โมเดลบุฟเฟต์ของ MK ที่เริ่มครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2568 และทำต่อเนื่องมาเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จทั้งในแง่ยอดขาย ภาพลักษณ์ และกลุ่มลูกค้า ที่ MK พยายามทำมาตลอดก็คือ การเพิ่มสัดส่วนลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่มากขึ้น เพื่อลบภาพแบรนด์ของคนสูงอายุ
ภาพรวมธุรกิจของ MK ล่าสุดเผยว่า จำนวนผู้ใช้บริการสาขาที่เป็นบุฟเฟต์ ตลอดที่ทำโปรโมชั่น มีมากถึง 3.8 ล้านคน ขณะที่กลุ่มลูกค้าใหม่ที่เข้ามามีอายุลดลง อยู่ที่ 26-35 ปี เติบโตเพิ่มขึ้น 10% ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อภาพลักษณ์แบรนด์ซึ่งอยู่มานาน
[ ภาพรวม MK บุฟเฟต์ ราคา 299 ]
ปัจจุบันมีสาขาที่เป็นบุฟเฟต์ของ MK ที่ให้บริการราคา 299 บาท ทั้งหมด 312 สาขา โดยปัจจุบันมีลูกค้าที่ใช้บริการตลอดที่จัดโปรโมชั่น 3.8 ล้านคน กลับมาใช้บริการซ้ำสูงถึง 41% และมากสุดถึง 69 ครั้ง
นอกจากนี้ กระแสตอบรับจากโซเชียลมีเดียถือว่าเชิงบวก ทั้งจากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ที่ลองเปิดใจ โดยเฉพาะโปรฯ เวอร์ชั่น 2 ที่ MK มีการปรับเพิ่มเมนูใหม่ และเมนู Add on อย่างกุ้งสด MK
ส่งผลยอดขายจากสาขาที่เป็น MK บุฟเฟต์ ตั้งแต่ 1 กันยายน ถึง 22 ตุลาคม 2568 เพิ่มขึ้น 32% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ Transaction โตขึ้นอีก 14%
[ ภาพรวม MK Premium Buffet 3 ราคา ]
แม้จะเพิ่งเปิดตัวในเดือนกันยายน ในราคา 3 แบบให้ลูกค้าเลือก (499, 699 และ 899) โดยมีทั้งหมด 8 สาขา แต่ยอดขายรวมกลับเติบโตสูงถึง 46% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
จะเห็นว่า MK บุฟเฟต์พรีเมียม เป็นการแก้เกมจากเสียงเรียกร้องในโซเชียล ทั้งเป็ด, บะหมี่หยก, หมูแดง, หมูกรอบ, ชีส ฯลฯ ก็เป็นที่มาว่าทำไมถึงเกิดเป็นโปรโมชั่นแบบพรีเมียมขึ้น
ที่น่าสนใจคือ Ultimate Buffet 899 บาท ที่มีเป็ดย่าง MK แบบไม่อั้น ได้รับการตอบรับสูงมากถึง 5 เท่า ส่วนลูกค้าที่เลือกบริการบุฟเฟต์ราคานี้กลับเป็นกลุ่ม Gen Y มากที่สุด หรือคนอายุ 26-35 ปี เทียบกับเจเนเรชั่นอื่น
ถือว่าการล้างภาพแบรนด์ให้ดูเด็กขึ้น สดใหม่ขึ้นของ MK ประสบความสำเร็จอย่างมาก จากข้อมูลสรุปที่ MK เพิ่งเปิดเผยออกมา สำหรับโปรโมชั่นบุฟเฟต์ ก็น่าจะเป็นเสียงสะท้อนได้อย่างดีของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับ ‘Value for Money’ ในยุคที่อาหารการกินแพงขึ้น สวนทางรายได้ของคนไทยเช่นนี้










