เปิดตัวแฟรนไชส์ ‘ร้านสะดวกซัก’ จาก LG
LG Laundry Crew แห่งแรกของโลกและไทย
ตอนนี้ไม่มีค่าแฟรนไชส์-แรกเข้า พร้อมยืนยันไม่ตัดราคาพาร์ทเนอร์
ด้วยดีมานด์เครื่องซักผ้าที่แข็งแกร่งในประเทศไทย ทำให้ LG ตัดสินใจเดินหน้าขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์เครื่องซักผ้าพาณิชย์ เปิด ‘แฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก’ ในชื่อ ‘LG Laundry Crew’
สาขาแรกจะตั้งอยู่ที่ ซอยรามคำแหง 8
โดยเป็นสาขาต้นแบบมูลค่าลงทุน 2.5 ล้านบาท
ในร้านสะดวกซักประกอบแห่งแรก ไซส์ M-L (ใหญ่กว่า M ปกติเล็กน้อย) ประกอบด้วย เครื่องซักอบรวม 7 ชุด ได้แก่
– เครื่องซักผ้า 13 กิโลกรัม 4 เครื่อง
– เครื่องซักผ้า 17 กิโลกรัม 3 เครื่อง
– เครื่องอบผ้า 13 กิโลกรัม 4 เครื่อง
– เครื่องอบผ้า 17 กิโลกรัม 3 เครื่อง

รายละเอียดค่าบริการ เริ่มต้นราคา 40 บาท แบ่งละเอียดดังนี้
เครื่องซักผ้า 13 กิโลกรัม
– น้ำร้อน 50 บาท
– น้ำอุ่น 50 บาท
– น้ำเย็น 40 บาท
เครื่องซักผ้า 15 กิโลกรัม
– น้ำร้อน 70 บาท
– น้ำอุ่น 70 บาท
– น้ำเย็น 60 บาท
เครื่องอบผ้า 13 กิโลกรัม
– เริ่มต้น 40 บาท
– ต่อเวลา 10 บาท/10 นาที
เครื่องอบผ้า 17 กิโลกรัม
– เริ่มต้น 50 บาท
– ต่อเวลา 10 บาท/10 นาที
สามารถชำระผ่าน
– แลกเหรียญหยอด
– สแกนจ่าย
– ระบบสมาชิก (เติมเงิน-สะสมแต้ม) และสามารถใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน LG Laundry Lounge ได้ด้วย
การลงทุนร้านไซส์เล็กสุด คือ
– ไซส์ S เครื่องซักอบรวม 4 ชุด เริ่มต้น 1.5 ล้าน
– ไซส์ M เครื่องซักอบรวม 6 ชุด เริ่มต้น 2 ล้าน
– ไซส์ L เครื่องซักอบ 8 ชุด เริ่มต้น 2.5 ล้าน
– ไซส์ XL เครื่องซักอบ 10 ชุด เริ่มต้น 3 ล้าน
โดยขนาดร้านจะต้องเริ่มต้นจาก 40 ตร.ม. ขึ้นไป ส่วนระยะเวลาคืนทุนให้ผู้ประกอบแฟรนไชส์อยู่ที่ 2-4 ปีแล้วแต่สถานที่ตั้งและจำนวนผู้ใช้งานโดยรอบ (ระยะเวลาใช้งานเครื่องซักผ้า 12 ปี)

[ จุดเด่นของ LG Laundry Crew ] มี 3 ข้อ
– แบรนด์แข็งแกร่ง ผู้บริโภคไว้ใจ
– มีเครื่องซักผ้า-อบผ้าเชิงพาณิชย์
– บริการหลังการขาย เข้าถึงได้ตลอดเวลา
นอกจากนั้น ยังมีบริการอื่นๆ อย่าง
– ดีไซน์ตัวร้าน
– ลงพื้นที่สำรวจโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
– ส่งช่างดูแลทุกเดือน 2 ปี ไม่มีค่าใช้จ่าย
– ล้างถังซักฟรีปีละ 2 ครั้ง
– ติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง
– มีศูนย์บริการและช่างทุกจังหวัด
สำหรับผู้ประกอบการแฟรนไชส์เองยังสามารถใช้ ‘แอปพลิเคชัน’ ติดตามบริการผ่านออนไลน์ได้ว่า มีการใช้บริการเครื่องซักอบไปกี่ครั้ง เป็นราคาเท่าไร เครื่องมีปัญหาข้อข้องที่ไหนและสามารถแก้ไขปัญหาเองได้ยังไง หรือต้องอจ้งช่าง และยังสามารถติดตามร้านผ่าน CCTV ได้ด้วย
โดย LG มีบริการครบวงจรในด้านเครื่องซักผ้าในประเทศไทย ตั้งแต่โรงงานผลิต ศูนย์บริการและซ่อมบำรุง ไปจนถึงแบรนด์ในการจัดจำหน่าย จึงเชื่อว่าจะเป็นอีกจุดแข็งของ LG Laundry Crew ด้วย
[ ตอนนี้ไม่มีค่าแฟรนไชส์ ไม่มีค่าแรกเข้า แค่ลงทุนปรับร้าน-ซื้อเครื่อง ]
โดย ‘อำนาจ สิงหจันทร์’ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ จำกัด อธิบายว่า โมเดลปัจจุบันของ LG Laundry Crew ตอนนี้ ไม่มีสัญญาแฟรนไชส์ จึงไม่มีค่าแฟรนไชส์และค่าแรกเข้า ผู้ประกอบการแฟรนไชส์จึงจ่ายเพียงค่าลงทุนปรับปรุงร้านและค่าเครื่องซักอบ-ระบบ เป็นหลัก
เพราะ LG เชื่อว่า ร้านสะดวกซักเป็นร้านที่อยู่คู่กับชุมชน ร้านแฟรนไชส์ของ LG Laundry Crew จะทำให้คนไทยคุ้นเคยใกล้ชิดกับเครื่องซักผ้า LG และแบรนด์ LG มากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่คุ้มค่า ส่วนที่ว่าจะใช้โมเดลนี้ตลอดไปไหม ก็จะต้องรอดูสถานการณ์ในอนาคตก่อน

โดยในปีแรก LG จะเน้นขยายสาขาแฟรนไชส์ก่อน ไม่เน้นมีสาขาภายใต้การบริหารของ LG อีกอย่างคือ LG ไม่ได้ตั้งเป้าจำนวนแฟรนไชส์ที่จะเปิดในปีนี้ แต่จะเน้นการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนของแฟรนไชส์ สามารถมอบบริการที่ดีให้ลูกค้าและแฟรนไชส์เติบโตอย่างมั่นคง
ตอนนี้มีผู้ประกอบการสนใจเข้ามาคุยราว 40 เจ้า และ LG จะทำการพูดคุย ประเมินพื้นที่ พร้อมเลือกอีกครั้งว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้หรือไม่
[ สะดวกซักไทย ยังโตได้อีกไกล ทีมไทยเริ่มต้นไอเดีย ]
สาเหตุที่ LG เลือกเปิดโมเดลนี้ในประเทศไทยเป็นที่แรก เพราะศักยภาพของตลาดเครื่องซักผ้าสะดวกซักในประเทศไทยที่สามารถเติบโตได้อีกมาก ตอนนี้มีสาขาของทุกเจ้ารวม 4,500 สาขาแล้ว
แต่ก็ยังไม่เติบโตครอบคลุมทุกพื้นที่ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพและหัวเมืองตามจังหวัด ที่ยังไม่มีในหลายพื้นที่ นอกจากคนที่ไม่สะดวกจะมีเครื่องซักผ้าเองแล้ว ตลาดสะดวกซักก็ยังเติบโตจากลูกค้าที่มีเครื่องซักผ้าแล้ว แต่ต้องการซักผ้าชิ้นใหญ่ๆ หรือต้องการอบด้วย
อีกหนึ่งเหตุผลคือเครื่องซักผ้า LG ในประเทศไทยเป็นอันดับ 1 ของตลาดมากว่า 35 ปีมาแล้ว จึงทำให้มีความมั่นใจมาก
ทีม LG ประเทศไทยจึงทีมแรกของ LG โดยเป็นทั้งผู้คิดค้นไอเดียนี้และทำให้ไอเดียออกมาเป็นความจริง โดยส่งไปขออนุมัติจาก Global และได้รับอนุมัติ ใช้ระยะเวลารวมทั้งสิ้น 6 เดือน
[ ไม่ตัดราคา บอกพาร์ทเนอร์ก่อน ช่วยกันสร้างแบรนด์ ]
เพราะว่าจากผู้ให้บริการร้านสะดวกซักทั้งหมดในตลาดมีเจ้าที่ใช้เครื่องซักผ้าพาณิชย์ของ LG ประมาณ 8 เจ้า จากตลาดสะดวกซักมูลค่าราว 12,000 ล้าน
‘อำนาจ’ เลยอธิบายว่า LG ได้บอกกับพาร์ทเนอร์แล้ว ก่อนเริ่มต้นทำธุรกิจ พร้อมยืนยันกับพาร์ทเนอร์ว่าจะไม่มีการตัดราคา แย่งตลาด แต่จะเป็นการช่วยกันสร้างความมั่นใจให้กับเครื่องซักผ้าแบรนด์ LG ในสายตาผู้บริโภค

[ สร้างแบรนด์ สร้างรายได้ ดันเครื่องซักผ้าพาณิชย์โตต่อ ]
‘อำนาจ’ บอกว่า LG คาดว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า บริการแฟรนไชส์ร้านสะดวกซักจะสามารถสร้างรายได้ราว 2-3% ของรายได้ทั้งหมด แม้จะไม่ได้ถือเป็นสัดส่วนที่มาก
แต่เชื่อว่าจะมีส่วนในการทำให้แบรนด์ของ LG เข้าใกล้ผู้บริโภคมากขึ้น และจะมีส่วนในการดันเป้ารายได้จากเครื่องซักผ้าเชิงพาณิชย์ของ LG ไปสู่ 6,000 ล้านบาท (จากเดิม 3,600 ล้านบาท) และเติบโตต่อเนื่อง
โดยประเมินว่า ณ เวลานั้นรายได้จากแฟรนไชส์ร้านสะดวกซักจะเป็น 20% ของรายได้จากเครื่องซักผ้าพาณิชย์ทั้งหมด
ปัจจุบัน LG มีส่วนแบ่งอันดับ 1 ในตลาดเครื่องซักผ้าในสัดส่วน 34.3% ในปี 2566 จาก 33.7% ในปีก่อนหน้า
มูลค่าตลาดเครื่องซักผ้า (ไม่รวมอบ) 14,375 ล้านบาท เติบโตประมาณ 2% แต่เนื่องจาก LG เติบโตมากกว่าที่ 3% จึงสามารถขยายส่วนแบ่งตลาดได้ จากปัจจัยเครื่องซักอบพรีเมี่ยมราคาหลักแสนที่ขายไปได้ 400 กว่าเครื่องในเดือนสุดท้ายของปี










