พิตตินันท์ ยันเจอบอยแค่ครั้งเดียว 3 ชม. กลับถูกนำชื่อไปแอบอ้าง ทำชีวิตพัง

พิตตินันท์ ยันเจอบอยแค่ครั้งเดียว 3 ชม. กลับถูกนำชื่อไปแอบอ้าง ทำชีวิตพัง

ในประเทศ

จากกรณีเพจ “แหม่มโพธิ์ดำ” เปิดเผยข้อมูลว่าขบวนการกักตุนหน้ากากอนามัย โดยมีตัวละครสำคัญ คือ นายศรสุวีร์ ภู่รวีรัศมีวัชรี หรือบอย ที่แอบอ้างเป็นคนสนิทของ นายพิตตินันท์ รักเอียด ผู้ติดตาม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์

.

วันที่ 11 มี.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายพิตตินันท์ รักเอียด อดีตคณะทำงาน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.สุโกศล ทองแกมแก้ว รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท.ให้ความดำเนินคดีฐานทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงกับความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ต่อ นายศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี หรือ บอย ที่โพสต์ภาพกับตน ระหว่างรับประทานอาหาร พร้อมแจ้งความเอาผิดกับขบวนการกักตุนหน้ากากอนามัย
.
หลังให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ประมาณ 4 ชั่วโมง นายพิตตินันท์ ให้สัมภาษณ์ว่า มาให้การในฐานะพยานกรณีที่ บก.ปอท.ดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กับนายบอย และนำพยานหลักฐานมาให้ บก.ปอท.เอาผิดนายบอย ตามที่ตนเคยแจ้งความไว้ สภ.ท่าชนะ ในข้อหาหมิ่นประมาททำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ต่อวงศ์ตระกูล และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

สำหรับนายบอยนั้น ตนรู้จักผ่านรุ่นน้องที่รู้จักชื่อ กัน ตอนไปทานอาหารที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านประตูน้ำ เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา เพิ่งพบได้เพียง 3 ชั่วโมง โดยที่ตนไม่รู้จักมาก่อนเลย กระทั่งนายกันบอกว่า นายบอย มีหน้ากากอนามัยขาย ตนจึงขอซื้อหน้ากาก 4-5 พันชิ้น เพื่อนำไปแจกให้กับชาวบ้านในพื้นที่ดูแลของตนในนามส่วนตัวไม่เกี่ยวกับ ร.อ.ธรรมนัส หรือใครทั้งสิ้น โดยยังไม่ทันได้คุยเรื่องราคา แต่นายบอย ไม่ขายให้ ซึ่งตนไม่ทราบว่าจะขายกี่ชิ้นจนมาทราบตามข่าวคาดว่าคงจะขายเป็นล้านชิ้น

นายพิตตินันท์ กล่าวยืนยันว่า ตนก็รักประเทศ มีความตั้งใจในการทำงานในพื้นที่ การโดนปลดครั้งนี้ไม่มีอะไร มองว่าเป็นกรรม เพียงการพบกัน 3 ชั่วโมงครั้งนั้นทำให้ชีวิตตัวเองเปลี่ยน ทั้งตนเดือดร้อน นายเดือดร้อน ประชาชนเดือดร้อนทั้งประเทศ ตนขอโทษ ร.อ.ธรรมนัส และทุกๆ คนที่เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดินที่ทำให้มีปัญหา เมื่อเกิดอะไรขึ้นมาทุกอย่างก็เป็นการเมือง ตอนนี้สังคมจะตราหน้าอย่างไรขอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ตนไม่ได้ออกมาแก้ข่าว เรามีกระบวนการทางกฎหมาย มีรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกัน จึงออกมาปกป้องสิทธิ์ของตัวเองและครอบครัว รวมถึงบุคคลที่รัก ยืนยันว่าตน และ ร.อ.ธรรมนัส ไม่เกี่ยวกับการกักตุนหน้ากากแน่นอน

เมื่อถามว่าจากนี้จะเอาผิดเพจแหม่มโพธิ์ดำด้วยหรือไม่ นายพิตตินันท์กล่าวว่า สำหรับคนที่ไปด่าหรือทำลายชื่อเสียงคนในวงศ์ตระกูลตนนั้น ตนมองว่าการให้อภัยคือความสุขของตัวเอง แต่ทนายกำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการเอาผิดทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งการโพสต์และแชร์ข้อความทั้งหมดแล้ว

 

 

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง