Netflix สูญเสียฐานผู้ใช้งานครั้งแรกในรอบ 10 ปี เตรียมจัดการสายแชร์พาสเวิร์ดนอกบ้าน

Netflix สูญเสียฐานผู้ใช้งานครั้งแรกในรอบ 10 ปี เตรียมจัดการสายแชร์พาสเวิร์ดนอกบ้าน

Netflix รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกประจำปี 2022 นี้ พบว่า Netflix สูญเสียฐานผู้ใช้งาน และเป็นการสูญเสียครั้งแรกในรอบ 10 ปี คือเสียไปราวๆ 2 แสนบัญชี 

แม้ที่ผ่านมา Netflix จะอัดคอนเทนต์มาให้เราดูต่อเนื่อง ซีรีส์หลายเรื่องก็เป็นประเด็น talk of the town แต่ก็ไม่ช่วยให้ Netflix พุ่งทะยานไปได้มากกว่าที่คาดหวังไว้ 

ซึ่งสะท้อนให้เห็นความอิ่มตัวของตลาดสตรีมมิ่ง ที่นอกจากจะมีคู่แข่งมากมายแล้ว ผู้ใช้งานก็เริ่มจำกัดทางเลือกในการจ่ายเพื่อดูสตรีมมิ่งของตัวเอง 

[ อวสานสายแชร์พาสเวิร์ด ]

รายได้ไตรมาส 1 อยู่ที่ 7.87 พันล้านดอลลาร์ กำไรสุทธิราว 1,600 ล้านดอลลาร์ มีผู้ใช้งานที่เสียเงินรวม 221.6 ล้านบัญชี ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่มี  221.8 ล้านบัญชี 

ซึ่งในกลุ่มนี้ได้แชร์บัญชีไปยังคนดูอีก 100 ล้านบัญชีที่ควรจะเสียค่าดูให้ Netflix โดย 30 ล้านบัญชีอยู่ในแคนาดาและสหรัฐฯ ดังนั้นนี่จึงเป็นโอกาสรายได้อีกมหาศาลที่ Netflix ควรจะได้ 

ที่ผ่านมา Netflix รู้อยู่แล้วว่ามีการแชร์บัญชีแบบผิดๆ แชร์เถื่อน แชร์ไปให้ครัวเรือนอื่นที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน 

แต่ที่ผ่านมา Netflix ยังเติบโตได้ โดยไม่จำเป็นต้องเข้มงวดกับกลุ่มที่แชร์บัญชีแบบผิดๆ Netflix จึงปล่อยไป เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ 

แต่หลังจากนี้ จะไม่เหมือนเดิมแล้ว เพราะ Netflix สูญเสียผู้ใช้งานแบบเสียเงินเป็นครั้งแรก ดังนั้น Netflix ก็จะพยายามเข้มงวดกับการแชร์บัญชีนอกบ้านมากขึ้น 

สอดคล้องกับข่าวก่อนหน้านี้ที่ Netflix กำลังทดสอบระบบเก็บเงินลูกค้าเพิ่มถ้ามีการแชร์พาสเวิร์ดนอกบ้านในชิลี คอสตาริกา และเปรู

ในจดหมายผู้ถือหุ้น Netflix ยอมรับเองเลยว่า ยอมให้มีการแชร์รหัสผ่านนอกบ้าน เพราะส่วนหนึ่งมันช่วยให้เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานได้ดี 

แต่ด้วยการแข่งขันจาก Disney, Warner Bros. Discovery, Paramount Global, NBCUniversal, Apple TV+ และสตรีมเมอร์รายอื่นๆ ที่กำลังเติบโต Netflix จึงอยากทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎที่ว่า การแชร์พาสเวิร์ดต้องเป็นครัวเรือนเดียวกัน 

[ อาจเพิ่มแพ็กเกจดูแบบมีโฆษณา หารายได้จากแบรนด์ ]

เมื่อต้องการหารายได้เพิ่ม ทางบริษัทจึงเริ่มมองหาช่องทางใหม่ๆ อย่างเช่นทำแพ็กเกจดูแบบมีโฆษณาในราคาถูกกว่า และยังหารายได้จากแบรนด์เพิ่มได้ด้วย 

Reed Hastings ซีอีโอบอกว่า ตอนนี้กำลังเปิดกว้างกับแนวทางดูแบบมีโฆษณา แม้ที่ผ่านมาเขาจะมีจุดยืนต่อต้านแนวทางนี้มาตลอด 

เพราะการจ่ายเงินเพื่อดูอะไรสักอย่างบนสตรีมมิ่ง มันไม่ควรมีโฆษณา แต่ก็เชื่อว่าแนวทางใหม่ๆ จะเป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคที่อยากจ่ายถูกกว่าได้ 

ซึ่งเป็นแนวทางที่เจ้าอื่นก็ทำเหมือนกัน เช่น Hulu, Peacock และแม้แต่ HBO Max ก็เสนอแผนที่ให้ผู้บริโภคจ่ายน้อยลง เพื่อแลกกับการที่การถูกโฆษณาขัดจังหวะในบางครั้ง 

ดิสนีย์ยังประกาศด้วยว่าจะเพิ่มตัวเลือกที่รองรับโฆษณาให้กับ Disney+ ภายในสิ้นปีนี้  

—————————–

ก่อนหน้านี้ Netflix พยายามใช้ท่าทีหลากหลายในการเพิ่มรายได้ ตั้งแต่ขึ้นราคาในบางพื้นที่, ให้ดูฟรีบางคอนเทนต์ในบางประเทศ, เสนอแพ็กเกจราคาถูกบนมือถือ แต่ก็ยังสู้ความอิ่มตัวของตลาดสตรีมมิ่งได้ยาก 

ต้องคอยติดตามว่า มาตรการจัดการกับคนแชร์พาสเวิร์ดนอกครัวเรือน จะช่วยเพิ่มรายได้ หรือทำให้ผู้ใช้งานหดหายมากกว่าเดิม 

ที่มา : The Guardian, CNBC, Workpoint TODAY, The Verge

แท็กที่เกี่ยวข้อง
KanokjunWriterKanokjun
ผู้สื่อข่าวเทคโนโลยี สนใจเรื่องราวบนโลกไอทีที่มาพร้อมโอกาส ความสร้างสรรค์ และปัญหาด้านมืดของเทคโนโลยี

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง