คลัสเตอร์ปีใหม่ยังไม่จบ ศบค. เผยระบาดต่อเนื่องจากงานเลี้ยง งานบุญ งานบวช

คลัสเตอร์ปีใหม่ยังไม่จบ ศบค. เผยระบาดต่อเนื่องจากงานเลี้ยง งานบุญ งานบวช

COVID-19

ศบค. เผย คลัสเตอร์ปีใหม่ยังระบาดต่อเนื่อง จากงานเลี้ยง งานบุญ งานบวช เพราะต้องรับประทานอาหารร่วมกัน และการเดินทางข้ามพื้นที่ กลับมาทำงานทำให้เกิดการแพร่ระบาดเป็นคลัสเตอร์

วันที่ 14 ม.ค. 2565 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิดในประเทศไทยว่า วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,158 คน แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อทั่วไป 7,905 คน เรือนจำ 11 คน และติดเชื้อจากต่างประเทศ 242 คน ทำให้ยอดรวมผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 เพิ่มเป็น 2,308,615 คน ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่ม 15 ราย รวมเสียชีวิตแล้ว 21,898 ราย

โดยที่ประชุมศบค.ชุดเล็กมีการพูดคุยคลัสเตอร์ที่มีการติดเชื้อและมีการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อน โดยส่วนใหญ่เป็นคลัสเตอร์ร้านอาหาร และมีสถานบันเทิง ซึ่งมีบางร้านเปิดแบบฝ่าฝืนข้อกำหนดเนื่องจากยังไม่ให้สถานบันเทิงเปิดบริการได้ จึงขอเน้นย้ำจังหวัดให้ช่วยกันตรวจสอบ ซึ่งขณะนี้สถานบันเทิงยังไม่สามารถเปิดบริการได้ก็เกิดการลักลอบเปิด และเกิดการติดเชื้อแพร่ระบาดเป็นคลัสเตอร์ทำให้การพิจารณาเปิดสถานบันเทิงอาจจะต้องชะลอไป

นอกจากนี้ยังพบว่า มีรายงานผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์ปีใหม่ต่อเนื่อง ทั้งคลัสเตอร์งานเลี้ยงที่ จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดอำนาจเจริญ รวมไปถึงการจัดพิธีกรรม ทั้งงานบวช งานบุญ โดยจากการสำรวจของกรมควบคุมโรคพบว่า นอกจากมีการชุมนุมพบปะกันแล้ว ปัจจัยเสี่ยงสำคัญ คือการรับประทานอาหารร่วมกัน ทำให้ต้องถอดหน้ากากอนามัย และการเดินทางข้ามพื้นที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดเป็นคลัสเตอร์

พญ.อภิสมัย กล่าวต่อว่า หลังเทศกาลปีใหม่ พบการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง พบการแพร่ระบาดในโรงงานและสถานประกอบการ วันนี้มีรายงานจำนวน 10 ราย ในตำบลนาดี จ.อุดรธานี นอกจากนี้พบการระบาดที่ จ.สมุทรปราการ ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา และร้อยเอ็ด สาเหตุมาจากพนักงานเดินทางกลับจากงานปีใหม่ งานบุญ กลับเข้ามาทำงานโดยที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการของบริษัท 

ทั้งนี้พบว่ามีหลายบริษัททำได้ดี โดยเฉพาะธุรกิจประกอบรถยนต์ที่มีมาตรการเข้มข้น ให้พนักงานตรวจ ATK ก่อนที่จะเข้าปฏิบัติ แต่มีบริษัทที่พบการแพร่ระบาด เป็นคลัสเตอร์ เพราะมีการหละหลวมไม่ตรวจ ATK หรือพนักงานมีอาการเจ็บป่วย มีความน่าสงสัยว่าติดเชื้อแต่ไม่ได้กักตัว ดังนั้นทางอธิบดีกรมการแพทย์ เน้นย้ำว่าหากประชาชนสำรวจตนเอง แล้วมีความสงสัย มีอาการเสี่ยง มีประวัติเสี่ยงไปสัมผัสใกล้ชิดผู้ที่มีความเสี่ยง ไปพื้นที่เสี่ยง มีอาชีพเสี่ยง ดังนั้นเพียงแค่สงสัย ก็ขอให้รีบตรวจ ATK ขณะนี้ ATK ก็หาซื้อง่าย มีหลายจังหวัดจัดบริการให้ตรวจ ATK และเมื่อตรวจแล้ว หรือขณะที่รอผลตรวจ ขอให้แยกกักตัวเองไม่ไปพื้นที่ชุมชน ไม่ไปที่ทำงาน

และหากมีผลเป็นบวกทางสาธารณสุขเน้นย้ำขณะนี้มาตรการรองรับการรักษามีความพร้อมอย่างสูงสุดเพราะมีการเตรียม Home Isolation หรือให้กักตัวและรักษาอยู่ที่บ้าน โดยพื้นที่กทม.มีการเตรียมสถานบริการ Home Isolation จำนวน 222 แห่ง คิดเป็น 4,000 กว่าเตียง และมีความร่วมมือทางภาครัฐ, ภาคเอกชน, คลินิกเอกชน และคลินิกชุมชนอบอุ่น

พญ.อภิสมัย กล่าวต่อว่า ส่วนการเดินทางเข้าราชอาณาจักรมีประชาชนสงสัยเกณฑ์ต่างๆ เช่นกัน ว่ามีการยกเลิก RT-PCR หรือไม่ ย้ำว่า สธ.ไม่เปลี่ยนแปลงมาตรการ ผู้ที่เดินทางเข้าราชอาณาจักรจำเป็นต้องมีผลตรวจ RT-PCR ก่อนที่จะขึ้นเครื่องบินเข้ามาประเทศไทย ซึ่งเป็นมาตรการที่ใช้กับคนไทยในต่างประเทศด้วย นอกจากนี้เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย ต้องมีการตรวจ RT-PCR ซ้ำทันที และมีมาตรการเพิ่มเติมขึ้นมาคือ ในวันที่ 5-6 จำเป็นต้องมีการตรวจครั้งที่ 2 ด้วย สธ.เน้นย้ำว่าการตรวจเป็นช่วงๆ มีความจำเป็น ไม่ได้ยกเลิก ในส่วนของการติดตามผู้ที่เดินทางเข้ามา ได้รับการรายงานมีการให้ผู้ที่เดินทางเข้ามาโหลดแอปพลิเคชั่นหมอชนะ ซึ่งพบว่าทำได้ 100% ดังนั้นจะเห็นภาพที่เราสามารถติดตามผู้เดินทางเข้ามา ให้มาตรวจ RT-PCR รอบ 2 ได้

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง
คลัสเตอร์ปีใหม่ยังไม่จบ ศบค. เผยระบาดต่อเนื่องจากงานเลี้ยง งานบุญ งานบวช