แบบนี้เรียกว่าไม่เท่าเทียมรึเปล่า? เมื่อญี่ปุ่น CEO ‘ผู้หญิง’ น้อยกว่า ‘ผู้ชาย’ ไม่ถึง 1% ใน 1,600 บริษัทที่สำรวจ

แบบนี้เรียกว่าไม่เท่าเทียมรึเปล่า? เมื่อญี่ปุ่น CEO ‘ผู้หญิง’ น้อยกว่า ‘ผู้ชาย’ ไม่ถึง 1% ใน 1,600 บริษัทที่สำรวจ

‘ญี่ปุ่น’ ประเทศที่ใครๆ ต่างโหยหาไปทำงานและอาศัยอยู่ ประเทศที่เลื่องลือเรื่องความเป็นระเบียบของโลก และความสร้างสรรค์ที่หลายคนนึกไม่ถึงก็มาจากประเทศนี้

แต่ถ้าพูดถึงในแง่ของ ‘ความเท่าเทียม’ หรือการเปิดกว้างให้กับเพศต่างๆ ได้ขึ้นมาในตำแหน่งสูงๆ อย่าง CEO หรือ ประธานบริหารบริษัท กลับเป็นเรื่องที่พบได้น้อยมากๆ ในญี่ปุ่น และก็อีกหลายประเทศที่มีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ

แม้แต่สหรัฐอเมริกา ประเทศที่มีความเสรีและปรองดองกับระบบประชาธิปไตย แต่ข้อมูลจาก Meta เปิดเผยว่า มีผู้หญิงแค่ 5% ที่อยู่ในระดับ CEO ในปี 2020

แต่ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นมันต่ำเตี้ยแทบจะแตะพื้น สำหรับจำนวน CEO ผู้หญิง โดยการสำรวจครั้งนี้เป็นข้อมูลจาก Kyodo News สื่อในญี่ปุ่น ซึ่งเผยว่า ปัจจุบันผู้หญิงญี่ปุ่นที่ได้ขึ้นเป็น CEO มีจำนวนต่ำกว่า 1% ถือว่าน้อยมาก และตรงกับข้อมูลจาก Meta ที่บอกว่า ญี่ปุ่น, อินโดนีเซีย และเกาหลี มีผู้หญิงในบทบาทผู้นำน้อยที่สุดในปัจจุบัน

 

[ บริษัทชั้นนำ นามสกุลมหาชน ก็ยังไม่เสรีกับตำแหน่งผู้นำหญิง ]

การสำรวจล่าสุดเปิดเผยเมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา พบว่า ในบริษัทจดทะเบียนชั้นนำประมาณ 1,600 แห่งในญี่ปุ่น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่คนรู้จักและมีชื่อเสียง กลับมี CEO ‘ผู้หญิง’ เพียง 13 คน คิดเป็น 0.8% ของบริษัททั้งหมด 1,643 แห่งที่ทำการสำรวจ

สะท้อนว่า ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่มีความก้าวหน้า ทันสมัยในหลายๆ เรื่อง แต่มุมมองเรื่องการเปิดกว้างในบทบาทของผู้หญิงและผู้ชายยังแตกต่างจากหลายประเทศ

ถ้าเทียบกันชัดๆ จากข้อมูลของ Meta ‘ในสหราชอาณาจักร’ มีจำนวนผู้หญิงทั้งหมดในคณะกรรมการบริหาร FTSE 350 จากเดิมในปี 2015 มีทั้งหมด 682 ราย ในปี 2021 เพิ่มขึ้นเป็น 1,026 รายใน 5 ปี เพิ่มขึ้นถึง 50% และเข้าใจว่าในปี 2024 ก็น่าจะเพิ่มกว่าเดิมอีก แต่ยังไม่มีตัวเลขยืนยันว่าเพิ่มขึ้นเท่าใด

Ryusuke Ishii ผู้จัดการของสถาบันวิจัยของญี่ปุ่น ได้กล่าวว่า ความคืบหน้าในการแต่งตั้ง CEO ผู้หญิงต้องเกิดจากการว่าจ้างของผู้บริหารระดับสูงจากธุรกิจภายนอก ซึ่งจะเกิดขึ้นด้วยเหตุผลนี้มากกว่าการปรับเลื่อนตำแหน่งภายใน

อย่างไรก็ตาม การวิจัยของสถาบันดังกล่าว ได้ระบุว่าจำนวนสมาชิกคณะกรรมการบริหารที่เป็นผู้หญิงตอนนี้มีจำนวนเกิน 3,000 คนแล้ว ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี เพราะเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากปีงบประมาณ 2019

อย่างน้อยๆ ก็เห็นว่า บริษัทญี่ปุ่นพยายามและมีความคืบหน้าในการส่งเสริมผู้หญิงให้ขึ้นสู่ตำแหน่งระดับสูง

แต่ข้อมูลที่น่าตกใจมากกว่าในญี่ปุ่น ก็คือ รัฐบาลญี่ปุ่นแสดงให้เห็นว่า พนักงานหญิงที่ทำงานเต็มเวลาในญี่ปุ่นได้รับค่าจ้างอยู่ที่ 70-80% ของค่าจ้างที่ให้พนักงานชาย ความไม่เท่าเทียมกันในเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงชัดเจนว่า ญี่ปุ่นยังไม่บรรลุเรื่องความเท่าเทียมทางเพศในสถานที่ทำงาน ทั้งในแง่การเปิดกว้างในบทบาท และค่าตอบแทน

แม้ว่ารัฐบาลจะขอให้บริษัทเพิ่มค่าตอบแทนพนักงานผู้หญิง เป็น 90% แต่มันก็ไม่ใช่การแก้ปัญหาเรื่องความเท่าเทียมอยู่ดี

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้ขอความร่วมมือให้บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และอยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศ ปรับโครงสร้างบริษัทด้วยการเพิ่มสัดส่วน ‘ผู้บริหารหญิง’ ให้เป็น 30% หรือมากกว่า ภายในปีงบประมาณ 2030 จากที่ในปีงบประมาณ 2023 ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 16.2% หรือ 3,052 คนจาก 1,502 คนในปี 2019

 

[ ไทยติด Top 5 มีบอสหญิงมากสุดในโลก ปี 2022 ]

น่าจะเป็นข้อมูลที่ทำให้เราชาวไทยยืดอกภูมิใจได้เลย เพราะผลสำรวจของ OECD ในปี 2022 เปิดเผยว่า นอร์เวย์, สิงคโปร์, ไทย, สวีเดน และไต้หวัน เป็น 5 ประเทศที่มี CEO ผู้หญิงมากที่สุด โดยทั่วโลกเฉลี่ยมีเพียง 5.4% เท่านั้น

ส่วน ‘นอร์เวย์’ ในฐานะที่เป็นประเทศที่มี CEO หญิงสูงสุดในโลก มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 13.4% นั่นเอง

แล้ว Top 5 ประเทศที่มีค่าเฉลี่ยจำนวน CEO ผู้หญิง น้อยที่สุดในโลกอยู่ที่ไหนบ้าง ที่แน่ๆ ‘ญี่ปุ่น’ อยู่ในกลุ่มนี้เป็นอันดับ 2 ส่วนอับดับ 1 ก็คือ บราซิล ตามด้วย ญี่ปุ่น, เม็กซิโก, ซาอุดิอาระเบีย และรัสเซีย

ทาง OECD มองว่า การกำหนดนโยบาย กฎเกณฑ์ เพื่อลดช่องว่างเรื่องเพศ และบทบาทระหว่างหญิง-ชาย ในตำแหน่งสูงๆ ตั้งแต่ CEO ไปจนถึงผู้บริหารระดับสูงหลายตำแหน่ง สะท้อนความเป็นเสรีภาพและสร้างความน่าดึงดูดต่อบริษัทนั้นๆ ให้เป็นองค์กรที่คนรุ่นใหม่อยากเข้าทำงานมากที่สุดได้ง่ายขึ้น

แท็กที่เกี่ยวข้อง
Prakaiporn WriterPrakaiporn

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง