‘วิษณุ’ แจงจะดึงกัญชากลับมาเป็นยาเสพติด ทำไม่ได้ และบอร์ด ป.ป.ส.จะนำมาแก้ไขไม่ได้เช่นกัน ด้านรมว.ยุติธรรม เผยวันนี้หารือ ป.ป.ส.เพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันย้ำกฎหมายกัญชาต้องทำให้เสร็จ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงกรณีข้อเรียกร้องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พิจารณากัญชากลับมาเป็นยาเสพติดนั้น ยืนยันว่า กัญชาถูกปลดล็อคจากประมวลกฎหมายอาญายาเสพติดแล้ว แต่การจะเดินหน้ากัญชาเสรีหรือไม่เสรีนั้นต้องมีกฎหมายมารองรับเหมือนกฎหมายพืชกระท่อม แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถออกกฎหมายกัญชาได้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขจึงได้ออกประกาศกฎหมายอื่นมาควบคุม โดยกฎหมายแต่ละฉบับเป็นอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้รับผิดชอบ
การที่จะนำเข้าที่ประชุม ป.ป.ส.นั้น เพื่อเป็นการทำความเข้าใจให้ตรงกัน ไม่ใช่ต้องการเบรกกฎหมาย โดยย้ำว่ากฎหมายกัญชาต้องทำให้เสร็จ โดยต้องผ่านสภาผู้แทนราษฎร และต้องห้ามในสิ่งที่ควรห้ามและเปิดในสิ่งที่ควรเปิด ส่วนในรายละเอียดกฎหมายยังไม่สามารถตอบแทนใครได้ว่าพร้อมแล้วหรือไม่ ส่วนจะดึงมาเป็นยาเสพติดอีกหรือไม่ นายสมศักดิ์ชี้แจงว่า เมื่อประมวลกฎหมายอาญายาเสพติดได้นำกัญชาออกจากยาเสพติดประเภทที่ 5 แล้ว แต่ยังไม่ออกกฎหมายลูกจึงต้องกลับมาใช้กฎหมายเดิม จนกว่ากฎหมายใหม่จะเสร็จ ดังนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขจึงได้ออกประกาศกระทรวงออกมาควบคุม
- แก้กฎหมายกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดไม่ได้
ขณะที่วานนี้ (21 พ.ย. 2565) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายจะเสนอให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ว่า ไม่เป็นความจริง เพราะทำไม่ได้ โดยวันนี้ (22 พ.ย. 2565) ในการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจะพูดคุยหารือถึงเรื่องประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) ซึ่งประกาศดังกล่าวยังไม่ลงในราชกิจจานุเบกษา คณะรัฐมนตรีจึงขอให้ ป.ป.ส.ซึ่งเป็นคณะกรรมการชุดเดียวที่จะประชุม ให้ช่วยดูว่าจะมีประเด็นอะไรที่คณะรัฐมนตรีสงสัย และขอให้กรมแพทย์แผนไทย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ออกมาชี้แจง ซึ่งไม่มีอะไรกังวล
นายวิษณุ กล่าวด้วยว่า การจะดึงให้กัญชากลับมาเป็นยาเสพติด ทำไม่ได้ และบอร์ด ป.ป.ส.จะนำมาแก้ไขไม่ได้ เพราะไม่ใช่อำนาจของป.ป.ส. ตนเชื่อว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดยังไม่มีใครเห็นรายละเอียดประกาศเพิ่มเติมของกระทรวงสาธารณสุข ดังนั้นจึงต้องมาร่วมพูดคุยในรายละเอียดกันว่าเป็นอย่างไร หากอธิบายได้ก็จะเกิดความเข้าใจ
“เราไม่มีอำนาจที่จะยับยั้งให้เขาไม่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา อย่างน้อยการอธิบายก็จะทำให้เกิดความเข้าใจมากขึ้นเพราะประเด็นนี้มีคนเข้าใจผิดอยู่ ส่วนจะประกาศบังคับใช้ในราชกิจจาในช่วงไหนขึ้นอยู่กับการส่งเรื่องไปยังเลขาธิการคณะรัฐมนตรี” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว










