ผู้ว่าฯตรังภูมิใจ หลัง “หาดเจ้าไหม-เกาะลิบง” ถูกรับรองเป็นอุทยานมรดกแห่งอาเซียน

ผู้ว่าฯตรังภูมิใจ หลัง “หาดเจ้าไหม-เกาะลิบง” ถูกรับรองเป็นอุทยานมรดกแห่งอาเซียน

ในประเทศ

อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ถูกรับรองให้เป็นอุทยานมรดกอาเซียน ผู้ว่าฯเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมกันอนุรักษ์อย่างเข้มแข็ง ด้านจังหวัดเตรียมจัดทำแผนการอนุรักษ์พื้นที่ไว้ในแผนยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัด โดยเฉพาะแผนจัดการพะยูน และหญ้าทะเลตัวชี้วัดสำคัญของความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศน์และทรัพยากร

จากกรณีการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 30 (30th ASEAN Senior Officials Meeting on the Environment : 30th ASOEN) ณ โรงแรม เดอะ สุโกศล กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆนี้ มีการรับรองอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง เป็นอุทยานมรดกอาเซียน

วันที่ 12 ก.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง  กล่าวว่า  ถือเป็นความภาคภูมิใจของพี่น้องชาวตรัง และมีความหมายที่ดีอยู่แล้วในตัว  โดยเฉพาะด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  เนื่องจากทั้งอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ถือเป็นพื้นที่ต้นแบบในการดูแลระบบนิเวศน์

โดยต้นแบบดังกล่าวทั้ง 2 พื้นที่   เกิดจากภาคประชาสังคมที่มีส่วนร่วมเป็นอย่างมากในการอนุรักษ์ ทุกคนมีหัวใจในการดูแลมรดกของชาติ หรือของโลก ซึ่งถือเป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณาของอาเซียน  ซึ่งต่อไปทุกฝ่ายต้องช่วยกันดูแลอนุรักษ์พื้นที่ให้อยู่อาศัยร่วมกันได้อย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ขณะเดียวกันให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ในทางสร้างสรรค์

นอกจากนี้ ตัวชี้วัดที่ชัดเจนที่ได้รับการรับรองเป็นมรดกแห่งอาเซียนในครั้งนี้คือ ทะเลตรังทั้งในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง มีทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่อุดมสมบูรณ์และถือเป็นต้นแบบสำคัญในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม คือ เรามีพะยูนฝูงใหญ่ที่สุดในประเทศอาศัยอยู่ มีแหล่งหญ้าทะเลผืนใหญ่เนื้อที่กว่า 18,000 ไร่  โดยเฉพาะที่บริเวณเขาบาตู ต.เกาะลิบง อ.กันตัง ทุกคนได้เห็นแล้วจากกรณีพะยูนน้อย “มาเรียม” กับการศึกษาเป็นตัวอย่างในการอนุรักษ์ เพราะพื้นที่ดังกล่าวมีระบบนิเวศน์ที่อุดมสมบูรณ์ มีความเหมาะสมในการดูแลห่วงโซ่อาหารทางทะเล เพราะในโลกนี้ถ้ามีพะยูนที่ไหนมาก หมายความว่าที่นั่นจะมีความอุดมสมบูรณ์  เหมือนอย่างเช่นที่ประเทศฟิลิปินส์ ที่ชาวประมงมีสัตว์น้ำทางทะเลมากมาย เช่นเดียวกับที่ ต.เกาะลิบง ทั้งนี้ แหล่งหญ้าทะเลถือเป็นแหล่งสร้างห่วงโซ่อาหารสำหรับสัตว์น้ำทางทะเลทุกชนิดมีความหลากหลายทางทะเล

ส่วนการรักษาให้ทั้ง 2 แหล่งมรดกอาเซียนแห่งนี้มีความยั่งยืนนั้น นายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการให้ทุกฝ่ายร่วมกันอนุรักษ์อย่างเข้มแข็งแล้ว ทางจังหวัดจะต้องจัดทำยุทธศาสตร์ของจังหวัดขึ้นมา ทั้งเรื่องของพะยูน หอยมือเสือ หรือทรัพยากรทางทะเลที่หายาก จะต้องทำอย่างชัดเจนมากขึ้น ร่วมกับภาคประชาสังคม ภาควิชาการ หรือสถาบันการศึกษาต่างๆ

โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ด้านพะยูนและแหล่งหญ้าทะเล จากที่เคยมีประมาณกว่า 170 ตัว ก็เพิ่มขึ้นเป็น 200 กว่าตัว รวมทั้งไม่มีความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับพะยูนอีกแล้ว เช่น นำไปเครื่องรางของขลัง  นอกจากนั้น ล่าสุดทางจังหวัดก็ได้ให้งบประมาณกับอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จำนวน 5 แสนบาท เพื่อนำไปปลูกหญ้าทะเล  ถึงแม้จะไม่มาก แต่ก็ถือเป็นการจุดประกายด้านการอนุรักษ์

อย่างไรก็ตาม  สำหรับพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง – ปากแม่น้ำตรัง ยังได้รับการประกาศให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ (Ramsar Site) โดยเป็น 1 ใน 14 แห่งทั่วประเทศ ลำดับที่ 1182 มีเนื้อที่รวม 414,456.25 ไร่  เมื่อวันที่ 14  สิงหาคม 2545  ข้อมูลทั่วไปและความสำคัญของพื้นที่ ประกอบด้วย ระบบนิเวศ 3 ลักษณะคือ แม่น้ำ ปากแม่น้ำ และชายฝั่ง

มีความหลากหลายของระบบนิเวศสูง ประกอบด้วย ป่าชายเลน แหล่งน้ำกร่อย ชายหาด หาดหิน แนวปะการัง และแหล่งหญ้าทะเล เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยที่สำคัญของนกอย่างน้อย 212 ชนิด ชนิดที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ เช่น นกซ่อมทะเลอก แดง นกฟินฟุต นกหัวโตกินปู ทั้งนกอพยพและนกประเจ้าถิ่น รวมทั้งเป็นที่อยู่อาศัยของพะยูน ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวน รวมทั้งเป็น แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง มีความงดงามทางธรรมชาติ ตลอดจนเป็นแหล่งศึกษาวิจัยที่สำคัญแห่งหนึ่ง

 

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง