
ศาลมีคำสั่งปรับจ่าประสิทธิ์ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯซึ่งเป็นกฎหมายบทหนักสุด วางโทษปรับ 9,000 บาท และให้เพิ่มโทษ 1 ใน 3 เป็นปรับ 12,000 บาท จำเลยรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับ 6,000 บาท
วันที่ 30 พ.ค.2562 วานี้ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นัดสอบถามคดีหมายเลขดำ อ.1274/2562 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายประสิทธิ์ ไชยศรีษะ หรือ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ อายุ 54 ปี อดีต ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย เป็นจำเลยในความผิดฐานกระทำผิด พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 4, 8 ทวิ, 72 ทวิ และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 โดยอัยการโจทก์ ยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 17 พ.ค.62 ที่ผ่านมา
จากพฤติการณ์เมื่อวันที่ 27 มี.ค.2562 เวลากลางวัน จำเลยได้พาอาวุธปืนพกสั้นรีวอลเวอร์ สมิธแอนด์เวสสัน ขนาด.357 แม็กนั่ม และเครื่องกระสุนขนาดไว้ในเป้สะพายติดตัวไปบริเวณจุดตรวจอาวุธชั้น 2 อาคารศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.โดยไม่ได้รับอนุญาต
ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธ พ.ศ.2490 มาตรา 4,8 ทวิ ,72 ทวิ และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371ทั้งนี้ศาลสอบถามแล้ว จำเลยให้การรับสารภาพ ไม่ต่อสู้คดี
ศาลจึงพิพากษาว่า จำเลยกระทำผิดจริงตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธ พ.ศ.2490 มาตรา 8 ทวิ วรรคหนึ่ง ,72 ทวิ วรรคสองและประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ตามพ.ร.บ.อาวุธปืนฯซึ่งเป็นกฎหมายบทหนักสุด วางโทษปรับ 9,000 บาท และให้เพิ่มโทษ 1 ใน 3 เป็นปรับ 12,000 บาท จำเลยรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับ 6,000 บาท
คดีนี้สืบเนื่องจากก่อนที่จะไปขึ้นศาลนายประสิทธิ์ ได้เดินทางมาจากบ้านต่างจังหวัด ซึ่งได้สะพายเป้ที่มีอาวุธปืนติดมาในกระเป๋าด้วย ขณะกำลังเดินผ่านเครื่องสแกนตรวจอาวุธ เจ้าหน้าที่ รปภ.ของศาลได้สังเกตพบว่าภายในกระเป๋ามีวัตถุคล้ายอาวุธปืนจึงได้เรียกตรวจก็เพราะว่าเป็นอาวุธปืนจริง โดยนายประสิทธิ์อ้างถึงเหตุผลที่มีอาวุธปืนพกในกระเป๋าว่าเนื่องจากเดินทางไกลมาจากต่างจังหวัด ภรรยาเป็นผู้ดูแลจัดกระเป๋าให้ซึ่งน่าจะเป็นอาวุธที่ติดมาด้วยโดยภรรยาให้ติดไว้ให้เพื่อความปลอดภัย
ขอบคุณข้อมูล inn









