แม่ค้าออนไลน์ นำหลักฐานเข้าร้องตำรวจปคบ. จับโค้ชสอนยิงโฆษณาสื่อออนไลน์โฆษณาเกินจริง เสียหายคนละหลายหมื่นบาท ยืนยันไม่ได้ความรู้เพิ่มตามที่มีการโฆษณา

วันที่ 25 ส.ค. 2563 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้พา น.ส.จิรภัทรชญาน์ อุดหนุนกาญจน์ อายุ 29 ปี แม่ค้าออนไลน์ขายผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารเสริม พร้อมพวก 3 คน เข้าแจ้งความต่อพ.ต.ท.ธัชรินทร์ สุวณะศิริ สว. (สอบสวน) กก.1 บก.ปคบ. ให้ดำเนินคดีกับโค้ชสอนออนไลน์ชื่อดัง กล่าวหาว่ามีการโฆษณาคอร์สเรียนเกินความจริงทำให้มีผู้หลงเชื่อซื้อคอร์สเรียนคนละหลายหมื่บาท โดยนำเอกสารการสนทนาสอบถามข้อมูลคอร์สเรียนยิงโฆษณาออนไลน์มามอบเป็นหลักฐาน
น.ส.จิรภัทรชญาน์ ตัวแทนผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเองทำธุรกิจขายอาหารเสริมในเฟซบุ๊กจึงต้องการเรียนยิงโฆษณาเพื่อให้มีคนเข้าถึงเพจและเข้ามาซื้อสินค้ามากขึ้น จึงติดต่อไปยังเพจสอนยิงโฆษณาดังกล่าว เพื่อสอบถามพูดคุยรายละเอียดในการสอน ซึ่งทางเพจอ้างว่า จะสอนเทคนิคลับทำให้มีคนเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของตนมากยิ่งขึ้น โดยแจ้งว่ามีหัวข้อการสอนให้กับผู้เรียน 12 หัวข้อ ซึ่งไม่ได้ระบุว่า จำเป็นต้องมีพื้นฐานเกี่ยวกับการยิงโฆษณามาก่อน แต่ปรากฎว่า เมื่อลงเรียนไปแล้ว กลับไม่เป็นไปตามที่โฆษณาไว้ เช่น แจ้งว่าในคอร์สเรียนหนึ่งคอร์ส มีผู้เรียน 8-10 คน แต่เมื่อเรียนจริง มีผู้เข้าเรียนมากถึง 30 คน ทำให้ไม่สามารถควบคุมคุณภาพการสอนได้อย่างทั่วถึง และเนื้อหาในการสอน ไม่ครบตรงตามที่ได้โฆษณาไว้ที่แจ้งว่าจะมีการสอน 12 หัวข้อ แต่มีการสอนจริงเพียง 3 หัวข้อเท่านั้น และระยะเวลาในการสอนไม่ตรงตามข้อตกลงด้วย
“คอร์สเรียนมีราคาเริ่มต้น ตั้งแต่ 7,900 – 30,000 บาท ได้ลงคอร์ส 7,900 บาท ซึ่งเป็นคอร์สเริ่มต้น สาเหตุที่เข้าไปลงคอร์สเรียน เพราะเห็นรีวิวจากผู้ที่ลงเรียนแล้วยอดขายสินค้าดีขึ้น และทางเพจอ้างว่า มีเทคนิคลับที่จะทำให้ยิงโฆษณาสินค้าผ่านเฟซบุ๊กแล้วจะปัง และค่าลงโฆษณาถูก แต่เมื่อไปเรียนแล้วไม่เป็นไปตามที่โฆษณาเอาไว้เเต่อย่างใด และไม่ได้รับความรู้อะไรเพิ่มเติม” ตัวแทนผู้เสียหาย ระบุ
เบื้องต้น ผู้เสียหายต้องการเอาผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภคเกี่ยวกับการโฆษณาเกินจริง อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ผู้เสียหายได้ไปร้องเรียนต่อ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคไว้ เมื่อวันที่ 20 ส.ค. และได้มีการนัดไกล่เกลี่ย ในวันที่ 31 ส.ค.นี้
ด้าน พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคบ. ได้สอบปากคำผู้เสียหายและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป










