อธิบดีกรมการแพทย์ ย้ำผู้ป่วยต้องใช้กัญชาทางการแพทย์ตามข้อบ่งชี้ของโรค ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ ยืนยันกัญชาใช้รักษาโรคได้ 4 กลุ่มโรคเท่านั้น และวันนี้ได้เปิดการอบรมบุคลากรทางการแพทย์ รุ่นที่ 2 แล้ว
วันที่ 23 พ.ค.2562 นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดการอบรมการใช้สารสกัดจากกัญชาทางการแพทย์สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ รุ่นที่ 2 ผู้เข้าอบรมครั้งนี้ประกอบด้วยแพทย์ ทันตแพทย์และเภสัชกรจำนวน 250 คน อบรมระหว่างวันที่ 23-24 พฤษภาคมนี้ โดยผู้เข้ารับการอบรมที่ผ่านเกณฑ์การทดสอบความรู้หลังการอบรม จะได้รับประกาศนียบัตรรับรองผ่านการอบรม โดย 1-2 เดือนนี้ บุคลากรทางการแพทย์ สังกัดกรมการแพทย์ที่ผ่านการอบรมจะสามารถสั่งจ่ายยากัญชาทางการแพทย์ให้กับผู้ป่วยได้ และในอนาคตจะมีการเปิดอบรมออนไลน์ให้บุคลากรทางการแพทย์
นายแพทย์สมศักดิ์ กล่าวว่า สารสกัดจากกัญชามีประโยชน์ทางการแพทย์หากนำมาใช้ในสัดส่วนและปริมาณที่เหมาะสม โดยโรคที่มีหลักฐานทางวิชาการสนับสนุนว่าสารสกัดจากกัญชามีประโยชน์ในการรักษา ได้แก่ ผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับยาเคมีบำบัดแล้วมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน, โรคลมชักในเด็กรักษายาก, โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็งที่มีภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง และผู้ป่วยที่มีอาการปวดเส้นประสาทที่รักษาด้วยวิธีการต่างๆ แล้วไม่ได้ผล
หากใช้เกิดขนาดหรือเกินปริมาณที่ร่างกายจะรับไหว สารสกัดจากกัญชาอาจทำให้เกิดโทษได้ ดังนั้น การใช้ต้องอยู่ภายใต้ดุลยพินิจของแพทย์ในเงื่อนไขผู้ป่วยรายกรณี ต้องใช้ในขนาดและปริมาณที่ถูกต้องซึ่งหลักฐานวิจัยทางการแพทย์ และขณะนี้กัญชาใช้รักษาโรคได้ 4 กลุ่มโรคเท่านั้น
อธิบดีกรมการแพทย์ ระบุว่า ประชาชนที่ต้องการใช้กัญชาทางการแพทย์ สามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่โรงพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์ทั่วประเทศ และศูนย์มะเร็ง 7 แห่งส่วนกรณีที่พบผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่ห้องฉุกเฉินจากการใช้น้ำมันกัญชาหยดใต้ลิ้นในปริมาณมาก อธิบดีกรมการแพทย์ ระบุว่า กัญชามีทั้งคุณและโทษ การใช้ในปริมาณที่เกินขนาดจะส่งผลต่อร่างกาย ส่งผลต่อระบบประสาท มีอาการดื้อยา และเสพติดการใช้น้ำมันกัญชาได้ เนื่องจากแต่ละคนมีการตอบสนองต่อน้ำมันกัญชาต่างกัน
