นายกฯ เผยปัญหาลอตเตอรี่แพง พบรายละเอียดปลีกย่อยเยอะ ยืนยัน ‘แรมโบ้’ ลาออกเอง ไม่ได้บังคับ พร้อมเดินหน้าแก้ปัญหาหวยแพงต่อ
วันที่ 19 เม.ย. 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงการแก้ปัญหาราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลแพงว่า คือจริงๆ แล้วคณะกรรมการ ไม่ใช่ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ทำคนเดียว เป็นหนึ่งในอนุกรรมการอยู่ 2-3 คณะในนั้น หัวหน้าคือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ใช่ทำงานโดยฝ่ายการเมืองอย่างเดียว ทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่หาต้นตอว่าแพงตรงไหน มีหลายอย่างที่สอบพบแล้วว่าปัญหาตรงโน้นตรงนี้ มีอะไรอีกยิบยับเลย
“แรมโบ้เค้า เสกสกลเค้าก็รายงานสรุปมาแล้ว ผ่านทางท่านรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็มีหลายประเด็นด้วยกัน โดยเฉพาะในเรื่องของโควตาลอตเตอรี่ ที่แจกไปยังผู้ประกอบการรายย่อยส่วนหนึ่ง กับอีกส่วนหนึ่งที่แจกจ่ายไปยังสมาคมต่างๆ ประมาณสัก 31 ล้านฉบับ / ที่เหลือจาก 100 ล้านฉบับ ก็จ่ายไปบุคคล ก็ไปตรวจสอบพบว่ามีการไปร่วมเล่มกัน โดยผู้ที่รับสลากบางทีก็ต้องตรวจสอบใช่จริงหรือไม่จริงบางที แล้วไปขายเองหรือเปล่า หรือให้เขาไปรวมที่ไหนอะไรอย่างไร ถึงตามไปสู่ในเรื่องของการดำเนินคดีกันอยู่ตอนนี้ แล้วต้องไปตรวจสอบข้อเท็จจริงผู้ค้าสลากรายย่อยที่ขึ้นทะเบียนไปแล้วใช่ตัวจริงหรือเปล่า แล้วส่งไปจังหวัดไหน แล้วทำไมต้องไปรับสลากที่จังหวัดอื่น อย่างนี้มีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะ”
“ทางเสกสกล ผมไม่ได้บังคับอะไรเขา เขารู้ว่ามีปัญหา เขาไม่อยากให้นายกฯ เดือดร้อน เขาก็มาขอลาออกเอง เพื่อไปแก้ปัญหาในทางของเขา ในเรื่องของคณะกรรมการ กรรมาธิการให้เรียบร้อย เขายืนยันว่าเขาจะทำอย่างเต็มที่ ก็ไม่อยากให้นายกฯ เสียหายเท่านั้นเอง”
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายเสกสกล ได้พูดคุยเรื่องอนาคตทางการเมืองหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า “ไม่ได้คุย เป็นเรื่องของวันหน้า วันนี้เขาก็จะทำหน้าที่ตรงนี้ เขาเริ่มต้นไปแล้ว เพราะฉะนั้นก็ถือว่าทำงานสำเร็จในขั้นต้นในเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น เขาก็จะขอเวลาไปแก้ปัญหาของเขาให้เรียบร้อย”
แรมโบ้‘ ย้ำลาออกเองไม่มีใครกดดัน เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง สร้างบรรทัดฐานจริยธรรมทางการเมืองให้เกิดขึ้น

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของนายเสกสกล วันนี้ได้กล่าวย้ำถึงการลาออกจากทุกตำแหน่ง รวมถึงตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีว่า ไม่มีใครกดดันให้ลาออก แต่เป็นการตัดสินใจลาออกด้วยตัวเองเพื่อที่จะใช้เวลาไปพิสูจน์ความจริงต่อตามกระบวนการยุติธรรมให้ปรากฏข้อเท็จจริงกรณีเกี่ยวกับคลิปเสียงพูดโทรศัพท์ โดยไม่ต้องอาศัยตำแหน่งของตนเองรวมทั้งความสัมพันธ์กับผู้บังคับบัญชามาช่วยปกป้องตนเองให้พ้นผิด ซึ่งอาจจะถูกครหาว่าใช้อำนาจหน้าที่เพื่อปกป้องตนเองได้ นอกจากนี้ยังไม่อยากให้กระทบต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของนายกฯ เพราะนายกฯ ไม่มีประวัติเสียหายด่างพร้อยในเรื่องของการประพฤติผิดมิชอบใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งทุกคนก็ทราบว่า ท่านเป็นผู้นำที่มือขาวสะอาดโปร่งใสจริงๆ
“การที่ตนเองลาออกนั้นถือว่าได้ตัดสินใจอย่างถูกต้องดีที่สุดแล้ว เพราะตนเองมีความสำนึกรับผิดชอบต่อความรู้สึกของพี่น้องประชาชน อีกทั้งยังเป็นการปกป้องภาพลักษณ์ของนายกฯและรัฐบาล รวมถึงยังเป็นการสร้างบรรทัดฐานจริยธรรมทางการเมืองให้เกิดขึ้น” นายเสกสกล กล่าว
นายเสกสกล ยืนยันด้วยว่า แม้ว่าตนจะลาออกจากตำแหน่งแล้ว หากยังสามารถช่วยงานนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลในส่วนเบื้องหลัง ได้ก็จะยังช่วยต่อไป โดยเฉพาะคนที่ออกมากล่าวหาใส่ร้ายป้ายสีบิดเบือนข้อมูล ก็พร้อมจะออกมาตอบโต้ชี้แจงช่วยท่านนายกฯ และยังยืนยันที่จะเดินหน้าทำการเมืองสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป แต่ในช่วงหลังจากนี้ไปตนเองจะเดินหน้าพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้กับสังคมได้รับทราบในคลิปเสียงเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า ตนไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงใดๆ ทั้งสิ้น
- ‘ศรีสุวรรณ’ พา ‘กิ๊ก‘ พบตำรวจ ปฏิเสธไม่ได้อัดคลิปเสียง ‘แรมโบ้–จุรีพร’

ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย พา นายสุดสยาม มากแก้ว หรือ นายกิ๊ก บุคคลที่ถูกนางจุรีพร สินธุ ไพร และนายเสกสกล กล่าวหาว่าเป็นคนอัดคลิปเสียงปมโควตาหวยและเงิน 15 ล้านบาท เข้ารายงานตัวที่ สน.ดุสิต ตามหมายเรียก ซึ่งนายสุดสยาม ปฏิเสธว่าไม่ใช่คนอัดคลิปเสียงและไม่ได้เผยแพร่คลิปเสียงสู่สาธารณะ ยอมรับว่าในวันเกิดเหตุก่อนไปทานอาหาร ได้ไปพบกับนายเสกสกล ที่ตึก กพ. จริง
นายสุดสยาม ได้ยอมรับว่า จริงๆ แล้วเขาสนใจเรื่องโควตาลอตเตอรี่ เลยติดต่อนางจุรีพร ซึ่งนางจุรีพร ได้แนะนำให้มาพบกับนายเสกสกล ซึ่งหลังจากได้คุยกับนายเสกสกลแล้ว ช่วงเย็นวันนั้นเขาก็ได้ไปรับประทานอาหารกับนางจุรีพรจริง ซึ่งระหว่างรับประทาน อาหารมีคนร่วมโต๊ะ ประมาณ 5-6 คน แต่ในช่วงที่นางจุรีพรเปิดลำโพง สนทนากับนายเสกสกล มีเพียงเขาและนางจุรีพร 2 คน ซึ่งนายสุดสยามยืนยันว่าเขาไม่ได้เป็นคนอัดคลิปเสียง แต่ยืนยันว่าข้อมูลที่ทั้งสองคนพูดตรงกับคลิปเสียงที่ถูกปล่อยออกมา ไม่มีการตัดต่อใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเป็นการคุยสั้นๆ ประมาณ 2 นาที ส่วนน้ำเสียงการพูดคุยเป็นลักษณะหยอกเล่นหรือไม่ นายสุดสยามบอกว่าให้ฟังน้ำเสียงจากคลิปเอาเป็นไปตามนั้น
ส่วนเหตุผลที่เขาต้องออกมา เพราะถูกข่มขู่ และต้องการแสดงความบริสุทธิ์ ใจ และหากพบว่านายเสกสกล และนางจุรีพร แจ้งกับตำรวจไม่ตรงข้อเท็จจริง ก็พร้อมแจ้งความกลับฐานแจ้งความเท็จ
- ‘จุรีพร‘ ยังเชื่อ ‘กิ๊ก สุดสยาม‘ เป็นคนอัดคลิป ปัดพาพบ ‘แรมโบ้‘ เรื่องโควตาลอตเตอรี่
ขณะที่ทีมข่าวเวิร์คพ้อยท์ได้โทรศัพท์สอถามนางจุรีพร ถึงเรื่องดังกล่าวนางจุรีพร บอกว่า สิ่งที่นายสุดสยามพูดเป็นเรื่องไม่จริง มั่นใจว่านายสุดสยาม เป็นคนอัดคลิปและเผยแพร่คลิปแน่นอน ส่วนที่นายสุดสยาม บอกว่า ตนได้พาไปพบนายเสกสกลเรื่องโควตาลอตเตอรี่ นั้น ไม่เป็นความจริงเช่นกัน
ทั้งนี้ นางจุรีพร ได้พูดคุยกับนายเสกสกลแล้ว มีความเห็นว่าจะแจ้งความนายสุดสยามกลับฐานหมิ่นประมาท และทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง










