พ่อแม่พร้อมทนายความเดินทางไปติดตามอาการ ‘แบม-ตะวัน’ ระหว่างรักษาตัวที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ รังสิต ด้านผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ เผยทั้งคู่อาการยังไม่เข้าขั้นวิกฤต พูดคุยได้ เริ่มมีของเสียสะสมในร่างกาย ไตเริ่มเสื่อมสภาพ ถ้าทั้งคู่เริ่มมีอาการเข้าขั้นรุนแรง จะดำเนินการตามจรรยาบรรณและวิชาชีพการแพทย์
นายสมหมาย-นางกาหลง ตัวตุลานนท์ พ่อกับแม่ของ ตะวัน-ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และนายสุชาติ-นางพรนิภา พ่อกับแม่ของ แบม-อรวรรณ ภู่พงษ์ เดินทางไปเยี่ยมลูกสาวที่อาคารหอผู้ป่วยพิเศษยูงทอง 2 ภายในโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยมีนักกิจกรรมหลายคนมาให้กำลังใจ ตะวัน-แบม ด้านหน้าโรงพยาบาลฯ
‘แบม-ตะวัน’ อาการยังไม่เข้าขั้นวิกฤต
นพ.พฤหัส ต่ออุดม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า “ได้มีการตั้งทีมแพทย์ดูแลเป็นพิเศษตะวัน-แบม และจัดห้องแยกจากผู้ป่วยคนอื่น ผู้ป่วยมีการอดอาหาร ทางแพทย์ก็ได้ดูแลมามากพอสมควร และทีมแพทย์ที่ดูแลจะสรุปอาการในแต่ละวันและมีการให้ข่าวทางสื่อโซเชียลและเฟซบุ๊กของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์
วันนี้ตั้งแต่เช้าได้เข้าไปเยี่ยมทั้งสองคน การอดอาหารนั้นก็จะมีผลในเรื่องของความอ่อนเพลียในร่างกาย ความเจ็บปวดในร่างกาย และของเสียในร่างกาย ปัจจุบันนี้สัญญาณชีพของทั้งสองคนยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ และสามารถสื่อสารได้ ซึ่งในสภาพร่างกายของการอดอาหารก็มีภาวะแทรกซ้อน แต่ไม่ได้เข้าขั้นวิกฤตฉุกเฉิน ทางโรงพยาบาลดูแลผู้ป่วยทุกคน เพราะเป็นโรงพยาบาลเพื่อประชาชน ทุกท่านไม่ต้องเป็นห่วง”
“อาการในช่วงเช้าของวันนี้ ทั้งคู่มีอาการอ่อนเพลีย ปวดท้อง เริ่มมีของเสียสะสมในร่างกาย รวมถึงอวัยวะสำคัญ ไตเริ่มเสื่อมสภาพ ส่วนอาการอื่นๆ พบว่ามีสัญญาณชีพปกติ สามารถสื่อสารกับแพทย์และคนมาเยี่ยมได้รู้เรื่อง มีภาวะแทรกซ้อนเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่เข้าขั้นวิกฤต และยังคาดการณ์ไม่ได้ว่าจะเข้าขั้นเมื่อใด ยืนยันว่าไม่ต้องเป็นกังวล หากทั้งคู่เริ่มมีอาการเข้าขั้นรุนแรง จะดำเนินการตามจรรยาบรรณและวิชาชีพการแพทย์” นพ.พฤหัส กล่าว
นพ.พฤหัส กล่าวว่า “แพทย์แนะนำให้ทั้งคู่รับประทานอาหารและดื่มน้ำตั้งแต่แรกในช่วงต้นสัปดาห์ก่อน ทั้งคู่ดื่มน้ำได้พอสมควร แต่ปัจจุบันเริ่มดื่มน้ำได้น้อยลง โดยแพทย์ได้พยายามให้ทั้งคู่รับอาหารเหลวและน้ำเกลือ แต่ทั้งคู่ยังคงปฏิเสธ”
ด้านนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ กล่าวว่า ตะวัน-แบม มีอาการวิงเวียนศีรษะตลอดเวลา ขอนอนพักตลอดการปรึกษาคดี คาดว่าเป็นผลจากภาวะน้ำตาลในเลือดตกตามที่แพทย์วินิจฉัย นอกจากนี้ทั้งคู่พูดช้าลง และยังปฏิเสธที่จะรับประทานอาหารหรือรับการรักษาใดๆ ไม่ว่าจะยา น้ำเกลือ หรือวิตามิน แม้โรงพยาบาลจะเตรียมพร้อมไว้ตลอด ส่วนตัวมองว่า อาการของทั้งสองจะทรุดลงได้รวดเร็วมาก เป็นช่วงเวลาที่เหลืออยู่ไม่มากนัก











