เปิดใจ ‘วิทยา แก้วภราดัย’ ทิ้งปชป. จี้ ‘จุรินทร์’ แสดงสปิริตลาออก กรณี ‘ปริญญ์’

เปิดใจ ‘วิทยา แก้วภราดัย’ ทิ้งปชป. จี้ ‘จุรินทร์’ แสดงสปิริตลาออก กรณี ‘ปริญญ์’

การเมือง

เปิดใจ ‘วิทยา แก้วภราดัย’ ทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ จี้ ‘จุรินทร์’ และกรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบัน แสดงสปิริตลาออก รับผิดชอบจากกรณีอื้อฉาวของ ‘ปริญญ์’ ก่อนที่จะไม่เหลือแม้แต่พรรค

‘วิทยา แก้วภราดัย’ นักการเมืองรุ่นใหญ่ที่อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ มาตั้งแต่การเลือกตั้งปี พ.ศ. 2538 แต่เช้าวันนี้ตัดสินใจ ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ด้วยเหตุผลที่ชัดเจนว่า เพราะกรณีที่เกิดขึ้นกับ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรค ที่ปัจจุบันได้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอื้อฉาวแวดวงการเมืองไทยที่เกี่ยวข้องกับการคุกคามทางเพศ

วันนี้ ‘วิทยา แก้วภราดัย’ ได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับ workpointTODAY ถึงเหตุผลในการตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองที่ตนเองนั้นอยู่ด้วยมายาวนานที่สุด ตั้งแต่เป็นนักการเมือง รวมถึงสิ่งที่ต้องการให้หัวหน้าพรรค ‘จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์’ และกรรมการบริหารพรรค ‘ประชาธิปัตย์’ ชุดปัจจุบัน ดำเนินการทันที

“ผมอยากให้เขา มีคนรับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพรรค ไม่มีใครรับผิดชอบ ผมก็แสดงความรู้สึกในฐานะสมาชิกพรรคว่า สมาชิกเขากังวล มันต้องมีคนรับผิดชอบ แล้วก็มาตรฐานของความรับผิดชอบทางการเมือง มันสูงกว่าความรับผิดในทางกฎหมาย มันต้องเหนือกว่า แค่นั้นเอง ผมเลยตัดสินใจลาออก เพื่อให้ผู้บริหารเขารู้ครับว่า สมาชิกเขาอึดอัด ถ้าบริหารกันอย่างนี้” วิทยา เปิดเผยเหตุผลทิ้งพรรคประชาธิปัตย์

ตัดสินใจเรื่องนี้นานหรือไม่

วิทยา : ผมก็นั่งดูมาตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ แล้วก็นับถอยหลังทุกวัน คิดว่าเขาคงทำอะไรบ้าง

มองการแถลงข่าวของ ‘จุรินทร์’ ที่ออกมาขอโทษสังคม ในวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมาอย่างไร 

วิทยา : คือผมเป็นห่วง เพราะว่าคนมันไม่ได้ลามปามว่าคุณจุรินทร์ผิด เขาด่า รุมด่าพรรค ซึ่งถามว่าพรรคมันเป็นนามธรรม มันก็เหมือนศาลา เหมือนวัด แต่คนที่ทำให้ชื่อเสียงหม่นหมอง ก็คือคนที่ขึ้นมาบริหารอยู่ วัดเขาอยู่ดีๆ เจ้าอาวาสมันเสือกปาราชิกก็ต้องปลด ปลดเจ้าอาวาส จะไปรื้อวัดทิ้งทำไม เพราะว่ากว่าเขาจะทำเป็นวัดมาได้เกือบร้อยปีแล้ว มันก็ต้องมีความรับผิดชอบมากกว่านั้น ความรับผิดชอบที่สำคัญกว่านักการเมือง คือรับผิดชอบต่อความรู้สึกของประชาชน ผมเคยทำมาแล้วว่า ผมจะรับผิดชอบกับความรู้สึกของประชาชน แล้วผมก็ตัดสินใจทันที ถ้าประชาชนรู้สึกว่าเราไม่ถูกต้อง ไม่ต้องผิดกฎหมายหรอกครับ แค่เราบกพร่องหรือไม่ถูกต้อง ผมก็ตัดสินใจทันที ไม่ปล่อยให้องค์กรเขาเสียหาย

ความอึดอัดของสมาชิกในพรรคต่อเรื่องที่เกิดขึ้นจาก ‘ปริญญ์’ เป็นอย่างไร

วิทยา : ผมแค่เป็นสมาชิกพรรค ไม่ใช่ ส.ส. แต่ผมคุยกับชาวบ้านที่เขาเป็นสมาชิกพรรค เขาก็สะท้อนมา รู้ว่าเจ้าของพรรคที่แท้จริงเขาคิดเห็นอย่างไร พวกคนที่มาแสดงบทบาทในพรรคไม่ใช่เจ้าของพรรคที่แท้จริง พวกผมถูกสอนว่าเจ้าของพรรคที่แท้จริงคือสมาชิกพรรค ที่โลดแล่นกันคุณเป็นตัวแทนพวกผมไปโลดแล่นแค่นั้นเอง พวกผมเป็นเจ้าของพรรค

จะมีใครในประชาธิปัตย์ ลาออกจากกรณีนี้อีกหรือไม่

วิทยา : ผมไม่ได้หารือเพื่อนๆ ที่เป็น ส.ส. ผมคิดว่าผมโตพอที่จะตัดสินใจได้เอง

มองว่ากรณีที่เกิดขึ้นนี้ กรรมการบริหารพรรค และ นายจุรินทร์ ควรจะต้องรับผิดชอบอย่างไร

วิทยา : ลาออกครับ พรรคก็ไม่ตาย พรรคก็มีคนมาทดแทนเป็นรุ่นๆ พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่ของใคร ไม่ใช่ของตระกูลใดตระกูลหนึ่ง พรรคนี้เป็นพรรคของสมาชิกเป็นของประชาชนคืนกลับให้ประชาชนเขาหาคนของเขาเอง

เหตุที่เกิดขึ้นกับพรรคครั้งนี้กระทบกับความรู้สึกขนาดไหน

วิทยา : ผมว่ามันเปราะบางมากเรื่องอย่างนี้ มันเปราะบาง มันต้องจัดการปัญหาอย่างรวดเร็ว 10 วัน นี่ช้าไปแล้ว เรื่องนี้เกิดผู้บริหารต้องตัดสินใจแสดงสปิริต รับผิดชอบต่อชื่อเสียงพรรค ไม่ใช่ชื่อเสียงตัวเอง ตัวเองก็ไปพิสูจน์ในกระบวนการกฎหมายอะไรก็ว่าไป แต่โดยความรู้สึกประชาชน มันจะให้พรรคมัวหมองไม่ได้ ต้องไปเลย อย่าคิดนาน คิดนานยิ่งไม่เหลือทั้งตัวเองและพรรค”

มองว่าถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้จะถึงไม่เหลือพรรค

วิทยา : ผมกลัวอย่างนั้น ผมเลยทำหน้าที่ตัวแทนประชาชนที่เป็นสมาชิกพรรคว่า “อย่านาน” เหลือพรรคไว้ให้ชาวบ้านเขาได้ฝากลูกหลานเขาต่อ

อย่างไรก็ตาม นักการเมือง ในวัย 67 ปี คนนี้ จบการสนทนาด้วยการตอบคำถามทิ้งทายถึงเส้นทางทางการเมืองจากนี้ของตนเอง โดยบอกว่า “ยังไม่ตัดสินใจ แต่ไม่ต้องห่วงนักการเมืองเขารู้มือผมอยู่ แล้วพรรคเลอะเทอะจะมาจีบผม ผมไม่ใช่คนจะไปเลอะเทอะได้ด้วย”

(วิทยา แก้วภราดัย : แฟ้มภาพ สภาผู้แทนราษฎร)

ประวัติโดยสังเขป 

‘วิทยา แก้วภราดัย’ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขานิติศาสตรบัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประกอบอาชีพเป็นทนายความก่อนเข้าสู่วงการเมือง เคยเป็นอดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ, อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อแสดงความรับผิดชอบกรณีการทุจริตในโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2552 จากนั้นไปรับตำแหน่งประธานวิปรัฐบาล

ส่วนงานในพรรคประชาธิปัตย์ เป็นหนึ่งในทีมกฎหมายของพรรค ปี พ.ศ. 2551 ได้รับแต่งตั้งให้เป็น รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รับผิดชอบดูแลภาคใต้ และเป็น ส.ส.นครศรีธรรมราช 6 สมัย แต่สำหรับการเลือกตั้งในปี 2562 ที่ผ่านมา ไม่ได้รับเลือกตั้ง แต่ยังคงเป็นสมาชิกพรรค และยังปรากฏตัวขึ้นปราศรัยช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ชุมพร-สงขลา ที่พรรคประชาธิปัตย์ เพิ่งได้รับชัยชนะกลับมาเมื่อต้นปีนี้

 

Thanawan WriterThanawan
Senior Journalist at TODAY (workpointTODAY)
รักการเป็นสื่อสารมวลชน ปัจจุบันอยู่เบื้องหลังข่าวและคอนเทนต์ออนไลน์
เคยทำงานสื่อวิทยุ-หนังสือพิมพ์-โทรทัศน์ ผ่านภาคสนามข่าวการเมือง, อาชญากรรม, เศรษฐกิจ และสังคม



Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง