บนเป้าหมายเพื่อก้าวไปสู่การลดการปล่อยมลพิษ เพื่อลดผลกระทบของปัญหา Climate Change หรือสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง องค์กรระดับโลก รัฐบาลของแต่ละประเทศ ไปจนถึงภาคธุรกิจ ต่างก็พยายามหาวิธีช่วยลดโลกร้อนด้วยวิธีต่างๆ สร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อม
ล่าสุด บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ DMHT ผู้นำด้านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นำเข้าพรีเมียมระดับโลก ได้เปิดตัวโครงการที่มุ่งการลดใช้กล่องกระดาษบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ของแบรนด์ เพื่อนำไปสู่การลด ‘ขยะ’ ที่จะเกิดขึ้น
DMHT บอกว่า โครงการดังกล่าวมีชื่อว่า “STEP OUT OF THE BOX #ก้าวต่อไปไร้กล่อง” ซึ่งเป็นการเลิกใช้กล่องบรรจุภัณฑ์ เท่ากับว่าต่อไปถ้าเราซื้อเครื่องดื่ม Johnnie Walker หรือแบรนด์อื่นในเครือ DMHT ก็จะมาในรูปแบบขวดที่ไม่มีกล่องนั่นเอง
โดยบริษัทเริ่มขายสินค้าแบบไร้กล่องแล้วตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ในแบรนด์ต่างๆ ของบริษัท ได้แก่ Johnnie Walker Red Label, Johnnie Walker Black Label, Johnnie Walker Double Black, J&B Rare รวมถึง Smirnoff Midnight Max, Benmore Four Casks, Golden Stag และ Bells
ทั้งนี้ DMHT ตั้งเป้าลดปริมาณขยะจากกล่องบรรจุภัณฑ์ได้กว่า 183 ล้านชิ้นทั่วโลก ซึ่งจะช่วยลดปริมาณคาร์บอนได้กว่า 7,430 ตันต่อปี สอดคล้องกับเป้าหมายในการเป็นบริษัท Zero Waste นั่นเอง
[ ลดมลพิษ ลดขยะ ลดคาร์บอน ]
‘จรินี วงศ์กำทอง’ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด DMHT กล่าวว่า “ในฐานะที่ Johnnie Walker เป็นแบรนด์สก็อตช์วิสกี้อันดับหนึ่งทั้งของโลกและของไทย เรามีหน้าที่ในการเป็นผู้นำที่จะต้องลุกขึ้นมาสร้างความเปลี่ยนแปลงและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างกล้าหาญ หรือ Take a Bold Step ภายใต้ปรัชญา Keep Walking ของแบรนด์
“สำหรับโครงการ STEP OUT OF THE BOX #ก้าวต่อไปไร้กล่อง คือโครงการด้านความยั่งยืนล่าสุด เพื่อร่วมลดขยะ ลดมลพิษ และเพิ่มออกซิเจนให้กับโลกที่ ทั้งยังเป็นหนึ่งในแผนงานด้านความยั่งยืนระยะยาวในระดับโลกของดิอาจิโอ
โดยโครงการ STEP OUT OF THE BOX #ก้าวต่อไปไร้กล่อง มีเป้าหมายใน 3 ส่วน คือ
- The Goal: ลดมลพิษจากการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำนวน 1 ล้านกล่อง ใน 1 ปี
- The Box: ลดขยะจากการสังสรรค์จากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำนวน 1 ล้านกล่อง ใน 1 ปี
- The Tree: ลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ กว่า 2.5 ล้านกิโลกรัม ใน 10 ปี ผ่านความร่วมมือกับ EcoMatcher ในการปลูกป่า Keep Walking Forest
ทั้งนี้ นอกจากลดใช้กล่องแล้ว ดิอาจิโอยังลดคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยการร่วมมือกับ EcoMatcher ในการปลูกป่า Keep Walking Forest ซึ่งผู้บริโภคสามารถร่วมปลูกต้นไม้ได้ที่เว็บไซต์ www.ecomatcher.com/keepwalkingforest
พร้อมชวนร้านค้าพันธมิตรมากกว่า 30,000 ร้านค้า และผู้บริโภคทั่วประเทศมาร่วมลดการใช้กล่อง ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป เพื่อร่วมสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับโลกไปพร้อมกัน
[ ไม่มีกล่อง ไม่มีผลกระทบเชิงลบ ]
การที่จู่ๆ แบรนด์เครื่องดื่มพรีเมียมเลิกใช้กล่อง ถือเป็นก้าวใหญ่สู่ความยั่งยืน ทำให้ดิอาจิโอศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างรัดกุมก่อนเลิกใช้กล่องกระดาษบรรจุภัณฑ์
โดยจากการศึกษาของดิอาจิโอพบว่า การไม่มีกล่องช่วยให้ประสบการณ์ในการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคดีขึ้น ใช้เวลาในการเลือกซื้อเครื่องดื่มบนชั้นวางสินค้าน้อยลง และสร้างปฏิสัมพันธ์กับสินค้าได้มากขึ้น 2.6 เท่า
นอกจากนี้ มีผู้บริโภคเพียง 1 ใน 10 เท่านั้นที่สังเกตว่าเครื่องดื่มไม่ได้มาในกล่องบรรจุภัณฑ์ ซึ่งหมายความว่ากล่องบรรจุภัณฑ์กระดาษนี้ ไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค
และสำหรับผู้บริโภคชาวไทยที่มักซื้อสินค้าของดิอาจิโอเป็นของขวัญ ก็ยังสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ของดิอาจิโอเป็นของขวัญได้เช่นเดิม เพราะสิ่งสำคัญของผลิตภัณฑ์คือสิ่งที่บรรจุอยู่ในขวด ไม่ใช่บรรจุภัณฑ์ภายนอก
.
[ เป้าหมายหลักไม่ใช่เรื่องการดลดต้นทุน ]
สำหรับในแง่ของการขนส่งที่การไม่มีกล่องอาจเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับขวดเครื่องดื่มที่เป็นแก้ว แต่ดิอาจิโอบอกว่า ในการขนส่งสินค้าให้คู่ค้า ก็ยังคงบรรจุในลังกระดาษอยู่ และจากที่เริ่มโครงการมา ก็ยังไม่มีความผิดพลาดหรืออุบัติเหตุเกิดขึ้นเลยสักครั้ง
ดิอาจิโอยังย้ำอีกว่า แม้การลดการใช้กล่องกระดาษบรรจุภัณฑ์จะช่วยลดต้นทุนได้ แต่ก็เพียงเล็กน้อยมากๆ เท่านั้น เพราะต้นทุนสำหรับบรรจุภัณฑ์มีสัดส่วนไม่ถึง 1%
เป้าหมายหลักของโครงการนี้มุ่งไปที่เรื่องของสิ่งแวดล้อม ที่ไม่เพียงแต่ลดการสร้างขยะ แต่นี่ยังเป็นการลดปริมาณมลพิษและของเสียที่เกิดจากกระบวนการผลิตกล่องกระดาษลงไปด้วย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา Johnnie Walker ได้ดำเนินการส่งเสริมด้านความยั่งยืนมาแล้วหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็น ความร่วมมือระหว่างดิอาจิโอและบางกอกฟลาวเออร์เซ็นเตอร์ ในการสนับสนุนการใช้ขวดผลิตภัณฑ์ Johnnie Walker ที่ใช้แล้วในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อกล้วยไม้
การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Johnnie Walker AIR-INK® LIMITED EDITION ที่ใช้หมึกจากฝุ่นในการสร้างสรรค์ลวดลายบนขวด
และล่าสุด งาน Awakening Bangkok 2022 เทศกาลแสงไฟประจำปีกรุงเทพฯ ที่ Johnnie Walker ได้ร่วมมือกับ Time Out Bangkok และพาร์ตเนอร์อีกมากมาย โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการสื่อสารแนวคิดเรื่องความยั่งยืนในทุกมิติ
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อช่วยกันผลักดันให้เกิดความยั่งยืน และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่กำลังให้ความสำคัญกับประเด็นเรื่องความยั่งยืนเป็นอย่างมากในปัจจุบัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:
