จากกรณีบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) บอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยการติดเชื้อไวรัสโคโรนาแบบ เจอ จ่าย จบ หรือ COVID 2 in 1 เนื่องจากสถานการณ์โควิดที่รุนแรงอย่างต่อเนื่อง และมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูง (อ่านรายละเอียดคลิก https://cms.workpointtoday.com/syn-mun-kong-cancels-infection-insurance-policy/)
ล่าสุด วันที่ 16 ก.ค. 2564 ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการสำนักงาน เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวกับ TODAY Bizview ว่า คปภ. ไม่เห็นด้วยกับการบอกเลิกกรมธรรม์ประกันโควิดดังกล่าว เพราะมองว่าประชาชนมีประกันภัยโควิดเป็นที่พึ่ง และสถานการณ์โควิดตอนนี้ค่อนข้างที่จะระบาดอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น กรณีนี้เหมือนเป็นการไปซ้ำเติมประชาชน แม้เงื่อนไขของกรมธรรม์อาจจะเปิดช่องให้สามารถทำได้ แต่ว่าไม่ควรเวลาที่ควรทำ
“เรามีนโยบายมาโดยตลอดว่าให้บริษัทคำนึงถึงขีดความสามารถในการรับประกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของโควิด เพราะจะมีช่วงที่พอรับประกันโควิดครบตามที่ระบุไว้ จะต่อหรือไม่ต่อต่างๆ เราย้ำมาโดยตลอด ซึ่งถ้าเกิดสมมติว่าจะไม่ทำในรายใหม่ที่เขายังไม่ได้ทำประกัน อันนี้สามารถทำได้ แต่ในกรณีที่ทำไปเรียบร้อยแล้วก็ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน”
เลขาธิการ คปภ. กล่าวอีกว่า คปภ.จะใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก คือจะเจรจาก่อน ให้เขาปรับท่าทีหรือไม่ เพราะการบอกเลิกต้องใช้เวลาบอกล่วงหน้า 30 วัน ดังนั้นก็จะพูดคุยกัน ปรับความเข้าใจกันก่อน แต่ถ้ายังไม่ปรับความเข้าใจ ก็จะใช้มาตรการหนักทางกฎหมาย เพราะเป็นอำนาจของนายทะเบียนในการที่จะสั่งให้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในกรมธรรม์บางส่วน ในกรณีที่นายทะเบียนเห็นสมควร ซึ่งกรณีนี้ค่อนข้างชัดเจนว่าทำให้ประชาชนเดือดร้อนนั้นเกิดความไม่เป็นธรรม ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการพูดคุยกับสินมั่นคง
“ทั้งนี้ ก่อนที่สินมั่นคงจะส่งหนังสือถึงลูกค้า ไม่ได้มีการหารือกับ คปภ.ก่อน พอเราทราบข่าวก็ได้มีการหารือกันผ่านสมาคมประกันวินาศภัยไทย ซึ่งเดี๋ยวคงจะมีความคืบหน้าต่อไป”
ดร.สุทธิชัย ย้ำว่า สำหรับการบอกเลิกดังกล่าว ขณะนี้ประชาชนยังได้รับความคุ้มครองอยู่ เนื่องจากความคุ้มครองจะสิ้นสุดจะมีผลเมื่อพ้น 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ลูกค้าได้รับหนังสือเป็นต้นไป
“บ่ายนี้จะมีคำสั่งออกมา ถ้าเขาฝ่าฝืนคำสั่งก็จะมีโทษปรับ นอกจากนั้นก็อาจจะมี social sanction ซึ่งอาจกระทบเยอะมาก แต่ส่วนของเราก็ดำเนินการตามกฎหมาย
“ทั้งนี้ ที่เราสั่งให้แก้ไขข้อความ คือแก้เป็นไม่สามารถให้บอกเลิกได้ ดังนั้นถ้าเขาไม่สามารถบอกเลิกได้ ประชาชนก็สามารถที่จะเคลมประกันได้ คือเรามีคำสั่งว่าให้ข้อความนี้ใช้ไม่ได้ ถ้าเขาไม่ให้ ประชาชนก็ฟ้องร้องได้ เพราะฉะนั้นเงื่อนไขที่จะต้องจ่ายในกรณีเจอจ่ายจบก็ยังคงอยู่ แต่ว่าปรับก็จะโดนปรับด้วย”
