ไม่ต้องหรูหรา แต่ครบครัน Garner Hotels Pattaya Central เตรียมเปิดพัทยาภายในปีนี้

ไม่ต้องหรูหรา แต่ครบครัน Garner Hotels Pattaya Central เตรียมเปิดพัทยาภายในปีนี้

IHG Hotels & Resorts ประกาศเปิดตัวแบรนด์ Garner Hotels อย่างเป็นทางการในภูมิภาค โดยเลือก ‘พัทยา’ เป็นจุดหมายแรก ด้วยโครงการ Garner Hotel Pattaya Central ที่เตรียมเปิดให้บริการภายในปีนี้

สำหรับ Garner เป็นแบรนด์โรงแรมในกลุ่ม Midscale Conversion Brand ของ IHG ที่เปิดตัวในปี 2566 และขยายตัวอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีโรงแรมเปิดแล้วกว่า 51 แห่งทั่วโลก สัดส่วนสูงสุดอยู่ในประเทศเยอรมนี 45% สหรัฐอเมริกา 35% รวมถึงประเทศในยุโรป 14% และญี่ปุ่น 6%

มีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีกกว่า 87 แห่ง จุดเด่นของ Garner คือการตอบโจทย์นักเดินทางที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของความสะดวกสบาย คุ้มค่า และครบถ้วนในสิ่งจำเป็น มากกว่าความหรูหรา

[ โรงแรมที่ ครบ คุ้ม และสบาย ]

‘วิเวก บัลลา’ กรรมการผู้จัดการ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลี IHG เล่าว่า Garner Hotels ถูกวางตำแหน่งในตลาด Midscale เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ต้องการโรงแรมเดินทางสะดวก มีคุณภาพครบถ้วนในสิ่งจำเป็น แต่ไม่เน้นความหรูหราเกินความจำเป็น การันตีด้วยบริการมาตรฐาน IHG เช่น เตียงนอนคุณภาพ Wi-Fi ฟรี เครื่องชงกาแฟสด และโซนร้านค้าภายในโรงแรม

โดยโรงแรมแห่งแรกที่เตรียมจะเปิดที่พัทยา จะมีห้องพักและห้องสวีทรวมกันทั้งหมด 153 ห้อง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องอาหารตลอดวัน และบริการซักผ้าแบบ Self-service

เบื้องหลังโครงการนี้คือการจับมือกับ บริษัท โนวา ปาร์ค จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาฯ รายใหญ่ในพัทยา ซึ่งเคยทำงานกับ IHG ในโครงการ Holiday Inn Express Pattaya Central มาแล้ว และประสบความสำเร็จในการเจาะตลาดเมืองท่องเที่ยวชายทะเล

การเข้ามาของ Garner Hotel Pattaya Central จะทำให้ IHG มีโรงแรมในพัทยารวม 4 แห่ง ต่อจาก InterContinental Pattaya Resort, Holiday Inn Pattaya และ Holiday Inn Express Pattaya Central และจะช่วยขยายเครือข่าย IHG ในไทยที่ตอนนี้มีโรงแรมเปิดแล้ว 40 แห่ง พร้อมอีกกว่า 41 โครงการที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา

[ ทำไมต้องเป็น ‘พัทยา’ ]

ทาง ‘เอลี่ ไฟน์แมน’ กรรมการบริษัท โนวา กรุ๊ป ได้เล่าว่า การเลือกเมืองพัทยาเป็นที่ตั้งของ Garner Hotel แห่งแรกในประเทศไทย ไม่ได้เป็นเพียงการต่อยอดจากชื่อเสียงเมืองท่องเที่ยวชายทะเล แต่สะท้อนถึงยุทธศาสตร์การลงทุนระยะยาวของ IHG ด้วยหลายปัจจัยสำคัญ ได้แก่

1.ศูนย์กลางการท่องเที่ยวระดับโลก : พัทยาคือหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ติดอันดับต้น ๆ ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยทุกปี ด้วยความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยว ทั้งชายหาด สถานบันเทิง และกิจกรรมทางน้ำ ทำให้เมืองนี้มีดีมานด์ด้านที่พักสูงตลอดทั้งปี ไม่ใช่เฉพาะฤดูกาลท่องเที่ยว

2.ประตูสู่โครงการ EEC : พัทยาเป็นส่วนหนึ่งของ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่รัฐบาลไทยกำลังผลักดันเต็มที่ ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง–สุวรรณภูมิ–อู่ตะเภา), การขยายท่าเรือแหลมฉบัง และการลงทุนจากภาคอุตสาหกรรมขั้นสูง สิ่งเหล่านี้ดึงดูดทั้งนักลงทุนและนักธุรกิจให้เดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเท่ากับเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ให้กับธุรกิจโรงแรก

3.ตลาดโรงแรมที่ยังมีช่องว่าง : แม้พัทยาจะมีโรงแรมและรีสอร์ตจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่กระจุกตัวในระดับหรูหรือรีสอร์ตริมชายหาด ในขณะที่นักท่องเที่ยวกลุ่มกลาง–บน ซึ่งมองหาที่พักทันสมัย สะดวกสบาย เดินทางง่ายในราคาที่คุ้มค่า ยังคงมีตัวเลือกไม่มาก การมาของ Garner Hotels จึงเข้ามาเติมเต็มช่องว่างนี้ได้อย่างลงตัว

4.การเข้าถึงที่สะดวกจากกรุงเทพฯ : พัทยาอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 90 นาทีโดยรถยนต์ และใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้ไม่เพียงเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชาวต่างชาติเท่านั้น แต่ยังรองรับนักท่องเที่ยวในประเทศที่เดินทางแบบสั้นๆ ได้ด้วย เหมาะกับพฤติกรรมการท่องเที่ยวหลังโควิดที่นิยม Short Trip หรือ Weekend Getaway

[ ไม่ต้องสร้างใหม่ แค่รีแบรนด์ ]

IHG ใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า Conversion Strategy หรือที่เข้าใจง่ายๆ  ในธุรกิจโรงแรม ก็คือ การเอาโรงแรมที่สร้างและเปิดให้บริการอยู่แล้วมา ‘เปลี่ยนป้าย รีแบรนด์’

 ซึ่งช่วยให้เจ้าของโรงแรมเข้าถึงระบบจอง ฐานลูกค้า และมาตรฐานการบริหารของ IHG ได้รวดเร็วโดยไม่ต้องลงทุนสร้างใหม่ทั้งหมด จุดนี้ทำให้ลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสคืนทุนเร็วขึ้น

ในครึ่งแรกของปี 2025 การ Conversion คิดเป็นกว่า 57% ของห้องพักใหม่ทั่วโลก และกว่า หนึ่งในสามของสัญญาใหม่อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สะท้อนว่าเจ้าของโรงแรมมองโมเดลนี้เป็น ‘ทางลัด’ ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ขณะเดียวกัน IHG เองก็สามารถขยายพอร์ตได้ไว ตอบโจทย์ดีมานด์ในเมืองท่องเที่ยวสำคัญอย่างพัทยาได้ทันที

สุดท้าย การเปิดตัว Garner Hotel Pattaya Central ไม่ได้เป็นเพียงการเพิ่มโรงแรมใหม่ในพัทยา แต่เป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนกลยุทธ์ของ IHG ในการขยายพอร์ตโฟลิโอผ่านกลยุทธ์ Conversion ซึ่งช่วยให้เติบโตได้เร็วเเละนักท่องเที่ยวได้ที่พักคุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย

ส่วนในภาพใหญ่ นี่คือการยืนยันว่า IHG กำลังเดินเกมรุกในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างจริงจัง โดยใช้ประเทศไทยหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของโลก เป็นการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ ที่อาจกลายเป็นต้นแบบในการขยายไปยังเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ในอนาคต

ManassaweeWriterManassawee
นักข่าวการเงิน ที่มีความสนใจเรื่องการลงทุนและการตลาด อยากสื่อสารให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง