สำนักข่าวรอยเตอร์ สัมภาษณ์ผู้บริหารกลุ่มบริษัทเรเว่ (Rever Group) ‘ประธานวงศ์ พรประภา’ และ ‘ประธานพร พรประภา’ ในฐานะบริษัทผู้จัดจำหน่ายรถบีวายดี BYD ในประเทศไทย โดย ซีอีโอเรเว่ เล่าถึงการที่ยอดขายรถบีวายดีพุ่งสูงจนบริษัทต้องปรับแผนธุรกิจบ่อยครั้งเพื่อรับยอดขายที่เติบโตเร็วกว่าที่คาดไว้ และมีความต้องการมากจนทางเรเว่ขอให้บีวายดีเพิ่มซัพพลาย
ปัจจุบันเรเว่ มีโชว์รูมบีวายดีประมาณ 100 แห่ง และตามแผนการเดิมที่เคยระบุไว้ คือ มีแผนจะเพิ่มโชว์รูมเป็น 3 เท่าภายใน 2-3 ปี
‘ประธานวงศ์’ ซีอีโอเรเว่ กล่าวกับรอยเตอร์ถึงสาเหตุว่าทำไมถึงเป็นบีวายดีว่า ถ้าดูในตลาดจีนจะเห็นแบรนด์รถไฟฟ้าที่นั่นประมาณ 20-30 แบรนด์ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดที่จะอยู่รอด มีเพียงแบรนด์ใหญ่ที่มีกำลังการผลิตสูงและมีความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเท่านั้นที่จะยังคงอยู่
ข้อมูลจากบริษัทวิจัยตลาด Counterpoint ระบุว่า ปัจจุบันค่ายรถ บีวายดี ครองส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของไทยมากเป็นอันดับหนึ่งถึง 46% และเป็นผู้เล่นรายใหญ่อันดับ 3 ของตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลโดยรวมของไทยด้วยส่วนแบ่งมากกว่า 9% ขณะที่ปี 2566 ตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของไทยมียอดขายประมาณ 407,000 คัน
ยอดขายรถบีวายดีในไทยคิดเป็น 1 ใน 5 จากยอดขายในต่างประเทศทั้งหมดของบีวายดีในไตรมาสที่ 3/2566 ซึ่งไทยถือเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ระดับภูมิภาคที่ BYD กำลังสร้างโรงงานมูลค่า 490 ล้านดอลลาร์เพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 150,000 คันต่อปี
มีการวิเคราะห์ถึงการทำการตลาดแบรนด์บีวายดีในประเทศไทยของเรเว่ ที่ทำให้ค่ายรถจากจีนค่ายนี้ประสบความสำเร็จ จากมุมมองของ ABeam Consulting บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำว่า การทำการตลาดบีวายดีในไทย ยังคงใช้สื่อโฆษณาแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะสื่อนอกบ้าน
ตัวอย่างเช่น บริษัทได้ติดตั้งป้ายโฆษณาบีวายดีขนาดใหญ่อย่างมีกลยุทธ์ในเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่นในกรุงเทพฯ และรอบเมืองหลวงของจังหวัดในพื้นที่ห่างไกล เช่น ป้ายที่อยู่ใกล้ชายแดนไทยกับลาว ซึ่งกลยุทธ์นี้ได้รับการพิสูจน์ว่าได้ผล เนื่องจากการเห็นรถยนต์บีวายดี กลายเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปแม้ในพื้นที่ชนบท
พร้อมกับที่จังหวะการมาของบีวายดีในไทยเป็นช่วงเวลาไม่กี่เดือนหลังจากที่รัฐบาลไทยเปิดตัวแพ็คเกจเงินอุดหนุนเพื่อช่วยลดราคารถยนต์ไฟฟ้าสูงสุดถึง 150,000 บาท ในช่วงต้นปี 2565
ABeam Consulting มองว่า การมาเมืองไทยของแบรนด์บีวายดี กับการเป็นผู้จัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในไทยอย่างเรเว่ ถือเป็น Perfect Timing ของตลาดนั่นเอง
กล่าวคือความสำเร็จของบีวายดีในไทย คือ 1.การสร้างเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายอย่างจริงจัง 2.การตั้งราคา และ 3.การใช้กลยุทธ์การตลาดแบบเดิมแต่ได้ผล ทำให้บีวายดีก้าวทันคู่แข่งรถอีวีอย่างเทสลา และเกรท วอลล์ มอเตอร์ รวมทั้งเข้ามาชิงส่วนแบ่งกับตลาดรถญี่ปุ่นได้
ที่มา Reuters










