ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวโทรศัพท์มือถือโดนติดตั้งแอปพลิเคชัน แฝงมัลแวร์ แฮกข้อมูล ดูดเงินจากมือถือ จำนวนมาก จนหลายหน่วยงานออกมาเตือนให้ระวังการโหลดหรือติดตั้งแอปพลิเคชันต่างๆ ล่าสุดตำรวจสอบสวนกลางเผยวิธีเช็กโทรศัพท์มือถือ ทั้งระบบ iOS และ Android
ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยวิธีเช็กโทรศัพท์มือถือ ทั้งระบบ iOS และ Android หลังจากมีผู้เสียหายโดนมิจฉาชีพแฮกข้อมูล และดูดเงินในบัญชีหลายราย โดยระบุว่า ข่าวการโดนแฮกข้อมูล หรือว่าโดนดูดเงินจากมือถือกำลังมาแรง ไม่ว่าจะเป็นระบบ iOS หรือ Android ถึงแม้จะมีระบบการป้องกันอยู่แล้ว แต่ถ้าเราไม่ระมัดระวัง หรือว่าเผลอไปกดโหลดแอปอะไรมาโดยไม่รู้ตัว
ตรวจสอบมือถือระบบ iOS
สำหรับระบบ iOS ตัวระบบเองมีการป้องกันที่ค่อนข้างแน่นหนา แต่ถ้าจะให้ชัวร์ต้องเช็กที่
1.การตั้งค่า -> แบตเตอรี่ และดูว่ามีแอปไหนที่ใช้งานหนักเกินการใช้งานจริงบ้าง
2.เข้าไปดูแอปทั้งหมดบน iPhone ว่ามีแอปไหนแปลกปลอมติดมาหรือเปล่า ถ้ามีให้กดลบทันที
3.สำคัญคือควรเปิดการเตือนเว็บหลอกลวงบน Safari โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า -> Safari จากนั้นให้กดเปิดสวิตช์ “คำเตือนเว็บไซต์หลอกลวง” รวมไปถึงการลบปฏิทินสแปมบนแอปปฏิทินด้วย
ตรวจสอบมือถือระบบ Android
สำหรับวิธีการตรวจสอบว่ามือถือระบบ Android ถูกติดตั้งแอปพลิเคชันรีโมทดูดเงินหรือยัง มีดังนี้
1. เข้าไปที่เมนู การตั้งค่า (Settings) และเลือกไปที่เมนู แอป (Apps)
2.กดที่ปุ่มตัวเลือก (จุด 3 จุดมุมขวาบน) เพื่อเลือกเมนูย่อย (มือถือ Android บางรุ่นต้องเข้าไปที่เมนู Apps อีกครั้งก่อนหรือมีอยู่ในเมนู ไม่ต้องกดจุด 3 จุดมุมขวาบน)
3.เลือกไปที่ การเข้าถึงพิเศษ (Special access) ถ้าหากว่าเข้าได้ปกติก็แสดงว่ามือถือเรายังปกติดีอยู่ แต่ถ้าหากเข้าไม่ได้โดยหน้าจอจะเด้งออกไปที่หน้าหลัก แสดงว่ามือถือเครื่องนั้นถูกฝังแอพรีโมทดูดเงินเรียบร้อยแล้ว
หากว่าเข้าไป Special access แล้วเด้งออก ให้รีบตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทันที แล้วสำรองข้อมูลที่สำคัญ และให้รีบล้างเครื่องโดยรีเซตเครื่องกลับสู่ค่าเริ่มต้นที่มาจากโรงงานทันที
รัฐบาล เตือนดาวน์โหลดแอปฯ ให้ระวัง
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่ากระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ได้ร่วมกันดำเนินการตรวจสอบการแพร่ระบาดของมัลแวร์อันตรายที่มาในรูปแบบของแอปพลิเคชันบนมือถืออย่างต่อเนื่อง
เพราะผู้ใช้งานโทรศัพท์ที่ติดตั้งแอปฯ ฝังมัลแวร์อันตรายไว้ มีโอกาสที่จะถูกดูดข้อมูลส่วนบุคคลหรือถูกควบคุมมือถือจากระยะไกลทำให้มิจฉาชีพสามารถทำธุรกรรมการเงินผ่านมือถือได้
น.ส.รัชดา กล่าวต่อว่า จากข้อมูลในปี 2022 มีการเผยแพร่รายชื่อแอปพลิเคชันอันตราย 203 รายการ ทั้งในระบบ iOS และ Android จึงขอให้ประชาชนทำการตรวจสอบ หากพบแอปพลิเคชันดังกล่าวให้ถอนการติดตั้งโดยทันที และควรอัปเดตระบบของเครื่องโทรศัพท์ของตนเองให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดอยู่เสมอ
พร้อมทั้งขอให้ระมัดระวังในการดาวน์โหลดแอปฯ ต่างๆ มาใช้งานลงบนมือถือด้วย ทั้งนี้ กระทรวงดีอีเอส ได้ประสานกับทาง Play Store หรือ App Store ให้นำแอปฯ เหล่านี้ออกจากระบบแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพได้










