สิ่งที่ทำให้ มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. (MR.DIY) ธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์เติบโตคือ ราคาขายที่คุ้มค่ากับความรู้สึกของผู้บริโภคในยุคที่ค่าครองชีพพุ่งไม่หยุด
จุดที่เด็ดทีขาดของธุรกิจนี้ คือ การบริหารต้นทุนและธุรกิจที่ทำให้ มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. สามารถเสนอราคาสินค้าที่ต่ำกว่าคู่แข่งเฉลี่ยได้ถึง 24.7%
โดยอาศัยการทำธุรกิจแบบมหึมา หรือ Economies of Scale ที่สั่งซื้อสินค้าในปริมาณมากโดยตรงจากผู้ผลิต ช่วยให้ได้ต้นทุนที่ต่ำลง รวมถึงการบริหารจัดการระบบโลจิสติกส์ภายในองค์กร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายสินค้า
[ สาขาทั่วโลก 4,500 แห่ง ในไทยจะมีเกิน 1,000 สาขาปีนี้ ]
ปัจจุบัน มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. มีสาขาทั่วโลกกว่า 4,500 แห่ง ส่วนประเทศไทยมี 932 สาขา และล่าสุดได้ประกาศแผนลงทุนอีก 2,000 ล้านบาท เพื่อขยายอีก 200 สาขา ทั่วประเทศไทยภายในปีนี้
“ในประเทศไทย มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย.กำลังเดินหน้าขยายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ภายในสิ้นเดือนนี้ คาดว่าจะเปิดครบ 77 จังหวัด โดยกว่า 90% ของสาขาใหม่จะเป็นรูปแบบ สแตนอโลน เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคในทุกภูมิภาค” แอนดี้ ชิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เล่าให้ TODAYBizview ฟัง

‘แอนดี้ ชิน’ บอกว่าคอนเซ็ปต์ที่เรายึดถือคือจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อนำเสนอราคาสินค้าที่ถูกลง และช่วยให้ผู้บริโภคสามารถใช้จ่ายได้อย่างคุ้มค่าที่สุด
[ ยอดขายหลักจากเฮ้าส์แบรนด์ สนับสนุนใช้แบรนด์ในไทย 31% ]
ความมหึมาของการหลักการทำธุรกิจแบบ Economies of Scale ทำให้ตอนนี้ มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. มีสินค้าวางจำหน่ายกว่า 16,000 รายการ ใน 6 กลุ่มหลัก คือ
-
-
-
- สินค้าในบ้าน (กลุ่มสินค้าขายดีอันดับหนึ่ง)
- ฮาร์ดแวร์และเครื่องมือช่าง
- เครื่องใช้ไฟฟ้า
- อุปกรณ์กีฬา
- ของเล่น
- สินค้าไลฟ์สไตล์อื่นๆ เช่น น้ำยาล้างรถ และของใช้เบ็ดเตล็ด
-
-
‘แอนดี้ ชิน’ เล่าว่า 45% ของยอดขายมาจากเฮาส์แบรนด์ ซึ่งมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนการนำเข้าสินค้าอยู่ที่ราว 69% และสนับสนุน 31% จากแบรนด์ในประเทศ
ปีนี้ มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. วางแผนปล่อยแคมเปญมากกว่า 50 รายการ ตลอดทั้งปี โดยครอบคลุมช่วงเวลาสำคัญ เช่น ช่วงเปิดเทอม เทศกาลสำคัญ เช่น คริสต์มาส และปีใหม่ ซึ่งยอดขายช่วงคริสต์มาสในไทยนั้นสูงเป็นอันดับสองในเอเชีย รองจากฟิลิปปินส์) และสุดท้ายจัดโปรโมชั่นชิงรางวัล
[ เตรียมจ้างงานเพิ่ม 10,000 คน ]
สำหรับการเปิดสาขาใหม่ 200 แห่งในปีนี้ จะช่วยสร้างตำแหน่งงานให้กับคนไทยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจุบันบริษัทฯ มีพนักงานกว่า 10,000 คน และคาดว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นตามแผนการเติบโตของธุรกิจ
ส่วนแผนการนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ (IPO) นั้น แม้จะอยู่ในระหว่างการพิจารณา แต่บริษัทฯ ยืนยันว่า การขยายสาขายังสามารถดำเนินไปได้โดยไม่ต้องพึ่งพาการระดมทุนจาก IPO










