คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ตั้งตุลาการระดับศาลอุทธรณ์ 146 บัญชี ผู้พิพากษาชื่อดัง “อำนาจ-เชวง-อดุลย์” ขึ้นระนาบ “พงษ์เดช” เลขาฯศาลนั่งหัวหน้าคณะ “อนุรักษ์”ผงาดนั่งปธ.เเผนกคดีทุจริตฯ “ชำนาญ” เล็งทำหนังสือถึงนายกฯตรวจสอบปมถูกร้องเรียนหาเสียง ก.ต.ก่อนเสนอทูลเกล้าฯ
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 64 ที่ห้องประชุมใหญ่ศาลฎีกา สนามหลวง นางเมทินี ชโลธร ประธานศาลฎีกา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตุลาการครั้งที่ 22/2564 โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบบัญชีโยกย้ายเเต่งตั้ง บัญชี 4 ชั้น 4 สับเปลี่ยนตำเเหน่งระดับรองประธานศาลอุทธรณ์-ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ 146 บัญชี
โดยมีบัญชีรายชื่อที่น่าสนใจดังนี้ เห็นชอบนายอํานาจ โชติชะวารานนท์ ประธานเเผนกคดียาเสพติดในศาลอุทธรณ์ นายอำนาจมีผลงานดูแลคดียาเสพติดทั้งประเทศที่อุทธรณ์ขึ้นมา เนื่องจากศาลอุทธรณ์เป็นศาลเดียวที่มีอำนาจพิจารณาคดียาเสพติดที่อุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลชั้นต้นทั่วประเทศ ไปเป็นรองประธานศาลอุทธรณ์ภาค 1
นายเชวง ชูศิริ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาพระโขนง ซึ่งเป็นศาลที่มีคดีฆาตกรรมนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจ เข้าสู่การพิจารณาคดี โดยศาลมีคำพิพากษาประหารชีวิต พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ และอดีต รมช.พาณิชย์ อีกทั้งนายเชวง ยังเป็นอดีตเลขาธิการประธานศาลฎีกายุคนายชีพ จุลมนต์ ไปเป็นประธานเเผนกคดีผู้บริโภคในศาลอุทธรณ์ภาค 1
นายอดุลย์ ขันทอง อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งพระโขนงคนเเรกภายหลังยกระดับจากศาลจังหวัดขึ้นมาเป็นศาลเเพ่ง ยังเปิดโครงการ “สัปดาห์การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท” เเละ “เดือนแห่งการประนีประนอมข้อพิพาท” สนับสนุนเผยแพร่และพัฒนาระบบการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของศาลยุติธรรมและเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่คู่ความในการยุติข้อพิพาทด้วยตนเอง โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาหนี้สินที่เกิดขึ้น โดยร่วมมือคลินิกแก้หนี้ จัดเจ้าหน้าที่เข้าร่วมให้คำปรึกษาช่วยเหลือลูกค้าที่เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันให้ได้รับความช่วยเหลือแบบเบ็ดเสร็จ ยังมีโครงการเปิดทำการพิจารณาคดีนอกเวลาราชการหรือ”nightcourt”(ไนท์คอร์ท ) ไปเป็นประธานแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลอุทธรณ์ภาค 2
นายอนุรักษ์ สง่าอารีย์กุล รองประธานแผนกคดียาเสพติดในศาลอุทธรณ์ ซึ่งถูกนายชำนาญ รวิวรรณพงษ์ อดีตประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา ยื่นค้านบัญชีดังกล่าวจากกรณีถูกร้องเรียนว่าได้หาเสียงเลือกตั้งคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) บุคคลภายนอกในไลน์สภาตุลาการ ทั้งที่มีหน้าที่เป็น ก.ต. ไปเป็นประธานแผนกคดีทุจริต และประพฤติมิชอบในศาลอุทธรณ์โดยมีรายงานว่าที่ประชุม ก.ต.วันนี้ได้มีการพิจารณาความเหมาะสมว่าจะต้องส่งกลับไปยังอนุกรรมการตุลาการ (อกต.)เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติอีกหรือหรือไม่ โดย ก.ต.มีมติ 8ต่อ 6 ไม่ส่งกลับ อกต. จากนั้นจึงพิจารณาว่าจะผ่านขึ้นตำเเหน่งหรือไม่ปรากฎ ก.ต.เสียงข้างมาก10 ต่อ 4 เสียงผ่านบัญชีขึ้นเป็นประธานเเผนกคดีทุจริตฯในศาลอุทธรณ์
นายรุ่งศักดิ์ วงศ์กระสันต์ รองประธานแผนกคดียาเสพติดในศาลอุทธรณ์ เเละคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม ไปเป็นประธานเเผนกคดียาเสพติดในศาลอุทธรณ์
นายพงษ์เดช วานิชกิตติกูล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมไปเป็นหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ภาค 1
นายไพโรจน์ โปเล็ม ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9 ไปอดีตเลขานุการศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขึ้นเป็นหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ภาค 9
นางกรกันยา สุวรรณพานิช เลขานุการประธานศาลฎีกา (นางเมทินี ชโลธร) ไปเป็นหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์
ด้านนายชำนาญ รวิวรรณพงษ์ อดีตประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา กล่าวภายหลัง ทราบมติ ก.ต. เสียงข้างมาก แต่งตั้งนายอนุรักษ์ สง่าอารีย์กุล ขึ้นเป็นประธานเเผนกคดีทุจริตฯในศาลอุทธรณ์ ว่าในเรื่องนี้ ส่วนตัวยังคงมีข้อสงสัยในหลายประเด็น เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของ ก.ต. เสียงข้างมากว่าก่อนหน้านี้ที่ตนเองเคยร้องเรียนให้มีการตรวจสอบนายอนุรักษ์ ในประเด็นแชทไลน์หลุดล็อบบี้การคัดเลือก ก.ต.บุคคลภายนอก เข้าข่ายความผิดหรือมีมูลในการกระทำความผิดหรือไม่ แต่ตนเองทราบข้อมูลจาก ก.ต.บางท่านว่า ได้มีการสอบหรืออยู่ระหว่างการสอบแต่จะมีปัญหาตามมาในภายหลังว่าถ้ายังสอบไม่เสร็จแล้วเหตุใดถึงล่าช้า เพราะมีหลายเรื่องที่ต้องตรวจสอบและแม้ว่ายังสอบไม่เสร็จก็ต้องส่งเรื่องไปให้อนุ ก.ต. ทำการตรวจสอบ แต่ปัญหาก็คือว่า วันนี้ได้มีการส่งเรื่องให้อนุ กต. ไปไต่สวนหรือไม่ มองว่า ประเด็นนี้เป็นเรื่องใหญ่ แต่คงต้องดูรายงานการประชุมและเหตุผลของ ก.ต.แต่ละท่านก่อน ที่จะพิจารณาดำเนินการอย่างไรต่อ
นายชำนาญ ยังกล่าวต่อว่า แนวทางที่จะดำเนินการต่อจากนี้ คือ ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะที่จะต้องเป็นผู้นำความกราบบังคมทูล ว่า ก่อนที่จะนำความกราบบังคมทูล นั้น ควรตรวจสอบข้อมูลให้ครบถ้วนก่อน เพราะผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งสำคัญนี้ได้กระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามที่ตนเองได้ยื่นร้องเรียนและคัดค้านไปหรือไม่ เพราะนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่จะต้องเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ ก็ควรต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ครบถ้วนว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นตามข้อร้องเรียนหรือไม่ เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก ขณะนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่ควรจะมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้าง ก.ต. ซึ่งคงไม่ถึงกับต้องมีการยุบ ก.ต. ไป แต่อาจจะต้องมีการแก้ไขพระราชบัญญัติ โครงสร้าง ก.ต. ในอนาคต
ทั้งนี้การประชุม ก.ต.ครั้งที่23/2564 ต่อไปวันที่ 23 ส.ค.64










