เร่งปลดล็อกใบกระท่อม ส.ค.นี้เข้า ครม. ย้ำให้เคี้ยวเท่านั้นห้ามผสม 4×100

เร่งปลดล็อกใบกระท่อม ส.ค.นี้เข้า ครม. ย้ำให้เคี้ยวเท่านั้นห้ามผสม 4×100

ในประเทศ

รมว.ยุติธรรม เร่งเดินหน้าทำให้พืชกระท่อมถูกกฎหมาย ลูกทีมเผยคุณสมบัติเป็นยาหลายอย่างต้องทำให้พ้นยาเสพติด ฝันไกลถึงปลูกขายแข่งต่างประเทศ แต่วิธีการใช้จะหาทางคุมให้เคี้ยวได้อย่างเดียว ห้ามไปผสมสูตร 4×100

วันที่ 12 ก.ค. 2563 นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยถึง ความคืบหน้านโยบายการปรับพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ได้เร่งดำเนินการเรื่องนี้ โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเปิดรับแสดงความคิดเห็น ผ่านเว็บไซต์ ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) กระทรวงยุติธรรม เป็นระยะเวลา 15 วัน
คาดว่าในช่วงต้นเดือนสิงหาคม จะสามารถนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาต่อไป

ภาพ : ป.ป.ส.

ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ ระบุถึงแนวทางการดำเนินนโยบายดังกล่าวของรัฐบาลว่าจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจชุมชนและวิถีชีวิตของชุมชน โดยพืชกระท่อมมีหลักฐานการใช้เป็นสมุนไพรในครัวเรือนมาตั้งแต่อดีต ใช้ในการบำรุงกำลังเป็นยาขยัน แก้ปวดท้อง แก้ปวดเมื่อย ดังนั้นพืชกระท่อม จึงไม่ใช่ยาเสพติด
ขณะเดียวกันในด้านการส่งเสริมให้ปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจนั้น เนื่องจากพืชกระท่อมมีสาร 2 ชนิด ที่เรียกว่า ไมทราไจนีน ซึ่งมีสรรพคุณช่วยระงับความเจ็บปวดได้ดีกว่ามอร์ฟีน และ เซเว่นไฮดรอกซี เป็นยาชูกำลัง โดยขณะนี้ประเทศมหาอำนาจผลิตมอร์ฟีนขายสร้างรายได้ปีละเกือบ 5 แสนล้านบาท ดังนั้นประเทศไทยจึงควรเปิดให้มหาวิทยาลัยที่มีความรู้และสนใจศึกษาวิจัยพืชกระท่อม เพื่อเตรียมความพร้อม รวมทั้งการกำหนดพื้นที่ปลูกและสำรวจกลไกการตลาด เพื่อไม่ให้เกิดภาวะล้นตลาดเหมือนพืชเศรษฐกิจเช่น ยางพารา และปาล์มน้ำมัน
ด้านความกังวล เรื่องการควบคุมนั้น รมว.ยุติธรรม ได้เผยถึงมาตรการป้องกันว่า จะต้องป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนยุ่งเกี่ยวกับพืชกระท่อม และป้องกันการใช้พืชกระท่อมเป็นส่วนผสมของสารเสพติด หรือเครื่องดื่มชูกำลัง เช่น 4 คูณ 100 โดยในส่วนของการใช้ทั่วไป สามารถใช้เพื่อเคี้ยวเป็นยาบำรุงกำลังได้เพียงอย่างเดียว ในขณะที่หากจะนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์จะต้องมีการขออนุญาตที่ อย.ก่อน
“รมว.ยุติธรรม ได้กล่าวสรุปง่ายๆ ถึงการใช้พืชกระท่อมว่า บุคคลทั่วไป สามารถนำมาเคี้ยวได้อย่างเดียว ห้ามนำมาทำ 3 คูณ 100 หรือ 4 คูณ 100 ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องเกษตรกร ที่จะส่งเสริมให้มีการปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจ สามารถทำให้เกษตรกรลืมตาอ้าปากได้ โดยผมจะนำเรื่องดังกล่าวไปหารือ และสร้างความเข้าใจกับประชาชน และเยาวชน โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งส่วนใหญ่มีการใช้พืชกระท่อมเป็นยาสมุนไพรมาตั้งแต่อดีต” นายสัณหพจน์ กล่าว
TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง