จับตาวงการชิปญี่ปุ่น บริษัทใหญ่ในญี่ปุ่นจับมือรัฐบาล สร้างศูนย์พัฒนาชิปขั้นสูง ตั้งเป้าผลิตให้ได้ในปี 2030

จับตาวงการชิปญี่ปุ่น บริษัทใหญ่ในญี่ปุ่นจับมือรัฐบาล สร้างศูนย์พัฒนาชิปขั้นสูง ตั้งเป้าผลิตให้ได้ในปี 2030

จับตาวงการชิปญี่ปุ่น หรือยักษ์เทคโนโลยีในอดีตจะกลับมาทวงบัลลังก์ ล่าสุด 8  บริษัทใหญ่ในญี่ปุ่นจับมือรัฐบาล สร้างศูนย์พัฒนาชิปขั้นสูง ตั้งเป้าผลิตให้ได้ในปี 2030 

โดยรายชื่อบริษัทที่ Nikkei รายงานมีระดับบิ๊กๆ อย่าง Toyota Motor, Denso (ซัพพลายเออร์ของ Toyota), NTT, Sony Group, ผู้ผลิตชิป Kioxia Holdings, NEC, SoftBank แต่ละรายจะร่วมลงทุน 1 พันล้านเยน หรือราว 250 ล้านบาท 

ส่วนบุคคลที่จะมีบทบาทสำคัญในการรวมกลุ่มครั้งนี้คือ Tetsuro Higashi อดีตประธานบริษัทผลิตชิ้นส่วนชิป Tokyo Electron ซึ่งจะได้รับความร่วมมือกับรัฐบาลญี่ปุ่นและสหรัฐฯด้วย

การรวมกลุ่มนี้มีชื่อบริษัทว่า Rapidus มาจากภาษาละตินที่แปลว่ารวดเร็ว มีเป้าหมายพัฒนาชิปเซมิคอนดักเตอร์ลอจิกประมวลผล แบบที่เหนือกว่า 2 นาโนเมตร ซึ่งเป็นเทคโนโลยีชิปที่ก้าวหน้าที่สุดแล้วในตอนนี้

ชิปเซมิคอนดักเตอร์ลอจิกมีความกว้างของวงจรที่เล็กกว่า และมีมาตรฐานที่สูงกว่า ถือเป็นตัวกำหนดความสามารถในการประมวลผลของสมาร์ทโฟน ศูนย์ข้อมูล และอุปกรณ์อื่นๆ ซึ่งจะมีความสำคัญต่อเทคโนโลยีสูงขึ้นอย่างการสื่อสาร รถไร้คนขับ

บริษัทที่วางแผนเรื่องชิป 2 นาโนเมตรไปแล้วคือ TSMC ของไต้หวัน และ Samsung Electronics ของเกาหลีใต้ ทั้งคู่เริ่มผลิตชิป 3 นาโนเมตรและกำลังจะผลิตชิป 2 นาโนเมตรให้ได้ในปี 2025

ในยุคปี 2000 ญี่ปุ่นถือว่าเป็นประเทศที่ก้าวหน้ากว่าใครเรื่องเทคโนโลยี โดยเฉพาะด้านรถยนต์ หุ่นยนต์ 

แต่การแข่งขันด้านเทคโนโลยีขั้นสูง ก็เริ่มร้อนแรงตั้งแต่ช่วงปี 2010 เป็นต้นมา ซึ่งญี่ปุ่นกลับตามไม่ทันในแง่การลงทุนทางเทคโนโลยีมหาศาล ที่เราเห็นกันในต่างประเทศอย่างสหรัฐฯ จีน ไต้หวัน 

การรวมกลุ่มพันธมิตรชิปครั้งนี้ ถือเป็นความพยายามอีกระลอกของญี่ปุ่นในการตามให้ทัน และทวงบัลลังก์ผู้นำเทคโนโลยีโลก ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่าญี่ปุ่นเตรียมใช้งบประมาณ 350,000 ล้านเยน ร่วมมือด้านการวิจัยกับสหรัฐฯ ในการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์รุ่นต่อไป

[ ชิปขาดแคลน + สงครามชิป ]

ยังมีปัจจัยที่ต้องคำนึงคือสงครามชิปเซมิคอนดักเตอร์ ที่ชิป กลายเป็นตัวประกันของสหรัฐฯ ในการพยายามกีดกันจีนออกไป เห็นได้จากการออกนโยบายจำกัดการส่งออกชิปประมวลผลขั้นสูงไปจีน 

ด้วยปัจจัยความไม่แน่นอนของโลก แต่ละประเทศก็อยากจะผลิตชิปของตัวเอง เพราะการพึ่งพาไต้หวันมากเกินไปยังมีความเสี่ยง เพราะไต้หวันอยู่ในจุดที่เสี่ยงทั้งภัยธรรมชาติ และภัยจากการรุกรานของจีน 

และยิ่งบวกกับภาวะหยุดชะงักของการขนส่ง การผลิตในช่วงโควิด ทำให้ขาดแคลนชิ้นส่วนชิปเซมิคอนดักเตอร์ยังไม่คลี่คลายร้อยเปอร์เซนต์ 

นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ พยายามผลักดันให้เกิดโรงงานชิปในประเทศ ซึ่ง Intel, TSMC ก็อยู่ระหว่างสร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่ในสหรัฐฯ ด้วย

ที่มา : https://asia.nikkei.com/Business/Tech/Semiconductors/Toyota-joins-other-Japan-companies-to-make-next-generation-chips?fbclid=IwAR1VyzKTVMzT8lvy9V4VEnNJg-42RKI410TtfuX-iCpI4YUcMPKZ_5uGXpU 

https://asia.nikkei.com/Business/Electronics/Japan-to-spend-2.4bn-on-joint-chip-research-hub-with-U.S 

 

KanokjunWriterKanokjun
ผู้สื่อข่าวเทคโนโลยี สนใจเรื่องราวบนโลกไอทีที่มาพร้อมโอกาส ความสร้างสรรค์ และปัญหาด้านมืดของเทคโนโลยี

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง