Netflix ขึ้นราคาอีกครั้ง โดยการขึ้นราคาระลอกใหม่นี้เริ่มต้นที่ภูมิภาคอเมริกาเหนือ ครอบคลุมสหรัฐฯและแคนาดา โดยมีผลบังคับใช้ทันทีสำหรับสมาชิกใหม่ และจะทยอยบังคับใช้สำหรับผู้ใช้งานเดิมภายใน 30 วัน
ราคาแต่ละแพ็กเกจปรับขึ้น ดังนี้
- basic plan (ดูได้ครั้งละหนึ่งหน้าจอเท่านั้น ไม่มี HD) เพิ่มขึ้นเป็น 9.99 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือน จาก เดิม 8.99 เหรียญ
- standard plan (ดูได้ 2 หน้าจอ คุณภาพ HD) เพิ่มขึ้นเป็น 15.49 เหรียญต่อเดือน จาก 13.99 เหรียญ
- แพ็กเกจ 4K (ดูได้ 4 หน้าจอพร้อมคุณภาพ Ultra HD) เพิ่มราคาเป็น $19.99 เหรียญต่อเดือน จาก 17.99 เหรียญ
นี่ไม่ใช่การขึ้นราคาครั้งแรกของ Netflix แต่มีการขึ้นราคาไปแล้วเมื่อปี 2020 ซึ่งการขึ้นราคากลายเป็นกิจวัตรของ Netflix ไปแล้วในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
การขึ้นราคาเป็นทางหนทางที่หลีกเลี่ยงได้ยาก เนื่องจากการเติบโตของผู้ใช้งานเริ่มชะลอตัว ในขณะเดียวกันบริษัทยังต้องลงทุนสูงเพื่อผลิตคอนเทนต์ป้อนลงแพลตฟอร์ม
ผลประกอบการ Netflix ไตรมาสล่าสุด ระบุด้วยว่า จากความล่าช้าในการผลิตเนื้อหาในปี 2021 อันเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ในปี 2022 จะกลับมาผลิตคอนเทนต์มากขึ้นโดยเฉพาะเนื้อหาเฟรนไชส์ภาคต่อต่างๆ นำมาสู่การลงทุนเม็ดเงินเพื่อผลิตคอนเทนต์ 17,000 ล้านเหรียญในปี 2022 นี้
ผู้ใช้งานรายใหม่ในสหรัฐฯมีการชะลอตัวอย่างชัดเจน จากรายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ของปี 2021 มีผู้ใช้งานรายใหม่ ของ Netflix 4.4 ล้านคน มีเพียง 1.6% ที่มามาจากสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ถือว่าเป็นสัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับ 50% จากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ตรงกันข้ามกับสหรัฐฯ Netflix ลดราคาในตลาดที่มีความเป็นไปได้สูงโดยเฉพาะอินเดีย ปลายปีที่แล้วประกาศลดราคาทุกแพ็กเกจ และยังเปิดให้ดูฟรีบางส่วนในเคนย่าด้วย
ซึ่งน่าติดตามต่อว่าในไตรมาสถัดมาจะมีตัวเลขที่น่าสนใจจาก Squid Game หรือไม่ Squid Game คือซีรีส์เอาตัวรอดจากเกาหลีที่ตัวในเดือนกันยายน 2021 ที่ผ่านมา โด่งดังเป็นปรากฏการณ์ไปทั่วโลก ทำสถิติคนดู 142 ล้านคนใน 4 สัปดาห์แรก

อย่างไรก็ตาม Netflix ยังคงครองความเป็นเจ้าแห่งสตรีมมิ่ง มีสมาชิกทั่วโลก 214 ล้านราย ส่วนคู่แข่งหน้าเก่าและใหม่อย่าง Disney+ มีผู้ใช้งาน118 ล้านราย, HBO และ HBO Max 74 ล้านราย, Hulu 44 ล้านราย
ที่มา : QUARTZ, Blognone 1, 2, 3
ภาพจาก Netflix Media Assets










