ผลต่างจำนวนราษฎรไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด กกต. สั่ง กทม. ชลบุรี เชียงใหม่ ปัตตานี สมุทรปราการ แบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ พร้อมติดประกาศเผยแพร่โดยระยะเวลาที่กำหนดไม่กระทบกรอบเวลา 10 วัน

นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กกต. ได้มีการพิจารณารูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัดที่ได้มีการปิดประกาศ และเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของสำนักงาน กกต. จังหวัด พบว่า การแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.ของจังหวัดชลบุรี เชียงใหม่ ปัตตานี สมุทรปราการ และ กรุงเทพมหานคร มีผลต่างของจำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้งไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
กกต. จึงเห็นว่าเพื่อให้การแบ่งเขตเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สำนักงานฯ จึงมีหนังสือแจ้งไปยังผู้อำนวยการการเลือกตั้งทั้ง 5 จังหวัดดังกล่าว ให้ดำเนินการจัดทำรูปแบบการแบ่งเขตเพิ่มเติม โดยให้มีผลต่างของจำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้งเป็นไปตามที่หลักเกณฑ์กำหนด และผลต่างของจำนวนราษฎรระหว่างเขตเลือกตั้งไม่ควรเกินร้อยละ 10 จากนั้นให้ปิดประกาศรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ดังกล่าวระหว่างวันที่ 7-16 ก.พ. เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองและประชาชนในจังหวัดได้แสดงความคิดเห็น
เมื่อครบกำหนดระยะเวลา ให้นำความเห็นและข้อเสนอแนะของประชาชนในเขตเลือกตั้งมาประกอบการพิจารณา และเสนอผลการพิจารณาเรียงตามลำดับความเหมาะสมทุกรูปแบบที่มีการปิดประกาศพร้อมเหตุผลประกอบ รวมทั้งข้อดีข้อเสียของรูปแบบต่างๆ และรายงานมายังสำนักงาน กกต.อย่างช้าภายในวันที่ 20 ก.พ. 2566
นายแสวง ระบุว่า รูปแบบการแบ่งเขตที่ 5 จังหวัดที่ทำมานั้นไม่ได้ผิด เพราะจังหวัดแบ่งโดยคำนึงถึงความเป็นอำเภอ เป็นชุมชน จึงไม่มีการแบ่งหรือผ่าอำเภอออกไป แต่สำนักงานฯ เห็นว่าควรคำนึงถึงหลักเกณฑ์ผลต่างของจำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้งไม่ควรเกินร้อยละ 10 ของจำนวนเฉลี่ยต่อ ส.ส. 1 คน ในจังหวัดนั้นเป็นสำคัญก่อน จึงให้ทั้ง 5 จังหวัดปรับปรุงรูปแบบการแบ่งเขตใหม่ และติดประกาศเผยแพร่โดยระยะเวลาที่กำหนดไม่กระทบกรอบเวลา 10 วัน ที่กฎหมายกำหนดให้พรรคการเมืองและประชาชนแสดงความคิดเห็น
ขณะเดียวกันการเสนอเรื่องมาให้ กกต. พิจารณาเคาะว่าจะใช้รูปแบบใดก็ยังอยู่ในระยะเวลาที่สำนักงานฯ วางแผนไว้ คือ ภายในวันที่ 20-28 ก.พ.
สำหรับ 5 จังหวัดที่สำนักงาน กกต. สั่งให้มีการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่มีทั้งสิ้น 66 เขตเลือกตั้ง แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 33 เขตเลือกตั้ง, เชียงใหม่ 11 เขตเลือกตั้ง, ชลบุรี 10 เขตเลือกตั้ง, สมุทรปราการ 8 เขตเลือกตั้ง และปัตตานี 4 เขตเลือกตั้ง
ตีความคนไม่ใช่สัญชาติไทย ไปคำนวณแบ่งเขตเลือกตั้ง 2566
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เคยเสนอแนะไปว่า เป็นห่วงเรื่องของคนต่างด้าวในแต่ละพื้นที่ว่า จะรวมเป็นประชากรในเขตด้วยหรือไม่ เพราะความจริงมันแยกได้ เป็นคนไทยล้วน กับคนต่างด้าว ซึ่งขอให้ กกต. ขอความชัดเจนจากศาลรัฐธรรมนูญว่า จะต้องรวมหรือไม่ ส่วนแรงงานต่างด้าวจะมีมากน้อยแตกต่างกันไปในแต่ละเขต ต้องยอมรับว่าบางจังหวัดมีผล บางจังหวัดไม่มีผล แม้ว่าคนต่างด้าวเหล่านี้ไม่มีสิทธิเลือกตั้ง แต่ตนสงสัยว่าจะไปนับเขาด้วยทำไม เพราะคนพวกนี้เวลาที่ประเทศเขามีการเลือกตั้ง เขาก็เดินทางกลับไปเลือกตั้งได้










