
ภาพจากเพจ Tongthong Chandransu
ต้นจามจุรีที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงปลูกล้มลงหลังพายุฝนกระหน่ำกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถยกต้นขึ้น ด้าน ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ประพันธ์บทกลอน จามจุรีที่ทรงปลูกถูกฝนล้ม แต่บุญบ่มพระบารมีที่ทรงสร้าง อยู่เหนือเกล้าเสมอสมัยไม่รู้จาง จะอยู่กลางใจจุฬาฯ สถาพร

วันที่ 10 มิ.ย.2562 วานนี้เพจจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโพสต์พบแจ้งเหตุ ระบุว่า เวลาประมาณ 08.40 น. เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา ต้นจามจุรี 1 ใน 5 ต้นที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จพระราชดำเนินมา ทรงปลูกพระราชทานเมื่อวันที่ 15 ม.ค.2505 ได้ล้มลงหลังพายุฝนที่โหมกระหน่ำกรุงเทพมหานครเมื่อคืนวาน จากการตรวจสอบ พบว่า รากขาดทั้งหมดไม่สามารถยกต้นขึ้นได้อีก ทางฝ่ายกายภาพของมหาวิทยาลัยจึงได้เคลื่อนย้ายลำต้นอย่างระมัดระวังไปเก็บรักษาไว้เพื่อนำมาทำเป็นอนุสรณ์วัตถุในรูปแบบที่เหมาะสมต่อไป

ทั้งนี้ ทางมหาวิทยาลัยตระหนักว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นในวันใดวันหนึ่ง ตามอายุขัยของต้นไม้และสภาวะตามธรรมชาติ จึงได้เตรียมการเพาะพันธุ์ต้นลูก ต้นหลานจากต้นที่ทรงปลูกไว้แล้วในอุทยาน 100 ปีจุฬาฯ ทั้งนี้เพื่อสืบทอดพระราชปณิธานต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
https://www.facebook.com/ChulalongkornUniversity/posts/2480853041959362
รศ.ดร.บุญไชย สถิตมั่นในธรรม รองอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยย่อมทราบดีว่า ต้นจามจุรีเป็นต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย ด้วยเหตุนี้ภายในบริเวณมหาวิทยาลัยจึงมีต้นจามจุรีปลูกอยู่ตรงโน้นบ้างตรงนี้บ้างนับสิบหรืออาจจะนับร้อยต้น แต่จามจุรีต้นไหนก็ไม่มีความหมายไม่มีความสำคัญเท่ากับต้นจามจุรี 5 ต้น ที่เรียงรายเป็นแถวอยู่บริเวณถนนหน้าหอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยหรือกล่าวได้อีกนัยหนึ่งว่าใกล้กันกับเสาธงแบ่งเป็นต้นจามจุรีฝั่งด้านทิศเหนือสองต้น และฝั่งด้านทิศใต้สามต้น บริเวณนี้เองมีแผ่นป้ายและจารึกขนาดใหญ่ บ่งบอกว่า ต้นไม้ทั้งห้าต้นนี้ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงปลูกพระราชทานเมื่อวันที่ 15 ม.ค.2505 ในวันนั้นได้มีพระราชกระแสว่า
https://www.facebook.com/CUUrbanTreeCare/photos/pcb.859308567752418/859303461086262/?type=3&theater
“ฝากต้นไม้ไว้ห้าต้น ให้เป็นเครื่องเตือนใจตลอดกาล”
ต้นไม้ที่ทรงปลูกจำนวนนี้หลายสิบปีผ่านไปจากต้นขนาดนิดเดียวก็ได้เติบใหญ่ไพศาลขึ้นเป็นไม้ใหญ่ ขณะที่ได้หยั่งรากลงลึกในหัวใจของชาวจุฬาฯทุกคน ก็ได้ให้ร่มเงาและความร่มเย็นพวกเราทุกคนเช่นกัน
ขอบคุณภาพประกอบจากเพจ โรงเรียนต้นไม้ : CU School of Urban Tree Care และ Tawatchai Charinpanitkul









