ศาลปกครองไม่รับคำฟ้องกลุ่มขอใช้ 3 สารเคมีต่อ ชี้มติแบนยังไม่มีผล

ศาลปกครองไม่รับคำฟ้องกลุ่มขอใช้ 3 สารเคมีต่อ ชี้มติแบนยังไม่มีผล

ภาพ : FB เครือข่ายอาสาคนรักแม่กลอง

จากรณีเมื่แวันที่ 28 ต.ค. น.ส.อัญชุลี ลักษณ์อำนวยพร ประธานเครือข่ายอาสาคนรักแม่กลอง ฐานะตัวแทนกลุ่มตัวแทนเกษตรกร 1,091 คน จาก 6 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี,ระยอง,นครราชสีมา,สุพรรณบุรี ,ราชบุรี และสมุทรสงคราม ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองให้ไต่สวนฉุกเฉินเพื่อให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว กรณีคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติแบน 3 สารเคมีการเกษตร พาคาควอต,ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 62 โดยไม่มีมาตรการรองรับทำให้เกษตรกรได้รับผลกระทบ

นอกจากนี้ยังยื่นฟ้องผู้ที่เกี่ยวข้องกับการแบน 3 สารเคมีการเกษตร ประกอบด้วย คณะกรรมการวัตถุอันตราย ,คณะกรรมการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้เพิกถอนมติที่ระงับการผลิต นำเข้าและครอบครอง

ต่อมาวันที่ 30 ต.ค. ศาลปกครองได้ไต่สวนคำขอของกลุ่มเกษตรกร ผู้ร้องที่ขอให้ระงับมติแบน 3 สารเคมี และผู้ถูกร้องคือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยใช้เวลา 7 ชั่วโมง ตั้งแต่ 10.00-17.00 น.

วันที่ 1 พ.ย. ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องคดีดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงให้ วัตถุอันตรายไกลโฟเซต คลอร์ไพริฟอส และพาราควอต จากวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 (ต้องขึ้นทะเบียนและขออนุญาต) เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 (ห้ามมิให้ผู้ใดผลิต นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครอง) ตามกฎหมายคือ พ.รบ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 มาตรา 18 วรรคสอง กำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ร่วมกันระหว่าง คณะกรรมการวัตถุอันตราย กับ รมว.อุตสาหกรรมโดยการออกเป็นประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม

เมื่อมติของ คณะกรรมการวัตถุอันตราย ในการประชุม เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 62 เป็นเพียงมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกรมวิชาการเกษตรที่ขอให้มีการเปลี่ยนแปลงชนิดของวัตถุอันตรายไกลโฟเซต คลอร์ไพริฟอส และพาราควอต จากวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4
โดยกรมวิชาการเกษตรจะต้องไปจัดทำร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนแล้วนำร่างประกาศดังกล่าวมาเสนอ คณะกรรมการวัตถุอันตราย ในการประชุมครั้งต่อไป

มติของคณะกรรมการวัตถุอันตราย จึงเป็นเพียงขั้นตอนการเตรียมการที่จะจัดให้มีประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ยังไม่มีผลทางกฎหมายเป็นกฎ คำสั่ง หรือการกระทำอื่นใดที่จะนำมาฟ้องขอให้ศาลปกครองมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเพิกถอนได้ ตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบกับมาตรา 72 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542

เช่นเดียวกับมติของ คณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง ในการประชุมครั้งที่ 4/2560 ที่มีมติให้ยกเลิกการใช้วัตถุอันตรายไกลโฟเซต คลอร์ไพริฟอส และพาราควอต ก็เป็นเพียงการเสนอความเห็นไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูงตามคำสั่งกระทรวงสาธารณสุข ที่ 2383/2559 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนปัญหาการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง ลงวันที่ 26 ธ.ค. 2559 เท่านั้น ไม่มีผลทางกฎหมายเป็นกฎ คำสั่ง หรือการกระทำอื่นใดของฝ่ายปกครองที่จะนำมาฟ้องขอให้ศาลปกครองมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเพิกถอนได้เช่นกัน

ศาลปกครองกลางจึงไม่อาจรับคำฟ้องของผู้ฟ้องคดีทั้ง 1,091 คนไว้พิจารณาได้ และไม่จำต้องวินิจฉัยตามคำขอเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษาของผู้ฟ้องคดีดังกล่าว

ศาลปกครองกลางจึงมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ

 

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง
ศาลปกครองไม่รับคำฟ้องกลุ่มขอใช้ 3 สารเคมีต่อ ชี้มติแบนยังไม่มีผล