ญี่ปุ่น ประเทศที่ล้ำหน้าทางเทคโนโลยีทั้ง รถยนต์ หุ่นยนต์ เกม แต่ถ้ามาดูด้านคลาวด์คอมพิวติ้ง กลับยังตามหลังประเทศมหาอำนาจไอทีอื่นๆ
Nikkei Asia รายงานข้อมูลน่าสนใจ พบว่าในปี 2021 ญี่ปุ่น มีการลงทุนด้านศูนย์บริการข้อมูลนอกสถานที่ คิดเป็นเพียง 4% ของการใช้จ่ายด้านไอที
การทำงานและประมวลผลงานผ่าน public cloud กำลังไเ้รับความนิยมทั่วโลก และเป็นกุญแจสำคัญสู่การ digital transformation ในองค์กร เพราะ user สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชัน ซอฟต์แวร์และเครื่องมืออื่นๆ ได้โดยไม่ต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของตนเอง
เพราะ public cloud ให้บริการโดยบริษัทภายนอกหรือ third-party ช่วยให้การพัฒนาโปรดักต์ใหม่เร็วกว่า ถูกกว่า (แต่ถ้าเกิดปัญหาในคลาวด์ user จะไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง)
Gartner บริษัทวิจัยของสหรัฐฯระบุว่าการลงทุนคลาวด์ในญี่ปุ่นคิดเป็น 4.3% ของค่าใช้จ่ายด้านไอทีทั้งหมดในปีที่แล้ว เทียบกับ 14.4% ในอเมริกาเหนือ 9.7% ในยุโรปและ 6.4% ในประเทศจีน ถือเป็นช่องว่างที่ห่างมากทีเดียว
บริการคลาวด์ได้รับการนำไปใช้หรือ adoption ช้าในญี่ปุ่น เนื่องจากธุรกิจจำนวนมาก ยังยึดติดกับระบบเดิม คือการประมวลผลแบบ on-site การสำรวจในปีงบประมาณ 2021 โดย Japan Users Association of Information Systems พบว่า บริษัทญี่ปุ่นใช้งบประมาณด้านไอทีถึง 76.4% ไปกับการบำรุงรักษาและการจัดการระบบที่มีอยู่ แทนการลงทุนโครงสร้างใหม่ๆ
ข้อมูลจาก สำนักงานส่งเสริมเทคโนโลยีสารสนเทศของญี่ปุ่น และ Eurostat จัดอันดับการใช้คลาวด์ใน 30 ประเทศ (เปอเซนต์ของบริษัทที่ใช้คลาวด์) พบว่าฟินแลนด์, สวีเดน มาเป็นอันดับ 1,2 คือราว 75% จัดอันดับ IMD ด้วยคะแนน 95.2 คะแนน ในทางตรงกันข้าม ญี่ปุ่นซึ่งมีบริษัทเพียง 31% ที่ใช้บริการคลาวด์ อยู่ในอันดับที่ 28 ที่ 73.0 คะแนน
ก่อนหน้านี้ มีข่าวสำคัญวงการคลาวด์เกิดขึ้นในญี่ปุ่น คือ Google จะเปิดศูนย์ข้อมูลแห่งแรกในญี่ปุ่น ที่เมืองอินไซ จังหวัดชิบะ ในปีหน้า เป็นการลงทุนมูลค่า 730 ล้านเหรียญ เพื่อให้คนญี่ปุ่นได้เข้าถึงบริการต่างๆ ของ Google ได้เร็วขึ้น ในการลงทุนนี้ยังรวมถึง สายเคเบิลใต้ทะเล ที่จะกลายเป็นสายไฟเบอร์เส้นแรกที่เชื่อมต่อญี่ปุ่นกับชายฝั่งตะวันตกของแคนาดา นอกจากนี้ในญี่ปุ่นก็มี Google Cloud Platform ในโตเกียวและโอซาก้า ให้บริการพื้นที่จัดเก็บและบริการสำหรับธุรกิจญี่ปุ่นอยู่แล้ว
https://www.blog.google/around-the-globe/google-asia/japan-digital-future/
