ผบ.ตร.สั่งดำเนินการเด็ดขาด ตำรวจท่องเที่ยวและจราจรกลางที่นำขบวนนักท่องเที่ยวจีน กำชับตำรวจทั่วประเทศไม่ให้เกิดขึ้นอีก ชี้นำรถส่วนตัวมาดัดแปลงมีความผิดอาญา
กรณีนักท่องเที่ยวชาวจีนถ่ายคลิปตำรวจไทยขับรถนำขบวนรับจากสนามบินสุวรรณภูมิ ล่าสุด พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าหลังจากที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตรง) สั่งการด่วนให้จเรตำรวจตรวจสอบ
เบื้องต้นมีการพิสูจน์ทราบแล้วว่า บุคคลที่ปรากฏในคลิปเป็นตำรวจจริง 3 นาย เป็นตำรวจท่องเที่ยว 1 ราย คือ ร.ต.อ. สมพล ภิญโญสโมสร ตำแหน่ง รองสารวัตร กองกำกับการ 3 (รับผิดชอบสนามบินสุวรรณภูมิ) สังกัดกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 และ ตำรวจ บก.จร. 2 นาย คือ ส.ต.อ.ธนกร นุกูลธนกิจ และ ส.ต.อ.ธนวัฒน์ สิมะขจรบุญ ในส่วนของตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ต. ม.ล. สันธิกร วรวรรณ ผู้บังคับกองบังคับการท่องเที่ยว 1 ได้สั่งการให้ผู้กำกับการ 3 ต้นสังกัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามสั่งการแล้วตามหนังสือ บก.ทท.1 เลขที่ 0038.201/255 ลง 21 ม.ค. 2566
- เด้งเข้ากรุ พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง
ด้านกองบัญชาการตำรวจนครบาล ออกคำสั่งตั้งสืบสวนข้อเท็จจริง พร้อมกับออกคำสั่งให้ตำรวจ บก.จร. ทั้ง 2 นายมาปฏิบัติหน้าที่ ศปก.บก.จร. และสั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ผกก. , รอง ผกก. และ สว.ที่ควบคุมกำกับตำรวจ 2 รายนี้
พล.ต.ต.อาชยน กล่าวว่า ผบ.ตร.ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก สั่งการให้ตรวจสอบทุกประเด็นและทุกมิติ พร้อมประเด็นรถที่ใช้ในการนำขบวน มีการนำรถหลวง รถทางราชการ มาใช้ส่วนตัวหรือไม่ ตรวจสอบรถยนต์ที่ปรากฏในคลิปทุกคันที่เกี่ยวข้อง และให้ตรวจสอบย้อนหลังไปว่าเคยมีพฤติกรรมแบบนี้ ทำเป็นขบวนการหรือไม่ ต้องตรวจสอบทุกข้อสงสัยของสังคมให้เกิดความกระจ่างโดยเร็วที่สุด หากมีความผิดจริงต้องดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาด และสั่งการกำชับให้ข้าราชการตำรวจทุกนายทุกสังกัดห้ามปฏิบัติไปในลักษณะดังกล่าวอีก มิเช่นนั้นจะต้องถูกดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาดทุกราย
ส่วนประเด็นที่นักท่องเที่ยวสามารถออกจากช่องทางตรวจคนเข้าเมืองได้อย่างรวดเร็วนั้น พล.ต.ต.อาชยน กล่าวว่า จากการตรวจสอบแล้วพบว่านักท่องเที่ยวได้ทำข้อมูล E-VISA มาตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งตามปกติจะใช้เวลา 3 นาที ประกอบกับเวลานั้นมีคนใช้บริการน้อย จึงสามารถเดินทางออกมาได้อย่างรวดเร็ว เบื้องต้นยังไม่พบความเชื่อมโยงว่ามีความผิดในเรื่องนี้
