การมีสุขภาพกายแข็งแรง สุขภาพใจแข็งแรง มีเวลางานที่ยืดหยุ่น แต่ละวันสามารถควบคุมเวลาเพื่อใช้จัดการกับชีวิตส่วนอื่นๆ นอกเหนือเวลางานได้
แน่นอนว่านั่นย่อมทำให้พนักงานคนหนึ่งๆ มีความเครียดน้อยลง สะท้อนกลับไปที่การทำงาน ที่จะทำให้พวกเขาสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลต่อเนื่องไปถึงผลประกอบการของบริษัทในที่สุดนั่นเอง
นั่นทำให้บริษัทหลายแห่งเริ่มนำแนวคิดการดูแลพนักงานให้มีความสุข มีความเป็นดีอยู่ดี หรือ Well being เข้ามาใช้ รวมถึง ‘มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย)’ บริษัทเจ้าของสินค้าขนมและลูกอมมากมาย ที่มีนโยบายการดูแลพนักงานที่ดีจนสามารถคว้ารางวัลมาได้มากมาย ได้แก่
-รางวัล Excellence in Workplace Wellbeing” ระดับ Gold จากเวทีสากล HR Excellence Awards 2023
-รางวัล “Excellence in Diversity, Equity and Inclusion” ระดับ Bronze จากเวทีสากล HR Excellence Awards 2023
-รางวัลสาขา “Best Women Leadership Program” จากเวที Employee Experience Awards 2023
แล้วถามว่า ‘มอนเดลีซ’ มีวัฒนธรรมองค์กรอย่างไร ทำอะไรไปบ้างเพื่อให้พนักงานมีความเป็นอยู่ที่ดี TODAY Bizview ชวนอ่านในบทความนี้จากการพูดคุยกับ ‘วศินี ฉัตรมานพ’ ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล และ ‘ณัฐณี เกษมรัฐกุล’ หัวหน้าฝ่ายองค์กรสัมพันธ์และรัฐกิจสัมพันธ์
[ แนวคิด The Right You ให้พนักงานเป็นตัวเองอย่างถูกวิธี ]
‘วศินี’ เกริ่นให้เห็นภาพว่า มอนเดลีซมีหลักการดำเนินงาน 4 ด้าน ได้แก่ สร้างการเติบโต (Growth) เน้นการดำเนินงาน (Execution) การสร้างวัฒนธรรมองค์กร (Culture) และพัฒนาความยั่งยืน (Sustainability)
แนวคิดหลักๆ ในการบริหารดูแลพนักงาน ตั้งอยู่บนหลัก 2 ข้อด้วยกัน คือ 1.ให้พนักงานเป็นศูนย์กลางและมีส่วนร่วม และ 2.ตอบโจทย์กับยุคดิจิทัล นั่นทำให้กิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้น จะมุ่งเน้นตอบโจทย์สองข้อดังกล่าวเป็นหลัก
และอย่างที่บอกว่าเน้นให้พนักงานเป็นศูนย์กลางและมีส่วนร่วม ซึ่งเห็นผลออกมาเป็นการจัดตั้ง Smile Club โดยเป็นทีมพิเศษที่ได้ตัวแทนจากทุกแผนกในองค์กร มาร่วมจัดกิจกรรมเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน โดยที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล หรือ HR ไม่ได้เข้าไปนั่งจัดระเบียบให้มีกิจกรรมเกิดขึ้น ทำให้มั่นใจได้ว่ากิจกรรมเหล่านี้เป็นกิจกรรมที่พนักงานต้องการจริงๆ พร้อมตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายด้วย

กิจกรรมต่างๆ ที่ Smile Club จัดขึ้น จะให้ความสำคัญกับ 3 ประเด็นหลัก คือ ร่างกาย (Body) จิตใจ (Mind) และความสัมพันธ์ (Connection) ซึ่งเรียกโดยรวมว่า The Right You ซึ่งที่ใช้คำว่า Right ก็มาจากเป้าประสงค์ของบริษัทที่ว่า Empower People to Snack Right หรืออยากให้ผู้คนกินขนมอย่างถูกวิธี เพื่อความเป็นอยู่ที่ดี
โดยตัวอย่างกิจกรรมที่เกิดขึ้นใน 3 ประเด็นดังกล่าว เช่น
-The Right Body – ส่งเสริมเรื่องสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง สนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับอุปกรณ์กีฬา หรือค่าสมาชิกยิม/ฟิตเนส, ค่าใช้จ่ายอุปกรณ์ที่เหมาะกับร่างกาย เช่น เก้าอี้ Ergonomics, มีการจัดคลาสโยคะ นวดผ่อนคลาย เป็นต้น
-The Right Mind – สนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีด้านจิตใจและส่งเสริม Work-life harmony ผ่านการจัดกิจกรรม Mental Health Talk มีผู้เชี่ยวชาญให้ความรู้เรื่องเคล็ดลับการดูแลสุขภาพจิต, วิธีการป้องกัน Office Syndrome อีกทั้งยังมีบริการสายด่วนในการพูดคุยหรือปรึกษาปัญหากับผู้เชี่ยวชาญ ที่ครอบคลุมไปถึงครอบครัวของพนักงานด้วย
-The Right Connection – มุ่งสร้างความสัมพันธ์ของพนักงานกับผู้คนรอบข้าง ผ่านกิจกรรมที่สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัท เช่น กิจกรรมพนักงานจิตอาสาร่วมปลูกต้นไม้ 300 ต้นในบริเวณสวน 15 นาที ณ ชุมชนตลาดแสงจันทร์ และสนับสนุนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการจัดการขยะอย่างถูกวิธีแก่เยาวชนในโครงการ “โรงเรียนรักษ์โลก แยกขยะลุ้นโชคกับมอนเดลีซ” (Trash Right) ร่วมกับ กทม. กิจกรรม ‘ปันกัน’ บริจาคของที่ไม่ได้ใช้แล้วเพื่อประโยชน์ต่อผู้ด้อยโอกาส เป็นต้น

การสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้พนักงานนำไปใช้เพื่อเป็นความเป็นดีอยู่ดีนี้เรียกว่า Flexible benefit Program มอบให้ปีละ 3,500 บาท/คน ซึ่งต้องเป็นการใช้จ่ายภายใต้กรอบ The Right You ซึ่งสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้พนักงานนำไปใช้จ่ายซื้อของตามความชอบหรือความสนใจส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง ตั๋วเครื่องบิน คอร์สออกกำลังกาย คลาสเรียนเต้น หรือประกันสำหรับลูกน้อย เป็นต้น
[ เวลางานยืดหยุ่น สนับสนุนสมดุลชีวิต ]
นอกจากนี้ มอนเดลีซยังมอบความยืดหยุ่นในการทำงานแก่พนักงานมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความหลายหลายของคนในองค์กร และยังเป็นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ช่วยรักษาสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว ซึ่งช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมและความพึงพอใจของพนักงาน ได้แก่
-เลือกทำงานที่บ้านได้ถึง 2 วันต่อสัปดาห์
-สนับสนุนให้นัดประชุมในช่วงเวลางานตามเวลาท้องถิ่น ระหว่าง 09.00 – 18.00 น. เท่านั้น
-ไม่จำเป็นต้องตอบอีเมลในวันเดียวกัน หากได้รับอีเมลหลังเวลาเลิกงาน ตั้งแต่ 18.00 น. เป็นต้นไป
-พนักงานจะได้รับเวลาชดเชยหากมีการขอความช่วยเหลือที่จำเป็นในช่วงนอกเวลางานหรือต้องเข้าร่วมประชุมกับทีมงานประเทศอื่น ๆ ที่มีความแตกต่างเรื่อง time zone
อีกวัฒนธรรมที่มอนเดลีซภูมิใจคือ วัฒนธรรมการชื่นชมและขอบคุณกันในองค์กร โดยมีโปรแกรมหลากหลาย เช่น The Bravos ซึ่งเป็น eCard ในแพลตฟอร์มของบริษัทที่พนักงานของแต่ละท่านสามารถเขียนชื่นชม ขอบคุณเพื่อนร่วมงาน และ eCard นี้จะแสดงให้ทั้งหัวหน้างานและเพื่อนๆ ได้รับทราบไปพร้อมกัน
โดยในระยะเวลาครึ่งปีที่ผ่านมา มีการส่ง eCard ผ่านโปรแกรม The Bravos ไปแล้วกว่า 100,000 ฉบับทั่วโลก
[ สนับสนุนความหลากหลายและความเท่าเทียม ]
มอนเดลีซยังเชื่ออีกว่า การสร้างวัฒนธรรมที่ดีในองค์กร คือการให้พนักงานรู้สึกเป็นที่ยอมรับ มีส่วนร่วม โดยมุ่งมั่นในการสนับสนุนความหลากหลายและการอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียมให้ครอบคลุมทุกระดับ ตั้งแต่ระดับพนักงานหรือบุคคล ไปจนถึงระดับองค์กร และชุมชน
ยกตัวอย่างคือ ระดับพนักงาน การคัดเลือกพนักงาน จะมีการอบรม License to Hire หรือเวิร์คช็อปสำหรับพนักงานระดับผู้จัดการขึ้นไป เพื่อให้มั่นใจว่าการสัมภาษณ์คัดเลือกบุคลากรจะเป็นไปอย่างไม่ใช้อคติหรือความลำเอียง พร้อมมีการดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่าผู้สัมภาษณ์และผู้สมัครงานมีความหลากหลายทางเพศและภูมิหลัง
สำหรับพนักงานที่อยู่ในองค์กร มีการทำให้แน่ใจว่าพวกเขาได้รับการสนับสนุนเรื่องการทำงาน และความก้าวหน้าอย่างเท่าเทียม
โดยพนักงานทุกคนจะได้รับการสื่อสารเรื่อง Career Launch Pad ซึ่งเป็นความรู้แบบองค์รวมว่า พนักงานจะต้องปฏิบัติงานอย่างไร และเพิ่มพูนทักษะส่วนใดบ้าง เพื่อความก้าวหน้าในงานหรือตำแหน่งที่สูงขึ้น
นอกจากนี้ ในระดับหัวหน้างาน ยังต้องมี Strategic Talent Review หรือการพูดคุยเกี่ยวกับการพัฒนาศักยภาพและความสำเร็จแก่พนักงานทุกคนในทีมของตัวเอง เพื่อให้แน่ใจว่าพนักงานได้รับการประเมินประสิทธิภาพการทำงานจากศักยภาพและผลงานที่ประสบความสำเร็จเท่านั้น โดยไม่เกี่ยวกับเพศหรือพื้นเพภูมิหลังที่ไม่มีความเกี่ยวข้อง
ในระดับองค์กร มอนเดลีซยังมีประเภทของวันลาที่สนับสนุนความหลากหลาย Paternity & Adoption Leave ที่รวมถึง same-sex partner ที่เป็น primary caregiver, Maternity Leave และ Birthday Leave
นอกจากนี้ยังมี DE&I Committee เป็นกลุ่มผู้นำระดับภูมิภาคที่มุ่งส่งเสริมการดำเนินงานด้านการส่งเสริมความหลากหลายและความเท่าเทียมภายในองค์กร ทางกลุ่มได้จัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อโปรโมทและเสริมสร้างความเข้าใจในเรื่องของความเท่าเทียม มีการเก็บข้อมูลและมุ่งให้องค์กรมีความหลากหลายทางเพศ รวมไปถึงสนับสนุนสื่อโฆษณาที่มีภาพประกอบของ same-sex partners เป็นต้น
ในมอนเดลีซยังมี Women’s Mentoring Circle หรือการจัดกิจกรรมให้ผู้นำหญิงที่ประสบความสำเร็จในตำแหน่งสูงขององค์กร มาพูดคุยกับพนักงานผู้หญิง เพื่อสร้างเครือข่ายในการพูดคุยให้คำปรึกษาที่พนักงานผู้หญิงสามารถสอบถามและได้รับคำแนะนำอย่างใกล้ชิดเรื่องการเติบโตก้าวหน้าในการทำงาน
สำหรับในระดับชุมชน มอนเดลีซมีแคมเปญ OREO Ally ที่มุ่งสร้างการตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการสนับสนุนจากชาวพันธมิตร LGBTQIA+ เพื่อส่งเสริมการยอมรับความหลากหลายและการอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียม พร้อมแพ็กเกจดีไซน์สุดพิเศษสวมสลีฟที่ตกแต่งด้วยธงสัญลักษณ์ Oreo Ally Flag ของชาว LGBTQIA+ เพื่อร่วมฉลองเทศกาล Pride Month

[ สื่อสารภายในองค์กร รากฐานที่สำคัญ ]
นอกจากสื่อสารกับภายนอกแล้ว ในเชิงการสื่อสารภายในองค์กร มอนเดลีซมีเป้าหมายหลักคือ การสื่อสารให้พนักงานทุกคนเข้าใจเจตจำนงหรือเป้าประสงค์ (Purpose) ขององค์กรที่ว่า Empower People to Snack Right ซึ่งจะเชื่อมโยงไปสู่กลยุทธ์ วัฒนธรรม ค่านิยม และบทบาทหน้าที่ของพนักงาน ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้แข็งแกร่ง (Enable Purpose-led Growth Culture)
โดยกลยุทธ์การสื่อสารภายในองค์กร ได้แก่ การมุ่งเน้นการสื่อสารโดยผู้นำในระดับต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิผล (Leadership Communications) เช่น สารจากผู้นำ เพื่อสื่อสารตรงถึงพนักงานทุกระดับ
นอกจากนี้ยังมี Coffee Chat ให้พนักงานในหลากหลายแผนกได้ผลัดเปลี่ยนกันมีเข้ามาพูดคุยกับพนักงานในระดับหัวหน้า หรือระดับบริหารได้อย่างเป็นกันเอง เพื่อให้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ หรือนำเสนอความคิด ไอเดีย มุมมองใหม่ ๆ ระหว่างกันได้อย่างอิสระ ในบรรยากาศที่เป็นมิตรและลดความกังวลต่อความแตกต่างด้านอายุ
ในแง่การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของพนักงาน (Engagement) ทั้งรูปแบบ Face-to-face และ virtual ที่มอนเดลีซจะมี Town hall ที่ทำให้การประชุมพนักงานได้อัพเดทข่าวสาร และสนุกสนานไปพร้อมๆ กัน, มีการจัดแคมเปญต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ เช่น International Women’s Day, Pride Month, Purpose Day ทั้งยังมีกิจกรรมพนักงานจิตอาสา ปลูกต้นไม้ เก็บขยะ ฯลฯ
จากทุกสิ่งที่ทำ ส่งเป็นผลให้มอนเดลีซบรรลุเป้าหมายด้าน Quality & Dept of Talent, Women in Leadership และ Employee Engagement โดยคะแนนจากผลสำรวจความพึงพอใจและการมีส่วนร่วมของพนักงานเพิ่มขึ้นจาก 79% ในปี พ.ศ. 2564 เป็น 83% ในปี พ.ศ. 2565
และยังส่งผลให้ได้รับรางวัลอีกมากมายดังที่ล่าวไปข้างต้น

สำหรับกลยุทธ์การบริหารคนในช่วงครึ่งปีหลัง 2023 และอีก 2-3 ปีข้างหน้า มอนเดลีซบอกว่าจะยังคงให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัย สุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน รวมถึงโอกาสในการเติบโตในหน้าที่การงาน สวัสดิการ และความสุขในการทำงานของพนักงานอย่างต่อเนื่อง ดังนี้
-Deep & Diverse Talent with growth mindset: สร้างทีมงานที่มีทักษะที่เชี่ยวชาญและหลากหลาย และมีทัศนคติที่ต้องการการพัฒนาและเติบโต โดยเราจะสนับสนุนการสร้างบุคลากรเหล่านี้ รวมไปถึงการสร้างวัฒนธรรมที่ทุกคนรู้สึกเป็นฟันเฟืองหลักที่ขับเคลื่อนองค์กร
-Future forward growth capabilities: สนับสนุนและสรรหาการอบรม องค์ความรู้และสร้างทักษะใหม่ ๆ ที่จะรองรับการทำงาน ระบบต่าง ๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงเป็นดิจิทัลและก้าวไปสู่อนาคต

-Innovation & engaged workplace: สรรหาเครื่องมือการทำงานที่ช่วยให้มีประสิทธิภาพการทำงานดียิ่งขึ้น รวมถึงสร้างองค์กรที่ให้อิสระในการทำงาน ตัดสินใจและมีส่วนร่วมที่จะสร้างองค์กรให้บรรลุเป้าหมาย เช่น การนำเทคโนโลยี VR มาใช้ในการแนะนำบริษัทแก่พนักงานใหม่ หรือที่เรียกว่า VR Onboarding เพื่อมอบประสบการณ์ทัวร์ออฟฟิศที่ใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง (Virtual Reality) โดยเราจะเริ่มให้พนักงานใหม่ทดลองใช้ในปี 2566 นี้










