‘พิธา’ ร่วมฟังการไต่สวนประกันตัว ‘ทานตะวัน’ เป็นครั้งที่สาม ห่วงปัญหาสุขภาพจากการอดอาหารเพื่อความยุติธรรมของทุกคน วอนรัฐบาลตระหนักถึงผลกระทบหากบ้านเมืองไร้ขื่อแปที่เป็นสากล

วันที่ 26 พ.ค. 2565 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะนายประกันของทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักกิจกรรมกลุ่มทะลุวัง เดินทางไปศาลอาญาถนนรัชดาภิเษก เพื่อฟังผลการไต่สวนกรณีขอปล่อยตัวชั่วคราวทานตะวัน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จากการทำกิจกรรมโพลขบวนเสด็จ ซึ่งถูกถอนการประกันตัวและถูกควบคุมตัวอยู่ในทัณฑสถานหญิงกลาง พร้อมกับกระทำการอดอาหารประท้วงมาเป็นเวลากว่า 30 วันแล้ว
ก่อนหน้านี้นายพิธาได้ใช้ตำแหน่ง ส.ส. ประกอบการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวของทนายความมาแล้วถึงสองครั้ง
ครั้งแรกในวันที่ 17 พ.ค. 2565 ซึ่งศาลได้ปฏิเสธโดยอ้างเหตุผลเรื่องไม่ปรากฏหลักฐานอัตราเงินเดือน
ครั้งที่สองในวันที่ 20 พ.ค. 2565 แต่ศาลก็ได้อนุญาตให้ฝากขังต่ออีก 7 วัน ด้วยเหตุผลว่าอัยการเพิ่งได้รับสำนวนการสอบสวนจากพนักงานสอบสวน จึงไม่อาจที่จะพิจารณาสั่งฟ้องได้ทัน แต่ไม่ตัดสิทธิผู้ต้องหาในการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งมีการไต่สวนคำร้องในวันนี้
นายพิธา เปิดเผยว่า เป็นความพยายามครั้งที่สาม ในการขอปล่อยตัวชั่วคราว สิ่งที่น่ากังวลที่สุดตอนนี้คือปัญหาสุขภาพของทานตะวัน ที่ต้องอดข้าวมาสามสิบกว่าวัน จากการพูดคุยกับทนายความ ล่าสุดอาการของทานตะวันถือว่าเป็นวิกฤติทางสุขภาพแล้ว จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทานตะวันจะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อไปรักษาตัวและออกมาสู้คดีอย่างตรงไปตรงมา ในฐานะนายประกัน ยินดีทำทุกวิถีทางให้ตะวันออกมาตามที่กรอบกฎหมายกำหนด และสามารถรับรองได้ว่าจะไม่มีการหลบหนีอย่างแน่นอน
“เรากำลังพูดถึงชีวิตคนๆ หนึ่ง ที่กำลังทรมานตนเองเพื่อความยุติธรรม บ้านเมืองเราควรต้องมีขื่อมีแป มีกระบวนการยุติธรรมที่เหมาะสมและน่าเชื่อถือตามโลกสมัยใหม่ กระบวนการฝากขังต้องยึดตามหลักสากล บ้านเมืองที่ไม่มีขื่อแปทำให้ความขัดแย้งของคนในชาติทวีความรุนแรงขึ้น ประเทศไทยเป็นสมาชิกปฏิญญากับสากลหลายฉบับ โดยเฉพาะ ICCPR ที่ต้องให้สิทธิการประกันตัวและการสันนิษฐานว่าผู้ต้องหาบริสุทธิ์ไว้ก่อน (presumption of innocence) แต่ในสภาพการณ์ที่ไร้ขื่อแปเช่นนี้ย่อมไม่มีใครอยากคบค้ากับเรา จึงขอให้ผู้มีอำนาจคิดถึงผลกระทบเหล่านี้ให้มากไว้ด้วย” พิธา กล่าว










