เพื่อนบ้านอย่าง ‘ลาว’ กำลังมีการท่องเที่ยวที่น่าสนใจ แม้จำนวนนักท่องเที่ยวยังไม่สูงมากนัก แต่ก็มีตัวเลขที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ เฉลี่ยอยู่ที่ 5 ล้านคนต่อปี แต่สิ่งที่ทำให้ลาวมีเสน่ห์เฉพาะตัวคือกลิ่นอายของวัฒนธรรมและกิจกรรมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว เกิดโอกาสให้ธุรกิจโรงแรมที่นี่ขยายตัว เพราะในลาวเองยังมีโรงแรมในระดับ Local เป็นหลัก ยังไม่มีเชนโรงแรมใหญ่ เข้ามาทำตลาดเท่าไหร่นัก
แต่ล่าสุด ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ร่วมกับกลุ่มบริษัทตั้งเจริญ เปิดตัวโรงแรม ‘อมารี เวียงจันทน์’ ริมแม่น้ำโขง
[ โอกาสธุรกิจโรงแรมในลาวยังมีอีกเยอะ ]
‘ยุทธชัย จรณะจิตต์’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป เล่าให้ฟังว่า ลาวเป็นประเทศเล็ก แต่มีกำลังในการขยายท่องเที่ยวมหาศาล เพราะมีทรัพยากรธรรมชาติที่ดี สามารถดึงดูดนักธุรกิจ และการลงทุนเข้าสู่ประเทศได้ ในด้านโครงสร้างพื้นฐานอยู่ในช่วงกำลังพัฒนาในอนาคตอาจจะมีการขยายสนามบิน เพิ่มไฟล์ทบินมากขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงลาวได้ง่ายขึ้น
ตอนนี้การเดินทางเพื่อท่องเที่ยวข้ามเมืองในลาวสะดวกขึ้นมาก เดิมจากเวียงจันทน์สู่วังเวียงจะต้องใช้เวลาราวๆ 3.30 ชั่วโมง แต่หลังจากที่ทางด่วนเสร็จแล้ว ก็ลดระยะเวลาการเดินทางเหลือ 1.30 ชั่วโมง นอกจากนี้ ถ้านั่งรถไฟฟ้าความเร็วสูงก็ใช้เวลาเพียง 50 นาที ทำให้การเดินทางจากจุดศูนย์กลางอย่างเวียงจันทร์สามารถไปท่องเที่ยวต่อในจังหวัดๆ ภาคอื่นๆ ของลาวได้อีก
[ เปิดตัวอมารี เวียงจันทร์ ทำให้เป็นศูนย์กลางนักท่องเที่ยวที่มาลาว ]
‘ยุทธชัย จรณะจิตต์’ เล่าให้ฟังว่า เวียงจันทน์เป็นศูนย์กลางการค้าของลาว จะพบว่าโรงแรมในพื้นที่ยังเป็นแบรนด์โลคอลเท่านั้น ยังไม่มีแบรนด์โรงแรมมาตรฐานที่เข้ามาทำให้เป็นโอกาสในการเปิดตัว “อมารี เวียงจันทน์” (Amari Vientiane) โรงแรมใจกลางเมืองหลวงประเทศลาว ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่กลางเมืองทำให้ใกล้แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ และห่างจากท่าอากาศยานนานาชาติวัตไต (Wattay International Airport) เพียง 4.8 กิโลเมตรเท่านั้น
มีพื้นที่พิเศษโดยเฉพาะบนดาดฟ้าเป็นจุดชมวิวแม่น้ำโขงมองไปเห็นประเทศไทย ในยามเช้าสามารถทำบุญตักบาตรตามประเพณีลาว ไปไหว้พระที่วัดสีสะเกต เดินชมประตูชัย จุดถ่ายภาพยอดนิยมของผู้มาเยือนเวียงจันทน์ หรือลองตะลุยตลาดเช้าเพื่อลิ้มรสอาหารลาวที่ยังคงรักษาความเป็นพื้นถิ่นไว้อย่างเหนียวแน่น กำหนดเปิดให้บริการในวันที่ 1 มีนาคม 2568
ด้าน ‘เด่นไซ แสงอรุณ’ ผู้อำนวยการ กลุ่มบริษัทตั้งเจริญ เล่าเสริมว่า เดิมทีเราบริหารโรงแรม “อมารี วังเวียง” (Amari Vang Vieng) ริมแม่น้ำซอง เมืองวังเวียง ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2561 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่นิยมเที่ยวลาวในรูปแบบแบ็คแพ็คเกอร์ ซึ่งกลุ่มนี้เมื่อเดินทางมาลาวจะใช้เมืองวังเวียง เป็นจุดหมายหลัก เพราะมีกิจกรรมกลางแจ้งเยอะ เช่น อาทิ บอลลูนชมวิววังเวียง ชมพระอาทิตย์ที่ผาเงิน เที่ยวบึงน้ำธรรมชาติสีมรกตใสบลู ลากูน ถ้ำธรรมชาติถ้ำปูคำ
จากการท่องเที่ยวในวังเวียงทำให้โรงแรม อมารี วังเวียง ได้รับกระแสตอบรับที่ดี มีห้องพักบริการ 160 ห้อง และนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มหลักที่มาใช้บริการมากที่สุดคือ นักท่องเที่ยวเกาหลีที่มาเข้าพักมากถึง 60% ที่เหลือเป็นชาติอื่นๆ เช่น ไทย จีน ยุโรป
ความสำเร็จของโรงแรมในวังเวียง ทำให้เราขยายมาสู่โปรเจ็กต์โรงแรมอมารี เวียงจันทน์ ซึ่งเป็นเมืองหลักศูนย์กลางการค้าของประเทศลาว แต่ในเวียงจันทน์ยังไม่มีโรงแรมเชนใหญ่ ดังนั้นจึงตัดสินใจเดินหน้าโครงการนี้ ซึ่งใช้เวลานานถึง 8 ปี ด้วยเงินลงทุนราว 40 ล้านดอลลาร์หรือประมาณ 1,400 ล้านบาท แต่กว่าจะสร้างเสร็จต้องผ่านช่วงโควิดมาให้ได้ก่อน และก่อนหน้านี้ลาวก็มีปัญหาเรื่องค่าเงิน เศรษฐกิจไม่นิ่ง
เราตั้งเป้าทำให้ อมารี เวียงจันทน์ เป็นโรงแรมที่หรูหราและราคาสูงสุดในลาว เน้นให้โรงแรมยืนได้ด้วยราคาไม่ต่ำว่า 150 ดอลลาร์ต่อคืน หรือประมาณ 5,000 บาทขึ้นไป
[ แผนของ ‘ออนิกซ์’ ปีนี้มีรีโนเวท อมารี เปิดโปรเจกต์ใหม่ ออกกอง REIT ]
ปิดท้ายที่ความคืบหน้าการลงทุนของ กลุ่มออนิกซ์ ในประเทศไทย ‘ยุทธชัย จรณะจิตต์’ กล่าวว่า สำหรับแผนธุรกิจของออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ในปีนี้ เริ่มจากรีโนเวทโรงแรมอมารีในไทย เช่น อมารี บางแสนจะรีโนเวทใหม่ทุ่มเงินว่า 300 ล้านบาท ตามด้วยอมารี ดอนเมืองรีโนเวทใหม่ด้วยเงินทุน 350 ล้านบาท เกือบ 300 ห้อง สำหรับสาขาบุรีรัมย์ก็รีโนเวทเช่นกัน เน้นให้ทันก่อนการแข่งขัน Motor GP และเปิดร้านอาหารสแตนอโลนด้วยในสาขานี้
พร้อมทั้งเตรียมเปิด อีคิว ภูเก็ต ที่พักหรู180 ห้องแถวหาดกะตะด้วยงบลงทุนกว่า 2,500 บาท พร้อมทั้งยังเตรียมเปิด กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประมาณ 5,000 ล้านบาทก่อนปลายปีนี้










