ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ‘เนสท์เล่’ ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ที่สุดของโลก ที่ส่งออกไปกว่า 185 ประเทศทั่วโลก มีปัญหาใหญ่กับตระกูล ‘มหากิจศิริ’ ซึ่งเป็นเรื่องของการ ‘ยุติสัญญา’ ที่ให้ไว้กับบริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส จำกัด (QCP) สำหรับการผลิต ‘เนสกาแฟ’ ในปี 2564 ซึ่งเป็นแบรนด์ในตำนานถึง 96 ปี และคุ้นเคยกับคนไทยมานาน
เรื่องราวใหญ่โตจนส่งผลให้ศาลแพ่งมีนบุรี ได้ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ‘ห้าม’ ไม่ให้เนสท์เล่ ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์เนสกาแฟแต่เพียงผู้เดียว ดำเนินการผลิต ว่าจ้างผลิต จำหน่าย และนำเข้าผลิตภัณฑ์กาแฟสำเร็จรูป เนสกาแฟ ในประเทศไทย
ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อเนสท์เล่ หลังจากที่ต้องหยุดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนสกาแฟไปนับตั้งแต่วันที่ศาลประกาศ เป็นเวลาทั้งหมด 8 วัน
ล่าสุด วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ได้มีนัดไกล่เกลี่ย ระหว่างคู่กรณี จากการที่บริษัทในเครือ เนสท์เล่ เอส. เอ. ที่สวิตเซอร์แลนด์ ในฐานะเจ้าของเครื่องหมายการค้า เนสกาแฟ และ ‘เนสท์เล่ ไทย’ ในฐานะผู้ได้รับสิทธิใช้เครื่องหมายการค้าเนสกาแฟในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว ได้ยื่นฟ้อง ‘ประยุทธ มหากิจศิริ’ และ ‘เฉลิมชัย มหากิจศิริ’ จากการกระทำที่กระทบสิทธิในเครื่องหมายทางการค้าเนสกาแฟ
โดยทางเนสท์เล่ ได้เรียกร้องค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 577 ล้านบาท ซึ่งคำนวณจากค่าเสียหายที่เนสท์เล่ต้องหยุดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ก่อนหน้านี้
ถึงแม้ว่า คู่กรณีทั้งสองได้มาที่ศาลเพื่อร่วมขั้นตอนไกล่เกลี่ย แต่ ‘เฉลิมชัย’ และตัวแทนของเนสท์เล่ ยังไม่สามารถตกลงกันได้ ศาลฯ จึงนัดหมายกำหนดประเด็นข้อพิพาทต่อไปในวันที่ 9 มิถุนายนนี้
ตลอดระยะเวลา 34 ปี (ปี2533 ถึง 2567) ผลิตภัณฑ์เนสกาแฟในประเทศไทย ผลิตโดยบริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักส์ จำกัด (QCP) มาโดยตลอด ซึ่งเป็นการร่วมลงระหว่างทั้งสอง 50/50
ต้องพูดว่า ‘ตะกูลมหากิจศิริ’ ไม่ใช่เจ้าของเนสกาแฟ แต่เป็นเพียงผู้ถือหุ้นในโรงงาน QCP ส่วนแบรนด์เนสกาแฟและเทคโนโลยีการผลิตที่เกี่ยวข้องมาจาก ‘เนสท์เล่’ ซึ่งเป็นผู้บริหารงานบริษัท QCP ทั้งหมดด้วยตนเองมาโดยตลอด
ดังนั้น นัดที่จะเจอกันอีกที 9 มิภุนายนนี้ ก็มีโอกาสที่ทาง QCP อาจจะต้องชดใช้ค่าเสียหายตามจำนวนที่เรียกร้อง หรือเป็นไปได้ที่จะมีการต่อรองลดหลั่นค่าเสียหายลงจากเดิม 577 ล้านบาท ที่แน่ๆ คือ พาร์ทเนอร์ธุรกิจที่ลงทุนร่วมกันทำธุรกิจมานานกว่า 30 ปี ถือเป็นเรื่องน่าเสียดายที่วันหนึ่งจะต้องแยกทางกัน เพราะเหตุความไม่เข้าใจบางอย่างที่ตกลงกันไม่ได้










