‘ตลาดเครื่องสำอาง’ ไทยโตฉ่ำ 2.6 แสนล้าน Karmart ใช้ ‘Influencer Marketing’ ดึงลูกค้า ดันยอดขายพุ่ง 4,500 ล้านบาทปี 68

‘ตลาดเครื่องสำอาง’ ไทยโตฉ่ำ 2.6 แสนล้าน Karmart ใช้ ‘Influencer Marketing’ ดึงลูกค้า ดันยอดขายพุ่ง 4,500 ล้านบาทปี 68

ปัจจุบันเทรนด์การซื้อสกินแคร์และเครื่องสำอางของคนไทยกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในมุมผู้บริโภคก็มีสินค้าจากทั้งรายเล็กและรายใหญ่ให้เลือกมากขึ้น ทำให้เกิดเป็นโอกาสในอุตสาหกรรมนี้ไม่น้อย อ้างอิงได้จากในปีที่ผ่านมา (ปี 2566) ตัวเลขการเติบโตภาพรวมตลาดเครื่องสำอางในประเทศไทยมีมูลค่ากว่า 2.6 แสนล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 6-8% ต่อปีในช่วง 5 ปีข้างหน้า 

โดยที่ความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นในกลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์และเมกอัพ คิดเป็นสัดส่วนถึง 70% ของตลาดรวมเลยทีเดียว หรือพูดง่ายๆ คนไทยสนใจในผลิตภัณฑ์สกินแคร์มากกว่าเครื่องสำอาง

[ 45% คนไทยเลือกซื้อสินค้าตามคนดัง Karmart ใช้ ‘Influencer Marketing’ ดึงลูกค้า ]

อย่างกรณีของ Karmart หนึ่งในผู้เล่นของตลาดนี้ก็มีแบรนด์สกินแคร์อยู่ในมือราวๆ 24 แบรนด์ก็ต้องมางัดกลยุทธ์ใหม่ดึงดูดลูกค้าด้วยการใช้ ‘Influencer Marketing’ ให้เข้าถึงผู้บริโภคในแต่ละกลุ่มมากขึ้น 

‘ชลธิดา สถาวรวิจิตร’ รองกรรมการผู้จัดการสายงานการตลาด บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) เล่าให้ฟังว่า อินไซต์ที่น่าสนใจคือผู้บริโภคชาวไทยกว่า 67% มีพฤติกรรมทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เป็นประจำ และ 45% นิยมเลือกซื้อสินค้าเพราะได้รับการแนะนำจาก Influencers หรือรีวิวออนไลน์ ซึ่งเทรนด์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการตลาดดิจิทัล และการสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภคผ่านช่องทางที่พวกเขาเชื่อถือ

พงศ์วิวัฒน์ ทีฆคีรีกุล’ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานตลาดและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน)  เล่าให้ฟังว่า กลยุทธ์ Influencer Marketing ถือเป็นหนึ่งกลยุทธ์สำคัญของ Karmart ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะการทำงานร่วมกับ Influencers ไม่ใช่เฉพาะเพื่อตอบโจทย์การโปรโมตสินค้าแต่ช่วยให้พัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างละเอียดและตรงจุด ระบุความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย การค้นคว้าวิจัย และการทดลองสูตร จนถึงการออกแบบแคมเปญที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคในระดับบุคคล

[ ตัวอย่าง Karmart กับ Influencers เพิ่มการรับรู้ ]

หมวดผลิตภัณฑ์ Makeup  

        • Browit by Nongchat ร่วมมือกับ Makeup Artist น้องฉัตร-ฉัตรชัย เพียงอภิชาติ ตอบโจทย์ผู้หญิงยุคใหม่ที่อยากคิ้วปัง ตาสวย และแต่งหน้าไวขึ้น ในราคาที่จับต้องได้
        • Lip it by Nisamanee ร่วมมือกับ นัท นิสามณี เลิศวรพงศ์ Influencer บุกตลาดลิปแคร์ พร้อมตั้งเป้าเป็น Top 3 ของแบรนด์ลิปแคร์ไทย

หมวดผลิตภัณฑ์ Hair Care

        • HAIR IT by Saypan ร่วมมือกับ สายป่าน จิรพร บูรณพงศ์ Top Beauty Blogger ผลิตภัณฑ์บำรุงผม กู้ผมเสีย เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ใส่ใจสุขภาพเส้นผม

หมวดผลิตภัณฑ์ เวชสำอาง Clean Beauty

        • ACCA by Dr.DSP: เวชสำอางสำหรับสิวและผิวแพ้ง่าย โดยทีมแพทย์จาก The Demis Clinic รวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Dr.DSP เพื่อดูแลปัญหาสิวครบวงจร
        • IFME  สกินแคร์สำหรับเด็กจากญี่ปุ่น ภายใต้ความร่วมมือกับ Marubeni

“ด้วยกลยุทธ์นี้ Karmart ไม่เพียงแต่เพิ่มยอดขายและการรับรู้ในแบรนด์เท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างความไว้วางใจในแบรนด์และผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Karmart เติบโตได้ตลอด 15 ปี” ‘พงศ์วิวัฒน์ ทีฆคีรีกุล’ กล่าวเสริม 

ปัจจุบัน Karmart ครองส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มเครื่องสำอางระดับกลางถึงพรีเมียมกว่า 15% ซึ่งแบรนด์ Cathy Doll และ Baby Bright ติดอันดับ Top 5 แบรนด์ที่ผู้บริโภคนึกถึงเมื่อเลือกซื้อสินค้าเมกอัพและสกินแคร์

สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 2567 นี้ คาดว่ามีรายได้ตลอดปีประมาณ 3,600 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเกือบ 45% จากปีที่ผ่านมามีรายได้ 2,500 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายว่าในปี 2568 จะมีรายได้ 4,500 ล้านบาท 

แท็กที่เกี่ยวข้อง
AyosiriWriterAyosiri
เป็นนักข่าวการเงิน สนใจเรื่องการลงทุนและการตลาด ประวัติศาสตร์ อยากสื่อสารให้เรื่องเป็นเงินสำหรับทุกคน

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง