‘ประวิตร’ บอกคนว่างงานเป็นส่วนน้อย กำชับฉีดวัคซีนในระบบ ม.33 ให้ครอบคลุม

‘ประวิตร’ บอกคนว่างงานเป็นส่วนน้อย กำชับฉีดวัคซีนในระบบ ม.33 ให้ครอบคลุม

COVID-19

รองนายกรัฐมนตรี เผย คนว่างงานตอนนี้ถือเป็นส่วนน้อย เพราะส่วนใหญ่กลับมาทำงานแล้ว พร้อมเตรียม 45 จุดฉีดวัคซีนสำหรับผู้ประกันตน ม.33 ในพื้นที่ กทม.-ปริมณฑล ส่วนเรื่องการลงทะเบียนวอล์คอิน หรือ ออนไซต์ ไม่ขอตอบ ปล่อยให้เป็นเรื่องขอนายกรัฐมนตรี และ ศบค.

วันที่ 20 พ.ค. 2564 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมตรวจติดตามมาตรการขับเคลื่อนการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วม

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การขับเคลื่อนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้ทั้งแรงงาน และบุคลากรกระทรวงแรงงาน ปลอดภัย สิ่งที่สำคัญและมีความจำเป็นอย่างมาก คือ การเร่งกระจายวัคซีนให้ครอบคลุมผู้ประกันตนมาตรา 33 ให้ทั่วถึง โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงเพื่อให้เป็นไปตามที่รัฐบาลได้กำหนดให้วัคซีนโควิด-19 เป็นวาระแห่งชาติ

ซึ่งทาง ก.แรงงาน ได้เตรียมการฉีดวัคซีนให้ผู้ประกันตนไว้ทั้งหมดแล้ว โดยเตรียมจุดฉีดวัคซีนไว้ 45 จุด ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล 9 จังหวัด เบื้องต้น

ส่วนเรื่องการลงทะเบียนฉีดวัคซีนแบบวอล์คอิน หรือ ออนไซต์ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 (ศบค.) ตนเองไม่ขอตอบ

พล.อ.ประวิตร ยังบอกว่า ตนเองได้รับรายงานจาก ก.แรงงาน ว่าได้ดำเนินการเตรียมที่พัก เช่น ที่พักคนป่วย ที่พักไอซียู เป็นต้น รวมถึงการเยียวยาให้แก่ประชาชนที่ว่างงาน และคนที่ว่างงานมีจำนวนน้อย

“ยืนยันว่าการที่ออกมาบอกว่าคนว่างงานเป็นล้าน ไม่เป็นความจริง เพราะได้มีการกลับเข้ามาทำงานเยอะแล้ว คนที่ยังคงว่างงานถือเป็นส่วนน้อย” พล.อ.ประวิตร กล่าว

ด้าน นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร ได้เน้นย้ำการทำงานเพิ่มเติม ในประเด็นต่างๆ ดังนี้

1. การบริหารวัคซีน ให้บูรณาการร่วมกับคณะกรรมการกระจายวัคซีนแก่ผู้ประกันตนมาตรา 33 ให้ครอบคลุมและทั่วถึงและพัฒนาระบบยืนยันการฉีดวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพ

2. การตรวจคัดกรองโควิด-19 เชิงรุก ขอให้ขยายให้ครอบคลุมกลุ่มเสี่ยงสูงให้มากที่สุด รวมทั้งกำหนดมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันแรงงานทุกกลุ่มให้ปลอดภัยจากโรคโควิด-19

3. มาตรการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบโรคโควิด-19 ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนและแรงงาน สามารถดำรงชีพได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น โครงการ ม 33 เรารักกัน เป็นต้น

4. การแก้กฎหมายประกันสังคม ขอให้เร่งขับเคลื่อนเพื่อไปตามข้อเรียกร้องในการนำเงินชราภาพออกมาใช้บางส่วน ให้เป็นไปตามกำหนดระยะเวลา

5. แรงงานข้ามชาติ ให้กำกับและดูแลการทำงานของแรงงานข้ามชาติ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยึดถือมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

“การประชุมในวันนี้ยังได้ Video Conference ไปยังสำนักงานแรงงานจังหวัด และสำนักงานแรงงานในต่างประเทศด้วย และขอให้ตรวจสอบช่วยเหลือแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อย่างทันท่วงที พร้อมทั้งขับเคลื่อนมาตรการให้ความช่วยเหลือของกระทรวงแรงงานในทุกมิติ” นายสุชาติ กล่าว

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวถึงการช่วยเหลือแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงในฉนวนกาซา ประเทศอิสราเอล ว่า ได้สั่งให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนแล้ว ประสานกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อนำร่างกลับมาประเทศไทยให้เร็วที่สุด และจะช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต อย่างเต็มความสามารถ โดยมีระเบียบของการช่วยเหลืออยู่แล้ว

ทั้งนี้ แรงงานที่จะเดินทางไปต่างประเทศขอให้ชะลอก่อน และพื้นที่ใดเป็นพื้นที่เสี่ยงยังไม่ให้ไป หากไม่เสี่ยงสามารถไปได้ สำหรับคนไทยที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงให้อพยพออกมาก่อนเมื่อปลอดภัยแล้วจะกลับไปอีกค่อยว่ากัน

 

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง
‘ประวิตร’ บอกคนว่างงานเป็นส่วนน้อย กำชับฉีดวัคซีนในระบบ ม.33 ให้ครอบคลุม