จากกรณีที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์ ในเรื่องของกลุ่มคนที่นำปัสสาวะมารักษาโรค ทั้งดื่ม หยอดตา ล้างแผล อาบ เพราะเชื่อว่าจะสามารถรักษาได้สารพัดโรค นอกจากนั้นยังมีการนำปัสสาวะของตนเองไปแอบใส่ให้ผู้อื่นดื่มเพราะอยากช่วยรักษาอาการป่วยอีกด้วย
มีครูชำนาญการพิเศษแห่งหนึ่งคอมเมนท์เล่าว่า “เราเป็นครูสอนเด็กประถมต้นค่ะ เราจะทําน้ำปัสสาวะกลั่นสมุนไพร นําไปไว้ประจําที่โรงเรียน เวลาเด็กไม่สบายเขาจะมาขอยากับเรา เราไม่ใช่ ฝ่ายพยาบาล ไม่มียา เราก็เลยเอาน้ำปัสสาวะกลั่นให้เด็กกินผสมน้ำครึ่งส่วน เด็กส่วนมากจะปวดท้องจนตัวงอ เพราะมักชอบกินน้ำอัดลม ขนมหวาน ไม่ทานข้าวเช้า หรือบางคนเป็นไข้ตัวร้อนมาก ผลปรากฏว่าหลังจากกินยาวิเศษของครู แล้วจะหายภายใน 30 นาที ทดลองมากับเด็กเกือบ 30 คน ได้ผลทุกคน เราจะบอกเด็กว่าเป็นน้ำมนต์มาจากวัด ไม่เชื่อต้องลองเองค่ะ”

ทันตแพทย์ท่านหนึ่ง เล่าว่า “ทันตแพทย์หญิง……………………. จาก กทม. จิตอาสาแพทย์วิธีธรรมผู้ที่ใช้น้ำปัสสาวะมากว่า 8 ปี ตั้งแต่ปี 2554 ใช้น้ำปัสสาวะในการรักษาแผลจากการถอนฟันและฝังรากเทียมโดยไม่ต้องทานยาแก้อักเสบแก้ปวด”

พยาบาลวิชาชีพท่านหนึ่ง เล่าว่า “ที่อนามัยผมใช้น้ำปัสสาวะกลั่นล้างและแพ็ค แผลเบาหวาน แผลแห้งและหาย”

พ่อค้าก๋วยเตี๋ยวท่านหนึ่ง เล่าว่า “ที่บ้านขายก๋วยเตี๋ยวคับ คนในชุมชนมา กินเยอะกันพอสมควรส่วนมากจะเป็นพวกทํางานก่อสร้าง มากินกันช่วงเที่ยงเห็นพี่ๆ หลายคนบ่นปวดเอวบ้าง ปวกเมื่อยบ้างก็ไม่รู้จะช่วยยังไง จะแนะนําตรงๆ ก็กลัวจะหาว่ากวนตีน ผมเลยแอบเอาปัสสาวะของผมใส่ในหม้อน้ำซุป ลูกค้าติดกันเพียบเลยครับ บอกกันว่ากินร้านนี้แล้วหายปวดเมื่อย มีสูตรเด็ดอะไรหรือเปล่า”

หลังจากที่มีคอมเมนท์จากอาชีพต่างๆ แอบใส่น้ำปัสสาวะเพื่อรักษาคนอื่น หมอแล็บแพนด้า หรือ นายภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความเตือนว่า “เรียนเจ้าสำนักลัทธิดื่มปัสสาวะ ช่วยควบคุมคนของพวกคุณด้วย ถ้าคิดว่าเยี่ยวมันดีก็เก็บไว้กินเอง ไม่ห้ามแล้ว!! แต่อย่ามายุ่งกับคนอื่นที่เขาไม่เชื่อ อย่าแอบเอามาใส่ให้คนอื่นกิน แบบนี้สามารถถูกฟ้องได้เลยนะ”

ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขทำกราฟฟิกเตือนว่า ดื่มปัสสาวะไม่สามารถรักษาโรคได้ อีกทั้งยังไม่มีงานวิจัยทางคลินิกที่น่าเชื่อถือมารองรับว่าสามารถรักษาโรคได้ อย่าหลงเชื่อ










