รู้จัก MBTI Marketing แบรนด์นี้เข้าใจฉัน จับจังหวะสร้างยอดขาย

รู้จัก MBTI Marketing แบรนด์นี้เข้าใจฉัน จับจังหวะสร้างยอดขาย

เพราะทุกวันนี้ผู้บริโภคมีความซับซ้อนมากขึ้น การควักเงินจากกระเป๋าเพื่อซื้อสินค้าสักอย่างไม่ได้เลือกแค่ที่ราคาอย่างเดียว แต่ยังเลือกสินค้าที่ให้ประสบการณ์บางอย่างที่โดนใจด้วย ส่งผลให้หลายแบรนด์หันมาทำการตลาดแบบเฉพาะคนมากขึ้น หรือ personalized marketing เพื่อสร้างการเชื่อมโยงและทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า “แบรนด์นี้เข้าใจฉัน”

และหนึ่งในเครื่องมือที่ถูกนำมาใช้สร้างการเชื่อมโยงกับลูกค้าบ่อยๆ ช่วงนี้ก็คือ MBTI หรือ Myers-Briggs Type Indicator แบบทดสอบบุคลิกภาพที่แบ่งคนออกเป็น 16 ประเภท ที่บ่งบอกว่าเราเป็นคนประเภทไหน 

โดย MBTI แบ่งบุคลิกภาพออกเป็น 16 แบบ แต่ถูกจัดกลุ่มให้ง่ายขึ้นเป็น 4 บ้านหลักๆ  อาทิ 

        • บ้านนักการทูต (NF) ตัวอย่างบุคลิกภาพ ก็เช่น  INFJ, INFP, ENFJ, ENFP
        • บ้านนักวิเคราะห์ (NT) ตัวอย่างบุคลิกภาพ ก็เช่น INTJ, INTP, ENTJ, ENTP 
        • บ้านผู้พิทักษ์ (SJ) ตัวอย่างบุคลิกภาพ ก็เช่น ISTJ, ISFJ, ESTJ, ESFJ
        • บ้านนักสำรวจ (SP) ตัวอย่างบุคลิกภาพ ก็เช่น ISTP, ISFP, ESTP, ESFP

บางคนทำแบบทดสอบแล้วโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย มองหาคนประเภทเดียวกัน โยงไปถึงการวิเคราะห์ MBTI ของคนอื่น หรือบางคนก็ตั้ง MBTI ของตัวเองไว้บนโปรไฟล์โซเชียลมีเดียเลย เพื่อที่จะบ่งบอกบุคลิกภาพของเรา 

[ MBTI จากแบรนด์อสังหาฯ ช่วยบอกว่าเราเหมาะกับบ้านแบบไหน ]

หลายแบรนด์เริ่มออกมาทำการตลาดแนะนำสินค้าสำหรับแต่ละ MBTI อย่างแสนสิริก็มีคอนเทนต์ออกมาแนะนำว่า MBTI แบบนี้เหมาะกับบ้านแบบไหน เช่น บ้านของ ENTJ เหมาะกับบ้านที่ออกแบบให้ทุกรายละเอียดสะท้อนถึงความสำเร็จและความภาคภูมิในทุกๆ ด้านของการใช้ชีวิต เหมาะกับคนที่มีความกล้าหาญ มั่นคง องอาจ มีความโดดเด่นเป็นผู้นำทางความคิด

หรือ ENFP ทาวน์โฮมที่เต็มไปด้วยสีสัน มาพร้อมฟังก์ชันและดีไซน์ที่โดดเด่นเติมเต็มความสุขและสดใสได้ทุกวัน เหมาะกับคนที่มีแพสชันในการใช้ชีวิต กระตือรือร้น รักการเดินทาง และไม่หยุดนิ่ง มีมนุษย์สัมพันธ์ดีและยิ้มสู้ได้กับทุกเรื่อง

โดยที่ในคอนเทนต์ทางแสนสิริก็มีการแนะนำโครงการของตัวเองที่เหมาะกับ  MBTI เหล่านั้นเข้าไปด้วย ถือเป็นไทน์อินสินค้าตัวเองเสริมเข้าไป 

[ ร้านนายอินทร์ ใช้ MBTI แนะนำหนังสือที่เหมาะสมกับลูกค้า ]

อีกหนึ่งกรณีน่าสนใจอย่างธุรกิจร้านหนังสือนายอินทร์ได้หยิบ MBTI มาแนะนำหนังสือเช่นกัน เช่น ถ้าเรา ISTJ เราเหมาะกับหนังสือพัฒนาตัวเองและจิตวิทยาเบาๆ แนะนำหนังสือเล่มที่ชื่อว่า LEVEL UP

หรือถ้าเรา ISFJ เหมาะกับหนังสือแนวอบอุ่นหัวใจ ให้กำลังใจ เข้าใจชีวิตและความรู้สึก ก็แนะนำหนังสือที่ชื่อว่า กาลครั้งหนึ่ง…ถึงเธอ 

และยังมีอีกหลายแบรนด์ที่หยิบ MBTI มาทำการตลาดที่แตกต่างกันออกไป 

อย่างไรก็ตาม ในมุมของการทำการตลาด รูปแบบนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ลูกค้าสนุกกับการ “เลือกสินค้าที่ตรงกับบุคลิก” แต่ยังสร้าง engagement ให้แบรนด์ เพราะลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์เข้าใจเขามากกว่าแค่เป็นผู้ซื้อรายหนึ่งด้วย

การตลาดรูปแบบนี้แบรนด์ยังสามารถออกแบบ Product Experience ให้สอดคล้องกับบุคลิก เช่น เครื่องดื่มกาแฟสูตรพลังงานสำหรับ ENTJ ที่ต้องการความมั่นใจในการตัดสินใจ หรือแฟชั่นลุคที่เน้นความสบายและศิลปะสำหรับ ISFP ขณะที่ร้านหนังสือเองก็สามารถสร้างโซนพิเศษ 16 MBTI เพื่อให้ลูกค้าเลือกหนังสือที่ตรงใจได้ง่ายและสนุกยิ่งขึ้นได้อีกด้วย

มากไปกว่านั้น ในมิติของ Data & Customer Insight ที่ช่วยให้แบรนด์เข้าใจผู้บริโภคได้ลึกขึ้น ผ่านการทำแบบทดสอบสั้นๆ เพื่อแนะนำสินค้าเฉพาะบุคคล พร้อมเก็บข้อมูลจากพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าในแต่ละ MBTI เพื่อนำไปออกแบบการตลาดและสินค้าใหม่ในอนาคตได้อย่างตรงจุด

[ แล้วทำไม MBTI Marketing ถึงเวิร์ก? ]

อาจเพราะเข้าถึงง่าย เป็น pop culture ที่ผู้บริโภครุ่นใหม่อินอยู่แล้ว อีกทั้งยังช่วยสร้างการมีส่วนร่วมที่ลูกค้าอยากแชร์ต่อ ช่วยให้การเล่าเรื่องสินค้ามีความน่าสนใจ และเสริมภาพลักษณ์ให้แบรนด์ดูเข้าใจลูกค้าและทันเทรนด์มากขึ้น

ดังนั้น MBTI Marketing ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือสร้างคอนเทนต์สนุกๆ แต่แท้จริงแล้วคือ กลยุทธ์ Personalization ที่ช่วยให้แบรนด์สร้างความสัมพันธ์ที่ลึกและยั่งยืนกับผู้บริโภคได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นร้านหนังสือ อสังหาริมทรัพย์ คาเฟ่ หรือแฟชั่น ต่างก็สามารถหยิบ MBTI มาต่อยอดสู่การขายได้อย่างสร้างสรรค์ และในโลกที่ผู้บริโภคไม่ได้เลือกซื้อเพราะราคาเพียงอย่างเดียว แต่เลือกแบรนด์ที่สะท้อนตัวตนได้ด้วยนั่นเอง

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง
AyosiriWriterAyosiri
เป็นนักข่าวการเงิน สนใจเรื่องการลงทุนและการตลาด ประวัติศาสตร์ อยากสื่อสารให้เรื่องเป็นเงินสำหรับทุกคน

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง