ถือฤกษ์ 09.09 น. ‘เต้-มงคลกิตติ์’ ยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง ส.ส. มีผลทันที

ถือฤกษ์ 09.09 น. ‘เต้-มงคลกิตติ์’ ยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง ส.ส. มีผลทันที

‘มงคลกิตติ์’ ยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง ส.ส. ต่อประธานสภาผ่านสำนักเลขาธิการสภาฯ เผยไม่อยากเบียดบังเวลาราชการไปหาเสียง เรียกร้องพรรคใหญ่เอาอย่าง ระบุสมัยหน้าขอเลือกอยู่ซีกรัฐบาล

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ถือฤกษ์ เวลา 09.09 น. ยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง ส.ส. ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยให้มีผลนับแต่วันนี้ 17 ก.พ. 2566 หลังจากที่เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ได้ประกาศขอลาออกกลางสภา ระหว่างที่มีการอภิปรายทั่วไปไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152

นายมงคลกิตต์ เปิดเผยว่า ได้ทำหน้าที่ของ ส.ส. อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ซึ่งสภาเหลือระยะเวลาทำงานอีก 28 วัน ก็อยากจะใช้เวลาสำหรับการหาเสียงเพื่อแสดงนโยบาย 13 ข้อไปยัง 77 จังหวัดให้ทั่วประเทศไทย แม้จะไม่ครบทุกอำเภอ แต่พรรคไทยศรีวิไลย์จำเป็นต้องใช้เวลาในการหาเสียงและไม่ต้องการเบียดบังเวลาราชการ

ช่วงที่ผ่านมาตนไม่ต้องการใช้ตำแหน่งหน้าที่ทางราชการหรือสิทธิสวัสดิการต่างๆ เพื่อนำมาใช้หาเสียงกับประชาชน เพราะเราต้องการความเท่าเทียมในการหาเสียงและรณรงค์การเลือกตั้ง จึงอยากเรียกร้องให้พรรคการเมืองใหญ่ๆ ที่มีทั้ง ส.ส. รัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรี ไม่สมควรที่จะใช้สวัสดิการอื่นๆ ของทางราชการในการหาเสียง เพราะเป็นการเอาเปรียบพรรคอื่น และเราหวังให้เกิดการเลือกตั้งปี 66 ที่บริสุทธิ์ยุติธรรมโดยมีประชาชนเป็นผู้ตัดสิน

หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า บทบาทของตนจะได้กลับมาทำหน้าที่ ส.ส. หรือไม่นั้น ขอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินในการเลือกตั้งผู้แทนวันที่ 7 พ.ค. 2566 และขอบคุณประชาชนทั่วประเทศที่ได้ให้ความเอ็นดูกับพรรคไทยศรีวิไลย์ และหวังว่าจากนี้ประชาชนจะให้การต้อนรับและเป็นตัวเลือกให้ประชาชนในสนามเลือกตั้งด้วย

ในส่วนของ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อในลำดับถัดไปที่จะเลื่อนขึ้นมาทำหน้าที่แทนหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ คือ นางสาวภคอร จันทรคณา

เมื่อถามว่าหากเลือกตั้งแล้วอยากเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน

นายมงคลกิตต์ กล่าวว่า นโยบายพรรคไทยศรีวิไลย์ทำเพื่อช่วยเหลือประชาชน ถ้าเลือกได้ก็อยากเลือกทำหน้าที่ฝ่ายบริหาร เพราะสามารถช่วยเหลือประชาชนได้ทั้งหมด จึงจำเป็นจะต้องอยู่ฝ่ายรัฐบาล แต่ถ้ามีฝ่ายบริหารมากเกินไปและไม่มีการตรวจสอบสมดุลของรัฐสภา และพรรคอื่นต้องการเป็นรัฐบาลกันหมด ตนก็พร้อมมาเป็นฝ่ายตรวจสอบรัฐบาล ซึ่งยืนยันว่าตนเป็นได้ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายตรวจสอบรัฐบาลในเวลาที่จำเป็น

ส่วนที่นั่งในพรรครัฐบาลนั้น มองว่ายังไม่ถึงเวลา เพราะยังไม่ทราบว่าพรรคใดจะได้นำรัฐบาล และเราจะได้จำนวน ส.ส. เท่าใด ซึ่งต้องมีการเจรจา เราก็ยังไม่มั่นใจว่าจะได้กลับมาทำหน้าที่ ส.ส. หรือไม่

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง