Meta หรือ Facebook เดิมเจอความท้าทายมาได้พักใหญ่แล้ว ทั้งประเด็นการถูกจับตามองทางฝั่งกฎหมาย และความท้าทายทางธุรกิจที่โซเชียลมีเดียอาจไม่ใช่อนาคตของ Facebook อีกต่อไป จนต้องรีแบรนด์ใหม่เป็น Meta มุ่งสู่โอกาสใหม่ เมตาเวิร์ส
หลังจากรีแบรนด์บริษัทแล้ว มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ก็มองว่าสมควรแก่เวลา ที่จะเปลี่ยนค่านิยมองค์กร หรือ Core Value ด้วย หลังจากค่านิยมเดิมเขียนขึ้นย้อนไปตั้งแต่ปี 2007 เป็นการเปลี่ยนแปลงในรอบ 15 ปี
สำหรับบริษัทต่างๆ การมี Core Value ก็เปรียบเสมือน หลักการที่สื่อถึงความคาดหวังให้คนในบริษัทนำไปยึดเหนี่ยว และยังสะท้อนถึงวัฒนธรรมองค์กรแต่ละแห่งด้วย

ค่านิยมใหม่ของ Meta มี 6 ข้อ คือ
- Meta, Metamates, Me เป็นการเล่นคำกับชื่อบริษัท สะท้อนถึงการเป็นทีมงาน Meta สร้างความรู้สึกการเป็นทีมเดียวกัน
- Move Fast คิดแล้ว ทำเลย ไม่ต้องรอเวลา สร้างสิ่งใหม่ก่อนใคร และต้องก้าวไปด้วยกัน ไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่ง
- Focus on Long-Term Impact มองผลลัพธ์ระยะยาว มากกว่าชัยชนะสั้นๆ แม้กระบวนการอาจใช้เวลายาวนานหลายปี
- Build Awesome Things สร้างสิ่งที่ยอดเยี่ยมไม่พอ ต้องสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้คนด้วย บริษัทได้สร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้คนหลายพันล้านคนแล้ว แต่ในก้าวต่อไป บริษัทจะเน้นไปที่การสร้างแรงบันดาลใจให้คนมากขึ้น
- Live in the Future สู่อนาคตใหม่ ที่ไม่ถูกจำกัดด้วยสถานที่ เนื่องจากอนาคตของงานคือการกระจายศูนย์ (distributed work) โอกาสไม่ได้ถูกจำกัดด้วยภูมิศาสตร์
- Be Direct and Respect Your Colleagues จริงใจ ตรงไปตรงมา และเคารพเพื่อนร่วมงาน สร้างวัฒนธรรมที่เราสามารถตรงไปตรงมาและพูดคุยกันอย่างจริงจังได้ แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน
ส่วน Core Value เดิมของ Facebook ที่เขียนขึ้นตั้งแต่ปี 2007 นั้นคือ Be Bold, Be Open, Move fast and break things
นอกเหนือจาก Core Value ที่เปลี่ยนแปลง Meta ยังแต่งตั้ง Nick Clegg ขึ้นมาคุมนโยบายทั่วโลก (จากเดิมเป็นรองประธานฝ่ายธุรกิจและการสื่อสารระดับโลก) ซึ่งต้องดีลกับรัฐบาลเป็นหลัก รวมถึงดูนโยบายของบริษัทในภาพรวม
Meta ยังเปลี่ยนชื่อ News Feed หรือหน้าฟีดบน Facebook เป็น Feed เฉยๆ เพราะเนื้อหาบนฟีดมีหลากหลายมาก ไม่ใช่แค่ข่าวสารอย่างเดียว
ที่มา : มาร์ก ซักเคอเบิร์ก, Fortune, The Verge










