
วันที่ 9 ม.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อ (บก.ปทส.) นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน เดินทางไปติดตามความคืบหน้าของคดีบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ และการถือครองที่ดินของนายทวี ไกรคุปต์ บิดาของ น.ส.ปารีณา ที่อำเภอสวนผึ้ง รวมทั้งยื่นคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีรุกป่าสงวนแห่งชาติ เป็นเอกสารเพิ่มเติม

แฟ้มภาพ
นายวีระ กล่าวว่า คดีนี้ไม่ใช่คดีที่มีความซับซ้อนแต่อย่างใด ทั้ง สภ.จอมบึง ท้องที่คดี น.ส.ปารีณา และ สภ.สวนผึ้ง ท้องที่คดี นายทวี สามารถสืบสวนสอบสวนได้ทันที ซึ่งหลังจากที่ตนได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ พนักงานสืบสวนสอบสวนก็ได้มีการเรียกพยานมาสอบปากคำ แต่มีคำสั่งจาก พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้หยุดการสอบสวนทั้งหมดไปเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.62 และให้ส่งเรื่องไปที่ตำรวจภูธรภาค 7 ส่งเรื่องต่อไปยังกองบัญชาการสอบสวนกลาง ทำให้คดีไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด จนเมื่อวันที่ 2 ม.ค. 63 ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งให้ บก.ปทส. เป็นเจ้าภาพรวมคดีมาดำเนินการ

วีระ สมความคิด แฟ้มภาพ วันแจ้งความคดี น.ส.ปารีณา
นายวีระ ให้ความเห็นว่า การรวมคดีทำให้เกิดความล่าช้า เพราะมีการโยนเรื่องกันไปมาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถือเป็นการประวิงเวลา อีกทั้งการยื่นเอกสารเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ บก.ปทส.ไม่รับเอกสาร โดยอ้างว่าจะรับฟังข้อมูลจากนิติกรป่าไม้เท่านั้น ดังนั้นตนจะเก็บหลักฐานทั้งหมดหากพบสิ่งไม่ถูกต้อง ทั้งนี้หากมีการปล่อยให้รัฐและประชาชนเสียประโยชน์ ถ้า น.ส.ปารีณา และนายทวี ไกรคุปต์ ลอยนวล สังคมจะอยู่อย่างไร









