุกวิถีทาง เพื่อให้ไอคอนสยามเป็น ‘แม่เหล็ก’ ดึงดูดที่ทรงพลัง ที่จะทำให้คนทั้งโลกกลับมาเยี่ยมเยือนประเทศไทยครั้งแล้วครั้งเล่า และหลงรักประเทศไทยอีกครั้งอย่างไม่มีวันสิ้นสุด” คุณชฎาทิพ กล่าวเสริม











