ครม. สั่งการทุกกระทรวงระดมแนวทางแก้ปัญหา PM2.5

ครม. สั่งการทุกกระทรวงระดมแนวทางแก้ปัญหา PM2.5

ครม. สั่งการทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องระดมแนวทางแก้ปัญหา PM2.5 กระทรวงสาธารณสุขเตรียมพร้อมรักษาผู้ได้รับผลกระทบ ด้านกระทรวงมหาดไทย กำชับจังหวัดประกาศห้ามเผาในทุกพื้นที่

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมืองปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้หารือเรื่องการแก้ไขปัญหา PM 2.5 ว่า จากรายงานสถานการณ์ล่าสุดจากข้อมูลจาก GISTDA พบว่า ไทยพบจุดความร้อน 5,396 จุด เมียนมาพบจุดความร้อน 6,877 จุด  สปป.ลาว พบจุดความร้อน 4,066 จุด กัมพูชาพบจุดความร้อน 739 จุด และเวียดนามพบจุดความร้อน 626 จุด

ประเทศไทย พบจุดความร้อน หรือ Hotspot ส่วนใหญ่พบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 3,024 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 1,790 จุด พื้นที่เกษตร 251 จุด พื้นที่ชุมชนอื่นๆ 167 จุด พื้นที่สปก. 157 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 7 จุด จังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด คือ น่าน 555 จุด แม่ฮ่องสอน 429 จุด อุตรดิตถ์ 382 จุด

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พูดถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ด้วยการยกระดับมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่นละอองในช่วงวิกฤติ เช่น กระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินการปิดป่าในส่วนที่มีสถานการณ์ไฟป่าในระดับวิกฤติ หรือเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าขั้นรุนแรง มีการระดมเครือข่าย อาสาสมัคร อุปกรณ์เครื่องมือ อากาศยานในการลาดตระเวน เฝ้าระวัง และปฏิบัติดับไฟอย่างเข้มข้น

ในส่วนกระทรวงมหาดไทย ได้กำชับจังหวัดประกาศห้ามเผาในทุกพื้นที่ และให้บูรณาการหน่วยงานในทุกพื้นทำการลาดตระเวน เฝ้าระวังการเผา ป้องกันไม่ให้มีการเผาอย่างเข้มข้น ส่วนกระทรวงอุตสาหกรรมกำชับให้ลดรับอ้อยไฟไหม้เข้าหีบในช่วงนี้ด้วย

สำหรับกระทรวงคมนาคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร ได้พิจารณามาตรการเรื่องการจำกัดเวลา พื้นที่ และปริมาณรถบรรทุกที่จะเข้ามาในเขตเมือง และให้ทุกหน่วยงาน บังคับใช้กฎหมายกับผู้ลักลอบเผา หรือผู้กระทำความผิดอย่างเข้มข้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ปฏิบัติฝนหลวงทำไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละออง

ด้านกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทย ได้จัดให้มีการทำห้องปลอดฝุ่น และแจกจ่ายอุปกรณ์ป้องกันฝุ่นเท่าที่จำเป็น รวมถึงยารักษาโรคในพื้นที่ และเร่งจัดบริการด้านการแพทย์และการสาธารณสุข ทั้งหน่วยงานบริการตรวจสุขภาพประชาชน และจัดบริการคลินิกมลพิษเคลื่อนที่ในทุกจังหวัดที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้คำแนะนำและดูแลสุขภาพกับประชาชน

ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ ได้สั่งการไปยังเอกอัครราชทูตในประเทศเพื่อนบ้าน ให้เร่งประสานขอความร่วมมือในการลดการเผาไหม้ในพื้นที่การเกษตร

ทั้งนี้ ในฐานะนายกรัฐมนตรีมีตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ใช้ช่องทางทหารในการประสานงาน ทางด้านหน่วยงานด้านความมั่นคงกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อที่จะขอความร่วมมือในการลดการเผาในพื้นที่เกษตร อีกทั้งขอความร่วมมือบริษัทเอกชน ที่เข้าไปลงทุนทำธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อช่วยดูแลพื้นที่เกษตรด้วย

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มีพูดถึงเรื่องการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ ซึ่งในขณะนี้มีการจดทะเบียนรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดปัญหา PM2.5 พร้อมทั้งให้มีการเพิ่มสถานีชาร์จไฟฟ้า สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าทั่วประเทศ รวมทั้งบรรจุสิทธิประโยชน์สำหรับมาตรการการลงทุน เพื่อสนับสนุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต เพื่อแก้ปัญหาในระยะยาว และรัฐบาลได้มีการส่งเสริมจากพลังงานฟอสซิลไปเป็นพลังงานสะอาดด้วย

แท็กที่เกี่ยวข้อง
TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง
ครม. สั่งการทุกกระทรวงระดมแนวทางแก้ปัญหา PM2.5