
ใบไม้จากป่าสร้างรายได้ให้ชุมชน เป็นภาชนะใส่อาหาร ลดปัญหาไฟป่า หมอกควัน ช่วยลดการใช้ถุงพลาสติก ลดเชื้อเพลิงในป่าสู่การพัฒนาเมืองอย่างยั้งยืน
กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านทบศอก หมู่ 8 ต.หมอกจำแป่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ร่วมกันสาธิตการผลิตภาชนะใส่อาหารจากใบไม้ที่เก็บหาได้จากในป่าที่จัดขึ้นภายในศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาสร้างป่าสร้างรายได้ ซึ่งนำมาสาธิตและการฝึกสอนการใช้เครื่องปั๊มจานวัสดุธรรมชาติ โครงการสร้างป่าสร้างรายได้ ตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานเครื่องปั๊มให้กับพระอติเทพ จิตตมโน หรือครูบาบาสที่พักสงฆ์บ้านทบศอก ต.หมอกจำแป่ เครื่องละประมาณ 45,000 บาท จำนวน 4 เครื่อง นำมาผลิตภาชนะใส่อาหารหลากหลายรูปแบบ เพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชนในหมู่บ้าน ช่วยลดการใช้ถุงพลาสติก ลดเชื้อเพลิงในป่า

น.ส.ธัญญาลักษณ์ พัฒนาผาเจริญ อายุ 37 ปี ประธานกลุ่มรัฐวิสาหกิจชุมชน บ้านทบศอก ต.หมอกจำแป่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า เริ่มแรกก็เข้ามาอยู่ในกลุ่มสร้างป่าสร้างรายได้ ตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และก็มาต่อยอดเป็นกลุ่มรัฐวิสาหกิจชุมชนของกลุ่มออมทรัพย์สร้างป่าสร้างรายได้ชุมชนบ้านทบศอก โดยพระอติเทพฯ( ครูบาบาส ) ได้รับพระราชทานเครื่องปั้มใบไม้จากสมเด็จพระเทพ ฯ มาส่งเสริมสนับสนุนให้ทางกลุ่มฯ ปัจจุบันกำลังเริ่มฝีกทำได้ประมาณ 1 สัปดาห์ มีผู้ประกอบการทั้งจากต่างจังหวัดและภายในจังหวัด ได้สั่งซื้อภาชนะจากใบไม้มากถึง 3,000 ชิ้น กำลังเร่งผลิตให้ทัน ราคาจำหน่าย ขายส่งใบละ 5 บาท ขายปลีกใบละ 3 บาท
สำหรับวัสดุที่นำมาผลิตมีหลากหลายทั้งกาบกล้วย, ใบสัก, ใบตองตึง, ใบตองทั้งสดและแห้ง ถ้าสดจะมีความชื้นสูงก็จะนำมาปรับค่าการผลิตถ้าเป็นกาบไผ่ตั้งอุณหภูมิอยู่ที่ 130 องศา ใช้เวลาในการอบประมาณ 30 วินาที ถ้าเป็นใบสัก ใบตองตึง อุณหภูมิอยู่ที่ 160 ใช้เวลาในการอบประมาณ 1 นาที ส่วนวัตถุดิบที่นำมาผลิตมีอยู่มากกายในป่า ไปเดินหาเก็บใบที่ร่วงหล่นลงมา และนำมาล้างน้ำทำความสะอาด ผ่านการฆ่าเชื้อ จากนั้นก็นำมาซ้อนกันประมาณ 3 ใบ โดยใช้กาวแป้งข้าวเหนียวทา เพื่อให้ภาชนะมีความแข็งแรงทนทาน และนำมาเข้าเครื่องบีบอัดตามรูปภาชนะที่ต้องการ ทั้งเป็นถ้วย จาน ชาม และภาชนะใส่อาหารอื่น ๆ อนาคตก็จะพัฒนาเป็นแก้ว สามารถใส่น้ำดื่มได้ ส่วนเครื่องปั้มถ้ามีทุนก็จะซื้อเพิ่ม เพื่อผลิตรูปแบบที่หลากหลายตามความต้องการของตลาด ต่อไปเราก็จะสร้างอัตลักษณ์ของชุมชน เพราะในหมู่บ้านมีทั้งดอกชบา ดอกแอบเปิ้ล และมีดอกไม้เฉพาะถิ่น เวลาลูกค้าสั่งซื้อไปก็จะรู้ทันทีว่ามาจากหมู่บ้านทบศอก เพราะเป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้าน โครงการสร้างป่าสร้างรายได้ในหมู่บ้านจะมีอยู่ทั้งหมด 67 คน แต่ในกลุ่มรัฐวิสาหกิจชุมชนของหมู่บ้านขณะนี้มีอยู่ 15 คน ตอนนี้ยังไม่มีทุน เรามีแต่เครื่องที่ได้รับพระราชทานมา หลังจากขายได้เราก็คงจะมีเงินมาเข้ากลุ่ม ขณะนี้มีคนสั่งมาแล้ว จำนวน 2,200 ใบ

นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า การนำใบไม้จากป่ามาผลิตเป็นภาชนะใส่อาหาร จะเป็นประโยชน์กับประชาชนชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนหลายด้าน ทั้งลดเชื้อเพลิง สร้างรายได้ อยากเชิญชวนประชาชน ผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้า หันมาใช้ภาชนะใส่อาหารซึ่งทำมาจากวัสดุธรรมชาติ สามารถย่อยสลายได้ง่าย ราคาไม่แพง ทางจังหวัดก็จะขยายผลไปสู่ชุมชนอื่นๆในทุกอำเภอ เพื่อลดปัญหาไฟป่า หมอกควัน ที่สำคัญ จะเป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับคนในหมู่บ้าน คนที่ว่างงาน คนที่ไม่มีอาชีพ ที่อยู่กับบ้านดูแลพ่อแม่ ไม่มีงานก็มาเข้าร่วมกลุ่ม สร้างอาชีพ มีรายได้เพิ่มขึ้น









