Penguin Eat Shabu ออกแถลงการณ์ขอโทษลูกค้าต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกโซเชียลมีเดีย กรณีพบหนองในเนื้อหมู พร้อมยินดีรับผิดชอบกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ด้วยการประกาศปิดทุกสาขาเป็นเวลา 1 วัน เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ล่าสุดได้ประสานนักวิชาการด้านปศุสัตว์เพื่อทำการวิเคราะห์ตรวจสอบปัญหา โดยคาดว่าจะทราบผลไม่เกิน 3 วัน
วันที่ 7 ธ.ค.2563 เฟซบุ๊กแฟนเพจ Penguin Eat Shabu โพสต์คำแถลงการณ์ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกโซเชียลมีเดีย โดยมีเนื้อหาระบุว่า จากกรณีที่คุณ Maimai Areeya ที่ได้มีการโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวเรื่องความผิดปกติของเนื้อหมูที่พบจากทางร้าน Penguin Eat Shabu สาขา Terminal21 เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 53 เวลา 21.10 น. นั้น และได้มีการแจ้งมาทาง Messenger ของทางเพจในเวลา 22.08 น. ของวันเดียวกัน ทันทีที่ บริษัทฯ ทราบเรื่องจากทางคุณ Maimai Areeya ทาง บริษัทฯ ได้ทำการติดต่อลูกค้ากลับทางโทรศัพท์ในวันที่ 2 ธ.ค. 63 จากทางหัวหน้าเชฟใหญ่ของทางบริษัทฯ เพื่อแสดงการขอโทษและรับฟังปัญหาที่ลูกค้าแจ้งมาอย่างจริงใจ

พร้อมทั้งแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวโดยได้มีการแจ้งให้ลูกค้าเข้าตรวจเช็กร่างกายกับทางโรงพยาบาลเพื่อตรวจสอบอาการผิดปกติต่างๆ โดยทางบริษัทฯ ยินดีรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด และได้มีการโทรติดตามอาการกับทางลูกค้าในวันที่ 3 ธ.ค. 63 และทีมงานได้มีการติดตามเพื่อขอรับใบเสร็จการรักษาจากทางลูกค้าในวันที่ 4 ธ.ค. 63 ทาง Messenger ส่วนตัว
และเพื่อความสบายใจสำหรับลูกค้าที่จะเข้ามารับประทานอาหารที่ร้านเพนกวิ้นฯ ทางบริษัทฯ ได้ทำการยกเลิกเนื้อหมูสันคอล็อตดังกล่าวในทุกสาขาตั้งแต่วันที่มีการทราบถึงปัญหา และตีกลับคืนไปทางซับพลายเออร์เพื่อให้ตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งสั่งให้มีการตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบทั้งหมดของทางร้านในทุกสาขาและมีการประสานในการติดต่อหานักวิชาการในการตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้น
และในกรณีที่ทางคุณ Maimai Areeya ได้มีการเรียกพนักงานมาสอบถามปัญหาที่เกิดขึ้นเบื้องต้นทางร้านกลับให้ข้อมูลที่ผิดพลาด ทั้งนี้ทาง บริษัทฯ ได้ส่งทีมจากส่วนกลางเข้าไปอบรมตักเตือนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นรวมทั้งได้ให้ความรู้แก่พนักงานถึงเรื่องวัตถุดิบพร้อมกำชับเรื่องมาตรฐานการควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบก่อนเสิร์ฟถึงมือลูกค้าให้มีคุณภาพดีที่สุดเพื่อที่จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก
บริษัทฯ และทีมงานเพนกวิ้นฯ ทุกคนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมากซึ่งทางเรายึดถือในการพัฒนามาตรฐานในทุกๆ ด้านให้ดียิ่งขึ้นมาตลอด 6 ปี เหตุการณ์ในครั้งนี้ ถือเป็นความผิดพลาดของทาง บริษัทฯ และทีมงานเพนกวิ้นฯ ที่ไม่สามารถอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจอย่างชัดเจนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นได้
ทั้งนี้ เพื่อให้ลูกค้าทุกคนเกิดความสบายใจและเพื่อความกระจ่าง บริษัทฯ ได้ทำการประสานนักวิชาการด้านปศุสัตว์เพื่อทำการวิเคราะห์ตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้น โดย บริษัทฯ คาดการณ์ว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 3 วันและจะมีการรายงานผลทันทีหลังจากทาง บริษัทฯ ได้รับคำอธิบายจากทางนักวิชาการด้านปศุสัตว์เรียบร้อยแล้ว และทาง บริษัทฯ จะทำการปิดร้านทุกสาขาเป็นเวลา 1 วัน (7 ธ.ค. 63) เพื่อทำความสะอาดอุปกรณ์ทุกชิ้นที่มีการสัมผัสต่อตัววัตถุดิบอย่างละเอียด หากพบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจากความผิดพลาดของบริษัทฯ บริษัทฯ ยินดีในการรับผิดชอบความเสียหายในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกค้าทุกๆ คน
ในเบื้องต้น บริษัทฯ อยากให้ลูกค้ามั่นใจว่าเนื้อสัตว์ที่บริษัทฯ นำมาจำหน่ายในทุกสาขาจากทางผู้จำหน่ายได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์ว่าเป็นฟาร์มสุกรที่ปลอดสารเร่งเนื้อแดงและมีการผ่านการตรวจสอบด้านโรคติดต่ออันตรายโดยมีเอกสารรับรองอย่างถูกต้องและเพื่อป้องกันปัญหาในลักษณะเดียวกันอีกในอนาคต
บริษัทฯ จะมีมาตรการตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบจากผู้จำหน่ายที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้นพร้อมทั้งจะมีการเพิ่มการฝึกอบรมพนักงานเรื่องมาตรฐานอาหารและการควบคุมคุณภาพอาหารก่อนถึงมือลูกค้าอย่างเข้มงวด
ทางบริษัทฯ ผู้บริหารและทีมงานทุกคนขอแสดงความเสียใจจากใจจริงในเหตุการณ์ในครั้งนี้ต่อทางคุณ Maimai Areeya และลูกค้าทุกคนที่ได้รับทราบเรื่อง ซึ่งตลอดระยะเวลาที่เปิดร้านมา มาตรฐานด้านคุณภาพอาหารความสะอาดของอาหารเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญมาเป็นอันดับแรกและพยายามพัฒนาอยู่เสมอ บทเรียนครั้งสำคัญในครั้งนี้สำหรับทีมงานเพนกวิ้นทุกคนทางเราขอน้อมรับจากใจจริงเพื่อนำไปยกระดับมาตรฐานการทำงานและคุณภาพให้ดียิ่งขึ้นเพื่อให้สมกับที่ลูกค้าทุกคนให้ความไว้วางใจเราและให้โอกาสทางบริษัทฯ ตลอดมา












