‘พิธา’ ซัดรัฐบาลประยุทธ์ คือ 1 ทศวรรษที่สร้างความสูญหายทั้งงบประมาณ เวลา และโอกาส ถามเลือกตั้งที่จะถึงนี้คือทางแพร่ง จะเอาอดีต หรืออนาคต?

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่มีการลงมติ ระบุว่า การอภิปรายในสภาฯ ครั้งนี้ เราจะลงมติไม่ได้ แต่ช่วง 80 วันหลังจากนี้ ประชาชนสามารถลงคะแนนในคูหาได้ ดังนั้น ขอให้พิจารณาข้อมูลจากการอภิปรายครั้งสุดท้ายของสภาฯ ประกอบการตัดสินใจเข้าคูหาเลือกตั้งเพื่อให้คำตอบ ว่า จะให้อนาคตของประเทศหลังจากนี้รุ่งโรจน์ และเปลี่ยนแปลงประเทศหลังจากที่ทศวรรษที่ผ่านมามีแต่ความล้มเหลว
นายพิธา กล่าวว่า รัฐบาลมีแต่สัญญาปากเปล่า สัญญาว่าจะมาปกครองบ้านเมือง จะมาปฏิรูป มาแก้จน มารักษาความสงบ และสัญญาว่าขอเวลาอีกไม่นาน แต่ถ้านับเวลาตั้งแต่ปี 2557 – 2566 เกือบจะทศวรรษ แต่ที่ผลิดอกออกผลขึ้นมาคือ 1 ทศวรรษที่สูญหาย
– 1 ทศวรรษที่สูญหายของงบประมาณ
– 1 ทศวรรษที่สูญหายของเวลา
– 1 ทศวรรษที่สูญหายของโอกาส
การสูญหายของงบประมาณในเกือบ 1 ทศวรรษที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ใช้งบประมาณไปแล้ว 28 ล้านล้านบาท เทียบให้เห็นภาพว่าประเทศไทย หากนำทองคำมาปูทั้งประเทศก็ทำได้ หากเอาทองคำไปปูถนนประเทศไทยไปกลับ ได้ 2 รอบ
สิ่งที่คนไทยได้จากการบริหารประเทศตลอดเกือบ 10 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ คือ การเมืองเดิม ปากท้องเดิม อนาคตแบบเดิม เราลงทุนไป 28 ล้านล้านบาทก็ได้อนาคตแบบเดิม อนาคตที่ประเทศไทยจะแพ้เพื่อนบ้านแบบไม่เห็นฝุ่น เป็นประเทศเดียวที่จีดีพีรั้งท้ายอาเซียนและยังไม่ฟื้นตัวจริงจากโควิด
นายพิธา ระบุว่า เราสูญหายเวลาไปกับ 3 สิ่งสำคัญคือ
1. การศึกษา คะแนนมาตรฐานโลกอย่าง PISA ก็รั้งท้าย
2. การคอร์รัปชัน ปี 2557 อันดับความโปร่งใสของเราอยู่ที่อันดับ 85 แต่ปี 2565 อยู่ที่อันดับ 110
3. ภัยแล้ง ก่อนหน้านี้มีพรรครัฐบาลบอกว่า “มีลุงไม่มีแล้ง” แต่ที่ผ่านมาเกือบ 1 ทศวรรษ พื้นที่แล้งซ้ำซากในภาคอีสานเพิ่มจาก 40 ล้านไร่เป็น 49 ล้าน
สูญหายโอกาสในการปฏิรูปสิ่งที่สำคัญที่สุด คือการปฏิรูปตำรวจ ภาพลักษณ์ของตำรวจตอนนี้ ประชาชนมีคำถามว่าจริงหรือไม่ที่ตำรวจมีส่วนกับทุนจีนสีเทา จริงหรือไม่ตำรวจตั้งด่านรีดไถนักท่องเที่ยวไต้หวัน แทนที่จะเป็นผู้พิทักษ์ราษฎร กลับเป็นส่วนหนึ่งของการทำร้ายราษฎร รวมถึงระบบเส้นสาย-ตั๋ว ที่ทำให้ตำรวจมีปัญหาสุขภาพจิต ส่วนกองทัพ รัฐบาลยังลอยตัว ประชาชนยังไม่ได้คำตอบ อะไรคือสาเหตุของเรือหลวงสุโขทัยล่ม ที่ทำให้ทหารชั้นผู้น้อยสูญเสียมากขนาดนั้น เท่าไรคือค่าใช้จ่ายที่กองทัพใช้ในการบินเครื่องบินรบ F-16 ที่เอาไปดูแลกิจกรรมในครอบครัวของอดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ อะไรคือสาเหตุของการบริหารในกองทัพที่ทำให้เกิดเหตุการณ์กราดยิงโคราชและความรุนแรงต่อทหารชั้นผู้น้อย

นายพิธา ขอฝากข้อเสนอแนะไปถึงรัฐบาล แม้ไม่รู้ว่ารัฐบาลใดจะได้รับไปทำ ว่าสิ่งที่ประชาชนอยากได้ ไม่ใช่การเมืองเดิม ปากท้องเดิม อนาคตเดิม โดยตนขอเริ่มที่ปากท้อง ถ้าไม่อยากให้คนไทย “แก่ก่อนรวย ป่วยก่อนตาย รายได้ไม่มี หนี้เพิ่มทุกวัน” คำตอบสั้นๆ คือรัฐสวัสดิการ เช่น เบี้ยคนชรา 3,000 บาทต่อเดือน เบี้ยเด็กเล็ก 1,200 บาทต่อเดือน จะลดทั้งลดความเหลื่อมล้ำและทำให้เศรษฐกิจเติบโต ทลายทุนผูกขาด ผ่านกฎหมายสุราก้าวหน้า เพิ่มแต้มต่อให้เอสเอ็มอีแข่งกับทุนใหญ่ ส่วนอนาคต ต้องสร้างงาน-ซ่อมประเทศ เปลี่ยนปัญหาของประเทศให้เป็นโอกาสในการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น น้ำประปาที่ไม่สะอาด ต้องใช้ระบบ smart meter
หัวหน้าพรรคพรรคก้าวไกล ระบุว่า การเมืองเป็นกระดุมเม็ดแรกที่ถ้าติดให้ถูก ประเทศไทยจะมีเศรษฐกิจที่ดีและมีอนาคตได้ ที่ผ่านมาสิ่งที่ประเทศไทยทะเลาะกันมากที่สุด ไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจ แต่สิ่งที่เราหาจุดร่วมกันไม่ได้ คือเรื่องการเมืองดี การเมืองกับปากท้องคือเหรียญสองด้าน การเมืองจะดีได้ ต้องทำให้ประชาธิปไตยเต็มใบ เอาทหารออกจากการเมือง และสิ่งที่สำคัญคือต้องหาฉันทามติใหม่ในความปกติใหม่ ผ่านการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่มาจากประชาชน
“ในช่วงที่สังคมมีเรื่องอันน่ากระอักกระอ่วนใจ ท่านเลือกใช้ความรุนแรง แทนที่จะหาพื้นที่ปลอดภัยในการพูดคุย การใช้มาตรา 112 ที่มีโทษรุนแรง 3 – 15 ปี ฟ้องโดยใครก็ไม่รู้ กับเยาวชนอายุเพียง 14 ปี และอีกหลายๆ คน ไม่ใช่ทางออกของประเทศไทย แต่เป็นทางตัน แบบนี้ความขัดแย้งจะไม่จบสิ้น ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ ทศวรรษหน้าก็ยังเป็นทศวรรษที่สูญหายของประเทศไทย” พิธากล่าว
การอภิปรายว่า อีกราว 80 วัน ประชาชนจะเข้าคูหา การเลือกตั้งครั้งนี้คือโอกาส เปลี่ยนทศวรรษที่สูญหาย ปิดสวิตช์ 3ป. เป็นทศวรรษแห่งความหวัง เป็นจุดเริ่มต้นของทศวรรษที่มีอนาคต ทศวรรษที่ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม










