ทำไมสมาร์ทโฮม (Smart Home) ยังไม่เป็นที่นิยมในประเทศไทย? หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก มากกว่าความสะดวกสบาย ราคาแพง บ้างก็ไม่กล้าเปลี่ยนมาใช้ มองว่าเป็นเทคโนโลยีไกลตัว ไม่เห็นคุณค่ามากพอ แต่รู้หรือไม่? ระบบสมาร์ทโฮมมีประโยชน์มากกว่าที่คิด และไม่ใช่เรื่องยากที่จะเปิดใจมาลองใช้ดู
จากประสบการณ์ใช้งานสมาร์ทโฮม-หลายคน ทำให้เอสซีจี (SCG) เข้าใจ Pain Point ที่เกิดขึ้น ล่าสุดได้จัดงานเปิดตัว ‘mind’ Smart Home Solutions สมาร์ทโฮมแบรนด์แรกของไทย ระบบที่เชื่อมอุปกรณ์ได้ทุกค่าย ส่งต่อบริการมืออาชีพรองรับไลฟ์สไตล์คนทุก Gen ง่าย-ปลอดภัย-รองรับทั้งก่อนและหลังการขาย 24 ชั่วโมง
Smart Home Solutions ของเอสซีจี ในแบรนด์ ‘mind’ มาด้วยคอนเซ็ปต์ ‘Don’t mind’ เจาะไลฟ์สไตล์คนทุกรุ่น เน้นความง่ายในการใช้งาน ความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้ หวังเพิ่มประสบการณ์การใช้ชีวิตที่บ้านให้ดียิ่งขึ้น และมีแพ็คเกจรองรับหลายแบบ ทั้งเซฟดี-อยู่ดี-ไยดี-ฟีลดี
ที่ผ่านมาได้เน้นการเข้าสู่ตลาดธุรกิจ (B2B) และตอนนี้จะเจาะตลาดบุคคล (B2C) มากขึ้น โดยได้จับมือกับผู้พัฒนาบ้าน บริษัทรับสร้างบ้าน และพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อสร้าง Ecosystem ของ IoT Smart Home และเตรียมเปิดตัวร้านค้าออนไลน์ในปลายปีนี้ เพื่อเป็นผู้นำตลาด IoT Smart Home Solutions ในภูมิภาคอาเซียนภายในปี 2025 และขยายสู่ตลาดต่างประเทศภายใน 4 ปี
นายอภิรัตน์ หวานชะเอม หัวหน้าฝ่ายดิจิทัล ของ SCG Digital Office กล่าวว่า ‘เอสซีจี มุ่งสร้างและพัฒนาโซลูชันในที่อยู่อาศัย ยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้นและมีความสุขตลอดเวลา การเปิดตัว Smart Home Solutions ในแบรนด์ ‘mind’ เพื่อช่วยให้การใช้ชีวิตในบ้านนั้นง่ายขึ้น
ความยุ่งยากในการใช้งานระบบสมาร์ทโฮมในอดีตนั้นเกิดจากการเน้นการขายอุปกรณ์ ทำให้ความยุ่งยากและการดูแลอุปกรณ์ที่ซับซ้อน แต่ ‘mind’ หวังจะเปลี่ยนแปลงมาตรฐานของ IoT Smart Home Solutions ในประเทศไทย โดยนำบริการมืออาชีพมาผสานรวมกับอุปกรณ์ Smart Home ที่ใช้เทคโนโลยี Lazy-Friendly อีกทั้งยังเป็นบริการแบรนด์แรกในไทยที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้โดยไม่จำกัดแบรนด์ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกและสบาย
นอกจากนี้ ‘mind’ ยังเป็นนวัตกรรม ‘Born in Thailand (BiT)’ ที่สร้างขึ้นโดยคนไทยเพื่อคนไทย มีเป้าหมายที่จะติดตั้งโซลูชัน ‘มายด์’ ในที่อยู่อาศัยมากกว่า 100,000 ยูนิต และเข้าสู่บทบาทผู้นำด้าน IoT Smart Home Solutions ในภูมิภาคอาเซียนในปี 2025 พร้อมขยายสู่ตลาดระดับโลกภายใน 4 ปี”
นางนันทพัชร์ ศรีสุวรรณ หัวหน้าฝ่ายขายและการตลาด ของ SCG Digital Office ยังเสริมว่า จากการศึกษาความต้องการของลูกค้า พบว่าคนไทยบางส่วนยังคงมองว่าระบบสมาร์ทโฮมซับซ้อน จึงทำให้ ‘mind’ พัฒนา Smart Home Solutions ที่ทุกคนสามารถใช้งานได้ง่ายและเหมาะสมกับทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยทีมงานมืออาชีพที่พร้อมเสมือน “Sommelier of Smart Home Solutions” ที่ให้คำปรึกษาและบริการครบวงจร
แบรนด์ ‘มายด์’ ยังประกอบไปด้วย mind Solutions ที่เป็นโซลูชันอัจฉริยะด้วยแอปพลิเคชัน Mobile App และ Home App ที่เชื่อมต่อและควบคุมอุปกรณ์ Smart Home ได้อย่างสมบูรณ์ รวมถึง mind Device ที่เป็นอุปกรณ์ IoT ออกแบบแพ็กเก็จเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตในแต่ละรูปแบบ”
นอกจากนี้ ‘mind’ ยังได้สร้างพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน มุ่งเน้นการเชื่อมโยงกับผู้พัฒนาอุปกรณ์อัจฉริยะ ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยี และผู้ประกอบการ SME ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการขยายขอบเขต Ecosystem สำหรับ IoT Smart Home ในประเทศไทย และวางแผนก้าวสู่ตลาดระดับโลกภายในระยะเวลาไม่เกิน 4 ปีข้างหน้า










