แม็คยีนส์ (Mc Jeans) แบรนด์สินค้าแฟชั่นของคนไทยกว่า 50 ปี ที่หลายคนคิดว่าการเติบโตดูแผ่วลง แต่ความจริงแล้วรายได้สุทธิในไตรมาสแรก ปีบัญชี 2569 (กรกฎาคมถึงกันยายน 2568) บริษัทโกยไปกว่า 901 ล้านบาท
ขณะที่การช้อปออนไลน์ของสินค้า MC Group เติบโตถึง 100% มีรายได้รวมทั้งสิ้น 252 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 126 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า คิดเป็นสัดส่วนรายได้เกือบ 30% ของยอดขายทั้งหมด
[ ธุรกิจเชี่ยวชาญพอ และมีข้อได้เปรียบเรื่องไม่มีหนี้สิน ]
‘แมทธิว กิจโอธาน’ ซีอีโอ บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โดยเข้ารับตำแหน่งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เขามองว่า การใช้จ่ายและความต้องการอยากจะซื้อของผู้บริโภคค่อยๆ ฟื้นตัว
ขณะเดียวกัน ภาพรวมการเติบโตของเศรษฐกิจก็ส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้น ไม่ได้แน่สนิท จากการที่รัฐบาลมีมาตรการออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่งพลัส และเที่ยวดีมีคืน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันเศรษฐกิจและกำลังซื้อให้เพิ่มขึ้น ส่งดีต่อภาพรวมผลดำเนินงานของบริษัทในรอบปีบัญชี 2569 ให้เป็นไปตามเป้าหมาย
นอกจากความเชี่ยวชาญของบริษัทที่ทำธุรกิจมานาน 50 ปี MC Group ยังได้เปรียบในการแข่งขันในตลาด เพราะไม่มีหนี้สิน และมีเงินสดในมือ 2,000 ล้านบาท ปัจจัยเหล่านี้เพียงพอที่จะต่อยอดธุรกิจสร้างการเติบโตที่ก้าวกระโดดได้
“สัดส่วนรายได้ช่องทางร้านค้าปลีกของตนเอง (Free-standing Shop) ลดลงมาอยู่ 55% จากช่วงก่อนหน้าอยู่ที่ 66% โดยมีรายได้ 496 ล้านบาท ลดลง 58 ล้านบาทหรือ 10.5%”
“ส่วนห้างสรรพสินค้า มีสัดส่วน 16% ลงมาจาก 17% โดยมีรายได้ 142 ล้านบาท ลดลง 6 ล้านบาท หรือ 3.8% สำหรับช่องทางอื่นๆ คิดเป็นสัดส่วนรายได้เพียง 1%”
นอกจากนี้ แมทธิว ได้กล่าวว่า บริษัทมีกำไรสุทธิในไตรมาส 1 ปีบัญชี 2569 อยู่ที่ 123 ล้านบาท ลดลง 10 ล้านบาท หรือ 7.6% โดยมีอัตรากำไรสุทธิ 13.4% ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
เป็นเพราะรายได้อื่นที่เกิดขึ้นครั้งเดียว รวมถึงบันทึกบัญชีในปีก่อนไปแล้ว หากดูผลดำเนินงานปกติในงวดไตรมาสนี้ จะเห็นว่า บริษัทมีกำไรขั้นต้นเท่ากับ 581 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30 ล้านบาท หรือ 5.5% จากยอดขายที่สูงขึ้น
โดยอัตรากำไรขั้นต้นที่อยู่ที่ 64.4 % ถือว่ายังทรงตัวในระดับสูง ที่ผ่านมาบริษัทพยายามจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายให้ต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นยอดขายจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า ในช่วงรอยต่อของรัฐบาล
ปัจจุบัน (ณ วันที่ 30 กันยายน 2568) บริษัทมีสินทรัพย์รวม 5,729 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% เปรียบเทียบกับวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ขณะที่ส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 3,844 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 126 ล้านบาท เปรียบเทียบกับวันที่ 30 มิถุนายน 2568
สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับ MC Group ก็คือ ตอนนี้บริษัทได้ศึกษาพัฒนาแผนงาน โฟกัสที่การขยายช่องทางไปต่างประเทศ และการซื้อขาย ควบรวมกิจการ รวมถึงการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกัน นอกเหนือจากเป้าหมายการเพิ่มยอดขายทั้งร้านออฟไลน์-ออนไลน์ ซึ่งความพร้อม ความเชี่ยวชาญ และกระแสเงินสดที่มั่นคงของบริษัท จะทำให้การพัฒนาก้าวไปได้เร็วในอนาคต
