ชลประทานที่ 17 เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 5 เครื่อง เพื่อระบายน้ำสู่คลองยะกัง นราฯ ขณะที่ผู้ว่าฯ จ.นราธิวาส เตรียมประกาศโก-ลกเป็นเขตภัยพิบัติ เตรียมโรงเรียน 2 แห่งจัดตั้งเป็นศูนย์อพยพชั่วคราว
วันนี้ (1 ธ.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำที่เริ่มไหลท่วมขังเข้าสู่พื้นที่ จ.นราธิวาส โดยชุมชนในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จำนวน 5 ชุมชน ได้รับผลกระทบเป็นพื้นที่แรกตั้งแต่มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดผ่านในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา โดยทางนายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการ จ.นราธิวาส ได้สั่งการไปยังนายไพศาล ขุนศรี ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นราธิวาส ให้ระดมกำลังลงพื้นที่ เพื่อติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและพื้นที่สุ่มเสี่ยง ล่าสุดนายไพศาล ปภ.จ.นราธิวาสได้เดินทางไปตรวจสอบบริเวณคลองระบายน้ำส่วนราชการที่ บ.ยะกัง ต.บางนาค อ.เมืองนราธิวาส ซึ่งขณะนี้ทางสำนักงานชลประทานที่ 17 ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 5 เครื่อง เพื่อเร่งสูบน้ำที่ท่วมขังในที่ราบต่ำและระบายไม่ทันในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาสให้ไหลลงสู่คลองยะกังเป็นการเร่งด่วน คาดว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่ง
โดยสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำโก-ลก ที่สถานีบูเก๊ะตา อ.แว้ง อยู่ในช่วงเฝ้าระวัง ที่สถานีมูโนะ ต.มูโนะ ยังคงปกติ ส่วนที่สะพานลันตู โก-ลก น้ำล้นตลิ่ง เข้าสู่สภาวะวิกฤต
ขณะที่ นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการ จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า ขณะนี้พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมงคือ ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ทั้งหมด 7 ชุมชน โดยให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปคอยดูแลประชาชนอย่างต่อเนื่อง และหากมีความจำเป็นที่จะต้องอพยพ ทางจังหวัดได้เตรียมโรงเรียนเทศบาล 1 และโรงเรียนเทศบาล 4 ที่จัดตั้งเป็นศูนย์อพยพชั่วคราวไว้ 2 แห่ง นอกจากนี้ในส่วนของโซนชุมชนบ้านบาเฆะ ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส ที่ตั้งอยู่ริมชายหาดและเคยได้รับผลกระทบอย่างหนักมาแล้วเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งได้สั่งการไปยังนายยะห์ยา ปะนาฆอ นายอำเภอเมืองนราธิวาส ให้จัดการนำรถแบ็กโฮไปแสตนบายไว้ หากมีเหตุฉุกเฉินคลื่นซัด จะได้ทำการขุดลอกร่องน้ำเพื่อระบายน้ำออกสู่ทะเล ขณะนี้ทางจังหวัดอยู่ระหว่างการตรวจสอบและติดตามสถานการณ์น้ำ ซึ่งเข้ามาเป็นระลอกแรก
